Jump to content
กระดานทองคำ
Sign in to follow this  
  • entry
    1
  • comments
    3449
  • views
    175607


3449 Comments


Recommended Comments



 

รายการ Get SET 12 Nov 2013 By classicgoldfutures

 

คุณณัฐฑี จุฑาวรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแนวโน้ม ราคาทองคำและปัจจัยที่กระทบต่อราคาทองคำในช่วงสัปดาห์

ในรายการ Get SET ทางช่อง Money Channel ดำเนินรายการโดยคุณบรรพต ธนาเพิ่มสุข

วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน 2556

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- ราคาทองคำหลุดระดับ 1300 เหรียญลงมา เป็นสัญญาณลบของราคาทองคำ

ให้แนวรับถัดๆไปที่ระดับ 1272/1250 เหรียญ ซึ่งมองว่า 1250เหรียญเป็แนวรับสำคัญ

หากหลุดระดับนี้ไป ก็อาจจะลงไปแนวจุดต่ำสุดของปีที่ 1180 เหรียญ

คาดว่าสัปดาห์นี้ ราคาทองคำจะไม่ผันผวนมากนัก เนื่องจากไม่ได้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญๆ

โดยให้กรอบของสัปดาห์ที่ระดับ 1250-1320 เหรียญ

แนวรับของวันให้ที่ระดับ 1275/1265 เหรียญ

แนวต้านให้ที่ระดับ 1290/1300 เหรียญ

โดยให้จุดcut loss ที่ระดับ 1250 เหรียญ

 

- ในช่วงนี้ค่าเงินUSD แข็งค่าและกดดันราคาทองคำ

แต่ทางด้านค่าเงินบาทมีการอ่อนค่าค่อนข้างมาก เช้านี้เปิดที่ระดับ 31.31 บาท แต่ปัจจุบันขยับที่ระดับ 31.64 บาท

ซึ่งอาจส่งผลให้ทองคำในประเทศทาจจะไม่ได้ปรับตัวลงมากนัก

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

Share this comment


Link to comment

รายการ Morning Talk 12112013 By classicgoldfutures

 

 

รายการ Morning Talk วิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 โดย ฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- เมื่อคืนราคาทองคำในตลาด Comex ปิดตัวลดลงไปอีก -4.77 เหรียญ ปิดไปที่ 1282.93 เหรียญ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1279-1284 เหรียญ โดยราคาก็อ่อนตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ราคาหลุด 1300 เหรียญลงมา เนื่องจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่แล้วนั้นออกมาดีทั้งการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ GDP ไตรมาส 3 ทำให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้นเลยเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ รวมถึงนักลงทุนก็มีความกังวลว่า FED จะลดมาตรการ QE ลง

 

- ภาพทางเทคนิคของราคาทองคำตอนนี้ลงมาอยู่ที่บริเวณแนวรับที่ 1280 เหรียญ ซึ่งถ้าหลุดบริเวณนี้ลงมาก็มีแนวโน้มอ่อนตัวลงมาที่ 1272 เหรียญ สำหรับแนวรับวันนี้ที่ 1275/1265 เหรียญ แนวต้านวันนี้ที่ 1290/1300 เหรียญ ให้ Trading Short อยู่ในช่วงนี้

 

- ภาพทางเทคนิคของ Silver มีแนวโน้มอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องอยู่ใต้เส้น Moving Average 200 โดยมีแนวรับที่ 21.2/20.7 เหรียญ แนวต้านที่ 21.6/21.9 เหรียญ

 

- ภาพทางเทคนิคของค่าเงินบาท ราคามีโอกาสอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวรับที่ 31.5/31.3 บาท แนวต้านที่ 31.7/31.9 บาท

 

- ภาพทางเทคนิคของราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่ RSI เข้าสู่เขต Oversold แล้ว จึงอาจมีการอ่อนตัวได้ มีแนวรับที่ 105.4/104.3 เหรียญ แนวต้านที่ 106.5/107.5 เหรียญ

 

- ภาพทางเทคนิคของราคา SET 50 ดัชนีดีดตัวแรงโดยในช่วงเช้ามีการปรับตัวลดลงมาแรงแต่ยังไม่หลุดแนวรับที่ 940 จุด MACD และ RSI ยังมีแรงหนุนที่จะปรับตัวขึ้นต่อได้ โดยให้ทยอยปิดทำกำไรในสถานะ Long มีแนวรับที่ 950/940 จุด แนวต้านที่ 966/980 จุด

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

Share this comment


Link to comment

บทวิเคราะห์ Gold Futures Strategy Report ประจำสัปดาห์ที่ 11-15 พฤศจิกายน 2556 โดยบริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

สัปดาห์ที่ผ่านมา (4-8 พ.ย.) ราคาทองคำปรับตัวลดลง 26.84 USDต่อออนซ์ (-2.04 %) มาปิดที่ 1,287.70 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,281–1,325 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวลดลงแรงหลังราคาหลุดระดับแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,300 USDต่อออนซ์ทำให้ sentiment ในการลงทุนกลับมาเป็นลบอีกครั้งหนึ่ง โดยปัจจัยที่กดดันราคาทองคำมาจากตัวเลขยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาดมองว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนตุลาคมนั้นน่าจะออกมาน้อยลง จากผลกระทบของ Government Shutdown แต่เมื่อมีการประกาศตัวเลขออกมา ตัวเลขกลับออกมาเพิ่มขึ้นมากกว่า 204,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในในช่วงครึ่งปีหลัง นักลงทุนจึงขายทองคำออกมา โดยในสัปดาห์นี้คาดการณ์ว่าราคาทองคำมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงต่อได้อีก เนื่องจากราคาทองคำไม่มีปัจจัยหนุนในระยะสั้น นอกจากนี้สถานการณ์การเมืองในประเทศทำให้ค่าเงินบาทเริ่มกลับมาเคลื่อนไหวผันผวนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทนั้นส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในประเทศค่อนข้างมาก นักลงทุนทองคำควรติดตามค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด

SPDR Gold Trust กองทุน ETF ทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ( 4-8 พ.ย. ) ซื้อทองคำทั้งสิ้น 2.10 ตัน เป็นการกลับมาซื้อสุทธิเป็นครั้งแรก หลังจากขายสุทธิออกมาเป็นสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกัน รวมสถานะถือทองคำเมื่อสิ้นสุดสัปดาห์ (8 พ.ย.) ทั้งสิ้น 868.42 ตัน โดยในวันจันทร์นี้ SPDR ไม่มีการซื้อขายเพิ่มเติม ในเดือนพฤศจิการยนนี้ SPDR ขายทองคำออกมาสุทธิทั้งสิ้น 3.60 ตัน โดยในเดือนตุลาคมและกันยายนที่ผ่านมา SPDR ขายทองคำออกมาสุทธิ 33.97 ตันและ 15.04 ตันตามลำดับ ขณะที่ยอดขายสุทธิของกองทุน SPDR ตั้งแต่ต้นปี 2013 จนถึงปัจจุบันขายสุทธิจำนวน 482.40 ตัน จากรายการการถือครองทองคำของ SPDR สังเกตได้ว่า sentiment การลงทุนทองคำยังคงเป็นเชิงลบ ถึงแม้ว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา SPDR จะเข้าซื้อก็ตาม แต่เป็นปริมาณการซื้อที่น้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณการขายในรอบก่อนหน้านี้

 

รายงานการถือครองสถานะสัญญาล่วงหน้าทองคำในตลาด COMEX รายสัปดาห์ สิ้นสุด 5 พ.ย. พบว่า มีสถานะคงค้าง(Open Interest) 386,796 สัญญา ลดลง 370 สัญญา โดยสถานะซื้อสุทธิของนักลงทุนกลุ่ม Non-Commercial ลดลงมา 9,100 สัญญา เป็น 91,136 สัญญา คิดเป็นการขายออก 9 % ส่วนสถานะขายสุทธิของนักลงทุนกลุ่ม Commercial เพิ่มขึ้น 50,113 สัญญา มาอยู่ที่ 93,900 สัญญา คิดเป็นการขายเพิ่ม จากรายงานการถือครองสถานะสัญญาล่วงหน้าทองคำ บ่งชี้ว่า นักลงทุนในกลุ่ม Non-Commercial และ Commercial อยู่ในฝั่งขาย ส่วนนักลงทุนรายย่อย หรือ Small Speculators อยู่ในฝั่งซื้อ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนักต่อราคาทองคำ

 

ประเด็นที่ต้องติดตามในรอบสัปดาห์ ได้แก่

- รายงานนโยบายการเงินและมุมมองเศรษฐกิจ รายเดือน ของธนาคารกลางยุโรป (ECB)

 

- ประชุม รมต.คลัง 17 ชาติสมาชิกกลุ่มสหภาพยุโรปที่ใช้เงินสกุลยูโร

 

- นางเจเน็ต เยลเลน รองประธานเฟด (ว่าที่ประธานเฟดคนใหม่)แถลงนโยบายการเงินต่อสภา

 

- ประชุม รมต.คลัง 28 ชาติสมาชิกกลุ่มสหภาพยุโรป

 

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่

- วันอังคาร ดัชนีธุรกิจขนาดเล็ก เดือน ต.ค.

 

- วันพุธ ยอดสต็อกน้ำมัน รายสัปดาห์, ดุลบัญชีงบประมาณของรัฐบาลเดือน ต.ค.

 

- วันพฤหัสบดี ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือน ต.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน รายสัปดาห์, ยอดผลผลิต นอกภาคเกษตรกรรม (เบื้องต้น) ไตรมาส 3/2013, ต้นทุนค่าจ้างแรงงาน (เบื้องต้น) ไตรมาส 3/2013

 

- วันศุกร์ ดัชนีกิจกรรมในภาคการผลิต (นิวยอร์ค) เดือน พ.ย., ดัชนีราคาสินค้านำเข้า เดือน ต.ค., ยอดผลผลิต ภาคอุตสาหกรรม เดือน ต.ค.

,อัตราการใช้กำลังการผลิต เดือน ต.ค., ยอดสต็อกสินค้า ภาคค้าส่ง เดือน ต.ค.

ภาพทางเทคนิคราคาทองคำรายสัปดาห์ ( 4-8 พ.ย. ) : ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1,300 อีกครั้ง และเป็นการปรับตัวลดลง 2 สัปดาห์ติดต่อกัน แนวโน้มระยะสั้นและยาวยังเป็นทิศทางขาลง จากการที่ราคาทองคำ trading อยู่ต่ำกว่าเส้น moving average 18 วันและ moving average 200 วัน ตามลำดับ ถึงแม้ว่า RSI เข้าสู่เขต oversold แล้ว แต่ยังเป็นการเสี่ยงเกินไปที่เข้าซื้อในขณะที่ราคายังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง นักลงทุนควรรอสัญญาณการกลับตัวจากรูปแบบของแท่งเทียนก่อน เพื่อเป็นสัญญาณยืนยันการกลับตัวก่อนพิจารณาการเข้าซื้อทองคำ สำหรับสัปดาห์นี้ให้แนวต้านระยะสัปดาห์ที่บริเวณ 1,290/1,310/1,335 และแนวรับระยะสัปดาห์ที่บริเวณ 1,270/1,250/1,230 แนะนำ wait and see

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

Share this comment


Link to comment

 

รายการ Gold Insight วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ วันอังคาร ที่ 12 พฤศจิกายน 2556 โดย ฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- สำหรับวันนี้ราคาทองคำมีแนวโน้มอ่อนตัวลงต่อ โดยราคาทองคำหลุดแนวรับบริเวณ 1300 เหรียญลงมา ทำให้มีแนวรับหลักบริเวณ 1270/1251 เหรียญ โดยมีสาเหตุมาจากที่มูดี้ส์ระบุเศรษฐกิจโลกจะมีเสถียรภาพมากขึ้นในช่วง 2 ปีข้างหน้า และเงิน USD ที่แข็งค่าขึ้น รวมถึงเงินยูโรที่อ่อนค่าลง

 

- ภาพทางเทคนิคของราคาทองคำหลังจากหลุดแนวรับที่ 1300 เหรียญลงมา ตกลงมาอยู่ที่บริเวณ 1280 เหรียญ ถ้าหลุดจากตรงนี้แนวรับหลักจะลงมาอยู่ที่ 1272/1270 เหรียญ และถัดมาอีกคือ 1251 เหรียญ แต่ถ้าราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบสามเหลี่ยมก็มีแนวโน้มที่จะดีดกลับได้ โดยมีแนวต้านที่ 1290/1300 เหรียญ แนวรับที่ 1275/1265 เหรียญ

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

 

Share this comment


Link to comment

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำและโลหะมีค่า วันที่ 12 พฤศจิกายน 2556 โดยบริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,280 USDต่อออนซ์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 1,276-1,283 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,276 USD ต่อออนซ์ ก่อนจะกลับมา trading ในระดับ 1,280 อีกครั้ง โดยที่ระดับ 1,280 นั้นเป็นแนวต้านเดิมก่อนที่ราคาจะปรับขึ้นแรง ทำให้แนวต้านนี้เปลี่ยนไปเป็นแนวรับสำคัญเมื่อราคาปรับตัวลดลงมาอีกครั้ง จึงคาดการณ์ว่าราคาทองคำมีโอกาสที่จะเคลื่อนไหวในบริเวณนี้ซักระยะก่อนจะเลือกทิศทางในระยะถัดไป ซึ่งสอดคล้องกับการที่ช่วงต้นสัปดาห์นี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐประกาศมากนัก กลยุทธ์ในสัปดาห์นี้จึงเน้นการ trading ในกรอบ

 

มูดีส์ชี้เศรษฐกิจโลกจะมีเสถียรภาพมากขึ้นในอนาคต มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เผยเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มที่จะมีเสถียรภาพมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า หลังจากที่เศรษฐกิจและตลาดการเงินเผชิญความผันผวนมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ยังมีความท้าทายที่สำคัญอยู่นั้น เศรษฐกิจเกิดใหม่บางประเทศยังมีแนวโน้มการขยายตัวในระยะใกล้ที่ยังไม่ดีนัก และยังต้องเผชิญกับความกังวลในระยะยาว จากการปรับนโยบายการเงินของสหรัฐสู่ภาวะปกติในท้ายที่สุดนั้น แนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวมในขณะนี้จึงดูเหมือนมีความผันผวนน้อยลงสักระยะหนึ่ง

 

เยอรมนีเผยดัชนี CPI เดือนต.ค.ร่วงต่ำสุดในรอบครี่งปี หลังราคาพลังงานลด สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีในเดือนต.ค.ร่วงลงแตะ 1.2% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่เดือนเม.ย. จากอัตรา 1.4% ในเดือนก.ย. ซึ่งสอดคล้องกับการประเมินเบื้องต้น Destatis ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อที่ชะลอลงดังกล่าว เป็นผลมาจากราคาเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลง 0.2% ในเดือนที่แล้ว หากไม่รวมราคาพลังงานที่มีความผันผวน ดัชนี CPI เดือนต.ค.ทรงตัวเมื่อเทียบรายเดือน แต่เพิ่มขึ้น 1.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

ญี่ปุ่น-สหรัฐเล็งสรุปข้อตกลงการเปิดเสรีการค้าหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ TPP ให้ได้สิ้นปีนี้ นายทาโร่ อาโสะ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ตนเองเห็นด้วยกับนายแจ็ค ลิว รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐ ว่าทั้งสองประเทศควรร่วมมือกันเพื่อหาข้อสรุปเรื่องการเปิดเสรีการค้าหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership: TPP) ให้เสร็จสิ้นภายในช่วงสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นและสหรัฐยังไม่เห็นพ้องเรื่องรายละเอียดของข้อตกลงการค้าเสรี ขณะที่ข้อตกลง TPP ภายใต้การนำของสหรัฐต้องการให้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีทั้งหมด ญี่ปุ่นจึงได้หาทางป้องกันภาคเกษตรกรรม ด้วยการคงการจัดเก็บภาษีสำหรับการนำเข้าข้าว ข้าวสาลี เนื้อวัว เนื้อหมู ผลิตภัณฑ์นมและน้ำตาล เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์อื่นๆเอาไว้

 

ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันนี้ ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 7.50% จากเดิมที่ระดับ 7.25% ในการประชุมวันนี้

 

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม

- ไม่มี

ทองคำ ราคาทองคำเริ่มชะลอการปรับตัวลดลง โดยในกราฟราย 1 ชม. Macd เริ่มมีสัญญาณ Bullish Divergence เกิดขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณเบื้องต้นของการกลับตัวของราคา นักลงทุนที่ถือสถานะ short ควรปิดสถานะทำกำไร หากราคาปรับตัวผ่านแนวต้านสำคัญขึ้นมาได้ สำหรับคืนนี้ ให้แนวต้านบริเวณ 1,285/1,290 และให้แนวรับบริเวณ 1,275/1,265

 

โลหะเงิน โลหะเงินมีสัญญาณ bullish divergence เกิดขึ้นเช่นเดียวกับราคาทองคำ ซึ่งเมื่อดูรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาแล้วจะเห็นว่าโลหะเงินค่อนข้างแข็งแกร่งกว่าราคาทองคำทำให้ในรอบการปรับตัวขึ้นนั้นโลหะเงินมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้แรงกว่าราคาทองคำ โดยคืนนี้ ให้แนวต้านบริเวณ 21.3/21.6 และให้แนวรับบริเวณ 21/20.5

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

Share this comment


Link to comment

 

รายการ Market Wise 12 Nov 2013 By classicgoldfutures

คุณณัฐฑี จุฑาวรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแนวโน้มราคาทองคำ พร้อมปัจจัยที่กระทบต่อราคาทองคำ และแนวโน้มราคา SET50 เมื่อเปิดตลาดในเช้าวันพรุ่งนี้ ทางรายการ Market Wise ทางช่อง กรุงเทพธุรกิจทีวี ในวันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน 2556

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- ราคาทองคำในสัปดาห์นี้นั้นต้องมองที่ข่าวจากฝั่งสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดีที่จะมีตัวเลขสำคัญคือ ผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน และว่าที่ประธาน Fed คนใหม่ คือ นาง Janet Yellen ที่จะออกมาแถลงนโยบาย ซึ่งสองข่าวนี้เป็นสิ่งที่ตลาดต้องจับตา ในสัปดาห์นี้ยังมองว่าราคายังแกว่งตัวในกรอบที่ค่อนข้างแคบน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1250-1320 เหรียญ โดยในช่วงนี้ให้แนะนำนักลงทุนต้องติดตามค่าเงินบาทที่เคลื่อนไหวอ่อนค่าค่อนข้างมาก โดยในเช้านี้เปิดมาค่าเงินบาทอ่อนค่าถึง 31.61 บาท ทำให้ราคาทองคำในประเทศปรับตัวลงไปไม่เท่ากับราคาทองคำในตลาดโลก

 

- สำหรับการลงทุนในช่วงนี้ราคาทองคำหลุด 1300 เหรียญลงมา เลยอาจมีการอ่อนตัวลงไปได้อีก โดยในช่วงนี้ราคาทองคำพยายามสร้างฐานที่ 1280 เหรียญ โดยดูว่าสามารถยืนเหนือ 1280 เหรียญได้ไหม ถ้ายืนได้ก็มีสิทธิ์ปรับตัวไปบริเวณแนวต้านที่ 1285/1290 เหรียญ โดยมีแนวรับที่ 1275/1265 เหรียญ ซึ่งให้ Trading ในกรอบตรงนี้ก่อน ถ้าหลุด 1265 เหรียญ ก็มีโอกาสปรับตัวลดลงมาที่ 1250 เหรียญ แนะนำให้นักลงทุนเปิด Short บริเวณแนวต้าน

 

- แนวโน้มสำหรับการเปิดตลาดของ SET 50 ในเช้าวันพรุ่งนี้ ต้องให้ติดตามสถานการณ์การชุมนุมอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะมีผลต่อ SET 50 โดยในช่วงนี้ให้ Trading ระยะสั้น โดยมีแนวต้านที่ 974/977 จุด แนวรับที่ 950/940 จุด

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

Share this comment


Link to comment

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 13 พฤศจิกายน 2556 โดยบริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy : Gold ราคาลงไปทำ low ที่บริเวณ 1,260 แล้ว rebound ขึ้นได้ วันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,260/1,251 แนวต้านบริเวณ 1,280/1,290 แนะนำ ปิด Short ทำกำไร และเปิด Long เล่นสั้นๆ โดยมีจุด Stop loss ถ้าหลุด 1,250 SET50 สถานการณ์ม๊อบยังสงบ ด้านรัฐบาลไม่ผลีผลามปราบปราม คาดหุ้นไทยทรงตัว แม้ต่างชาติเทขายต่อเนื่อง จึงควรรอจังหวะเก็งกำไรใหม่อีกครั้งเมื่อมีการแกว่งตัวรุนแรง

 

• Gold ราคาทองคำในเมื่อคืนนี้มีราคาปิดลดลง 15.32 USDต่อออนซ์ ราคาลงไปทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,260 USDต่อออนซ์ ก่อนที่จะมีการ rebound ขึ้นมา ราคาทองคำได้ร่วงลงติดต่อกัน 4 วันทำการแล้ว โดยมีปัจจัยกดดันจากค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น และนักลงทุนมีความกังวลว่าเฟดจะปรับลดมาตรการ QE ลง นอกจากนี้การประชุมของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เพิ่งสิ้นสุดไปได้สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนเนืองจากไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆเกิดขึ้น ความต้องการทองคำในตลาด physical จากเอเชียดูอ่อนแอลง ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ส่วนทางด้านปัจจัยทางเทคนิคเมื่อราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,272 จะมีแนวรับถัดไปบริเวณ 1,251 ซึ่งมีแนวโน้มจะ rebound ขึ้นได้เนื่องจาก indicator ต่างๆเริ่มส่งสัญญาณ oversold แล้ว

 

• ดัชนีดาวโจนส์ ปิดลดลง 32.43 จุด หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลพุ่งสูงขึ้น ทำให้มีการคาดการณ์ว่า เฟดจะเริ่มลดมาตรการ QE เร็วเพียงใด

 

• USD/THB ปิดที่ 31.61 บาทต่อUSD เงิน USD แข็งค่าขึ้น เมื่อคาดว่าเฟดจะลดมาตรการ QE

 

• Oil ราคาน้ำมัน Nymex ร่วงลงแรง เมื่อคาดว่าเฟดจะลดมาตรการ QE รวมถึงการคาดว่าสต๊อกน้ำมันดิบที่จะประกาศในสัปดาห์นี้จะเพิ่มขึ้น

 

• Gold ปิดวันที่ 1,267.61 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,260 –1,285 USDต่อออนซ์ โดยในเช้าวันนี้ ราคาอยู่ที่บริเวณ 1,269 USDต่อออนซ์ คาดว่าวันนี้มีแนวต้านบริเวณ 1,280/1,290 และแนวรับ 1,260/1,251

 

• USD/THB ปิดที่ 31.61 บาทต่อUSD เช้านี้อยู่ที่บริเวณ 31.62 บาทต่อUSD วันนี้ให้แนวต้านบริเวณ 31.7/31.9 ให้แนวรับบริเวณ 31.3/31.5

 

• ICE Brent ปิดที่ 105.56 USDต่อบาร์เรล วันนี้ให้แนวต้านบริเวณ 106.5/107.5 ให้แนวรับบริเวณ 105.4/104.3

 

Spot Gold

ระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,250 – 1,450 แนะนำ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน

ระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,200 –1,500 สะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

ระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,150 – 1,550 สะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

Positive View( + )

• นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารต่างๆ ทั่วโลก

• ความต้องการทองคำในตลาด Physical

 

Negative View( - )

• ความกังวลในเศรษฐกิจยุโรป

• อินเดียออกมาตรการจำกัดการนำเข้าทอง

• ความกังวลว่าเฟดจะลดมาตรการ QE ก่อนมี.ค.ปีหน้า

• เงิน USD แข็งค่าขึ้น

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้

Spot Silver

โลหะเงินปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยราคาโลหะเงินอยู่ต่ำกว่าเส้น moving average 200 ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มขาลง แต่ราคาโลหะเงินเริ่มใกล้เข้าสู่แนวรับสำคัญแล้ว ราคามีโอกาสรีบาวน์ได้

ให้แนวต้านบริเวณ 20.9 / 21.2

ให้แนวรับบริเวณ 20.5 / 20

Strategy: trading ในกรอบ

 

USD/THB

เงินบาทยังคงอ่อนค่าอยู่ โดยอินคิเคเตอร์ทุกตัวให้สัญญาณเป็นบวก ราคามีโอกาสอ่อนค่าได้อย่างต่อเนื่อง

ให้แนวต้านบริเวณ 31.7 / 31.9

ให้แนวรับบริเวณ 31.5 / 31.3

Strategy: trading long เมื่อราคาพักตัว

 

ICE Brent

น้ำมันดิบ Brent เคลื่อนไหวในกรอบแคบ ซึ่งหากสามารถยืนอยู่บริเวณนี้ได้อย่างมั่นคง ราคามีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ

ให้แนวต้านบริเวณ 106.5 / 107.5

ให้แนวรับบริเวณ 105.4 / 104.3

Strategy: trading ในกรอบ

 

SET 50

ดัชนี SET50 อ่อนตัวหลังดีดขึ้นแรงวานนี้ แต่ยังทรงตัวได้ค่อนข้างดี ทำให้วันนี้น่าจะอยู่ในกรอบ sideway พักตัวระยะสั้น ขณะที่ MACD และ RSI ดูจะลดความร้อนแรงลง

Strategy: wait & see

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- การชุมนุมต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องทุกวัน กระจายกันไปทั่วประเทศ และยกระดับเป็นการขับไล่รัฐบาล ขณะที่ฝ่ายเสื้อแดงเตรียมเรียกชุมนุมต้านฝ่ายตรงข้าม

 

ข่าวในประเทศ

- มติที่ประชุมสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์(สรส.) หนุนอารยะขัดขืน เห็นชอบให้เดินหน้าชุมนุมกดดันรัฐบาล ด้านสหภาพแรงงานการบินไทยไฟเขียวพนักงานลาหยุด 13-15 พ.ย.เพื่อร่วมชุมนุม พร้อมขู่ตัดไฟสถานที่ราชการหากรัฐใช้ความรุนแรง

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

Share this comment


Link to comment

 

รายการ Stock in Trend 13112013 By classicgoldfutures

 

คุณพรรณงาม อารยวุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับแนวโน้ม ราคาทองคำและปัจจัย ที่มีผลทำให้ราคาทองคำขึ้นและลง

พร้อมทั้งคำแนะนำสำหรับการลงทุน ในรายการ Stock in Trend

ทางเว็บไซต์ efinancethai.com ในวันพุธที่ 13 พฤศจิกายน 2556

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งการจ้างงานนอกภาคเกษตร และ GDP ไตรมาส 3 ออกมาดีเกินคาดทำให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น และมีความกังวลว่า FED จะลด QE ลง จึงทำให้ราคาทองคำลดลงติดต่อกันมา 4 วันแล้ว แต่ในช่วงเช้าวันนี้ราคามีการ Rebound ขึ้นมาได้ที่ 1269 เหรียญ มีแนวโน้มขาลงแต่ RSI เข้าใกล้เขต Oversold แล้ว จึงมีการ Rebound สั้นๆ ได้ จึงแนะนำให้ปิด Short ทำกำไรบริเวณแนวรับที่ 1260/1251 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ สำหรับคนที่เปิดสถานะ Long ถ้าหลุด 1250 เหรียญต้อง Stop Loss ทันที โดยให้แนวต้านที่ 1280/1290 เหรียญ

 

- ราคาทองคำแท่งวันนี้แนวรับที่ 18900/18870 บาท แนวต้านที่ 19200/19350 บาท ส่วน GFZ มีแนวรับ 18960/18830 บาท แนวต้านที่ 19260/19410 บาท

 

- บริเวณ 1250 เหรียญ เป็นแนวรับสำคัญสามารถที่จะซื้อสะสมได้ ถ้าหลุดบริเวณนี้ก็มีแนวรับถัดไปที่ 1220/1200 เหรียญ สำหรับการลงทุนในระยะยาวสามารถเข้าไปซื้อที่ 1250 เหรียญได้

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

Share this comment


Link to comment

 

รายการ Morning Talk วิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 โดย ฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- ราคาทองคำในตลาด Comex เมื่อคืนปิดร่วงลงไปถึง -15.32 เหรียญ ปิดไปที่ 1267.61 เหรียญ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1260-1285 เหรียญ โดยราคาลงไปทำ Low ที่ 1260 เหรียญ และสามารถ Rebound ได้ โดยราคาได้ปรับตัวลดลงมา 4 วันแล้วจากค่าเงิน USD ที่แข็งค่า และนักลงทุนคาดว่า Fed จะลด QE เมื่อราคาหลุดแนวรับ 1272 เหรียญ ซึ่งจะมีแนวรับถัดไปที่ 1251 เหรียญ

 

- ภาพกราฟราคาทองคำหลังจากที่ราคาทองคำหลุดกรอบสามเหลี่ยมมาที่แนวรับ 1260 เหรียญ เมื่อคืนนี้ ซึ่งถ้าหลุดบริเวณ 1260 เหรียญ ก็มีแนวรับที่ 1251 เหรียญ และมองว่าถ้าลงไปถึงแนวรับ 1260/1251 เหรียญ ก็มีโอกาส Rebound ได้ แต่ถ้าหลุด 1251 เหรียญลงมาก็อาจจะร่วงลงมาแรงได้ที่ 1220/1200 เหรียญ แนะนำให้นักลงทุนปิด Short เพื่อทำกำไรไปก่อน แล้วเปิด Long เล่นสั้นๆ บริเวณแนวรับ มีแนวรับที่ 1260/1251 เหรียญ แนวต้านที่ 1280/1290 เหรียญ

 

- ภาพกราฟทางเทคนิคของราคา Silver อยู่ในกรอบแนวโน้มขาลงแต่ Indicator เข้าสู่เขต Oversold แล้ว จึงมีโอกาส Rebound ได้ โดยมีแนวรับที่ 20.5/20 เหรียญ แนวต้านที่ 20.9/21.2 เหรียญ

 

- ภาพทางเทคนิคของค่าเงินบาท มีแนวโน้มอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง มีแนวรับที่ 31.5/31.3 บาท แนวต้านที่ 31.7/31.9 บาท

 

- ภาพทางเทคนิคของราคาน้ำมันดิบ Brent เคลื่อนไหวในกรอบแคบ มีแนวรับที่ 105.4/104.3 เหรียญ แนวต้านที่ 106.5/107.5 เหรียญ

 

- ภาพทางเทคนิคของราคา SET 50 เมื่อวานดีดตัวขึ้นมาได้แรง ในช่วงบ่ายมีแรงขายทำกำไรและอ่อนตัวลงมา มีแนวโน้ม Sideway อยู่ในกรอบ โดยมีแนวรับที่ 961/954 จุด แนวต้านที่ 974/977 จุด

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

Share this comment


Link to comment

 

รายการชั่วโมงธุรกิจ 13 Nov 2013 By classicgoldfutures

คุณณัฐฑี จุฑาวรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแนวโน้ม ราคาทองคำและปัจจัย ที่ทำให้ราคาทองคำผันผวน รายการชั่วโมงธุรกิจ ช่อง Nation Channel ในวันพุธที่ 13 พฤศจิกายน 2556

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- ราคาทองคำเมื่อคืนนี้มีการปรับตัวลดลงหลุด 1272 เหรียญ ถ้าราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือ 1270 เหรียญ ก็มีโอกาสลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1250 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดที่สามารถเข้าซื้อได้เพราะจะมีการ Rebound ได้ แต่ถ้าราคาทองคำหลุด 1250 เหรียญ ก็มีโอกาสปรับตัวลงต่อได้แรงไปถึงระดับ 1200 เหรียญต้นๆ ได้

 

- ภาพรวมราคาทองคำในสัปดาห์นี้ตัวเลขเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ไม่ค่อยมีความสำคัญเท่าไหร่ แต่การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจในสัปดาห์ที่แล้วออกมาดี ประกอบกับค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น จึงมีผลกดดันราคาทองคำ

 

- สัปดาห์นี้มองกรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำที่ 1240-1310 เหรียญ คิดเป็นเงินบาทที่ 18650-19450 บาท ส่วนกรอบการซื้อขายวันนี้ แนวรับที่ 1260/1251 เหรียญ คิดเป็นเงินบาทที่ 18950/18750 บาท แนวต้านที่ 1280/1290 เหรียญ คิดเป็นเงินบาทที่ 19150/19250 บาท

 

- ให้จับตาประเด็นของค่าเงินบาทด้วย เพราะประเด็นทางการเมืองที่ยังคงไม่สงบทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง เลยทำให้ราคาทองคำในประเทศไม่ได้ปรับตัวลงเท่าราคาทองคำในตลาดโลก

 

- กลยุทธ์ของ Gold Futures แนะนำให้ราคาทองคำ Rebound ขึ้นมาบริเวณแนวต้านแล้วเปิด Short Position ส่วนนักลงทุนระยะยาวที่จะเข้ามาซื้อสะสมให้รอซื้อที่บริเวณ 1250 เหรียญ แต่ถ้าหลุด 1250 เหรียญให้ Stop Loss ก่อน

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

Share this comment


Link to comment

 

รายการ Money Daily 13 Nov 2013 by classicgoldfutures

 

คุณณัฐฑี จุฑาวรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับแนวโน้ม ราคาทองคำและปัจจัย ที่มีผลทำให้ราคาทองคำขึ้นและลง

พร้อมทั้งคำแนะนำสำหรับการลงทุน ในรายการ Money Daily

ทางสถานีโทรทัศน์ Modern9 วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน 2556

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาดเลยทำให้กดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลงมาค่อนข้างแรง สำหรับนักลงทุนที่จะเข้ามาสะสมให้รอที่บริเวณ 1250 เหรียญ คิดเป็นเงินบาทคือ 18750 บาท ถ้าเกิดราคาทองคำลงมาทดสอบและรับอยู่ที่บริเวณนี้ก็มีโอกาส Rebound ได้ ถ้าเกิดหลุด 1250 เหรียญก็ต้อง Stop Loss สำหรับนักลงทุนใน Gold Futures ให้เปิด Short Position บริเวณแนวต้านและปิดทำกำไรบริเวณแนวรับที่ 1250 เหรียญ

 

- กรอบรายวันของราคาทองคำ มีแนวรับที่ 1260/1251 เหรียญ คิดเป็นเงินบาทที่ 18950/18750 บาท แนวต้านที่ 1280/1290 เหรียญ คิดเป็นเงินบาทคือ 19150/19250 บาท กรอบสัปดาห์ให้ไว้ที่ 1240-1310 เหรียญ คิดเป็นเงินบาทคือ 18650-19450 บาท

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

Share this comment


Link to comment

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำและโลหะมีค่า วันที่ 14 พฤศจิกายน 2556 โดยบริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,267 USDต่อออนซ์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 1,265-1,277 USDต่อออนซ์ เมื่อคืนวานนี้ราคาทองคำปรับตัวลดลง 15.32 USDต่อออนซ์ โดยนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการปรับลดมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟด หลังนายริชาร์ด ฟิชเชอร์ ประธานเฟดสาขาดัลลัสกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่ามาตรการซื้อสินทรัพย์เดือนละ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ที่เราดำเนินการอยู่ในปัจจุบันนั้นไม่สามารถดำเนินการได้ตลอดไป นักลงทุนควรเตรียมพร้อมที่ปรับตัวไว้อยู่เสมอ ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนทยอยปรับพอร์ทการลงทุน โดยการเทขายทองคำออกมา สำหรับในคืนนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐสำคัญประกาศ ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะไม่เคลื่อนไหวผันผวนมากนัก และมีแนวโน้มที่จะเกิด technical rebound เนื่องจากราคาปรับตัวลดลงต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลา 4 วันทำการแล้ว

 

เจ้าหน้าที่บีโอเจเผยยังเฝ้าระวังความเสี่ยงขาลงที่อาจกระทบศก.ญี่ปุ่น นายริวโซ มิยาโอะ สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยในวันนี้ว่า เขาเฝ้าระวังความเสี่ยงขาลงของเศรษฐกิจญี่ปุ่น เนื่องจากมีสถานการณ์ความไม่แน่นอนในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ขณะที่ปัญหาการคลังสหรัฐต้องมีการจับตากันต่อไป และยังกล่าวว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและประเทศอื่นๆอาจเกิดขึ้นล้าช้าออกไป ซึ่งขึ้นอยู่กับผลของปัญหาเพดานหนี้สหรัฐ

 

สนง.สถิติออสเตรเลียเผยค่าจ้างแรงงานปรับตัวขึ้น 0.5% ใน Q3/2556 สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) เปิดเผยว่าค่าจ้างแรงงานของออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนก.ย. รายงานระบุว่า อัตราค่าตอบแทนรายชั่วโมง ที่ไม่รวมโบนัส ปรับตัวขึ้น 0.5% ในไตรมาส 3 ดัชนีราคาค่าจ้างในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 2543 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าตลาดแรงงานออสเตรเลียในไตรมาสที่แล้วอยู่ในภาวะซบเซา

 

เกาหลีใต้เผยอัตราว่างงานเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 0.1% รายงานของรัฐบาลเกาหลีใต้ระบุว่า อัตราว่างงานเดือนต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% เทียบกับเดือนก่อนหน้า แตะที่ 2.8% เนื่องจากตัวเลขว่างงานของกลุ่มวัยรุ่นขยายตัวในอัตราที่รวดเร็ว โดยอัตราว่างงานเดือนต.ค.ในกลุ่มผู้ที่มีอายุระหว่าง 15-29 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 7.8% อย่างไรก็ตาม จำนวนประชาชนที่มีงานทำในเดือนต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 476,000 ราย เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 25.545 ล้านรายในเดือนต.ค. ซึ่งส่งผลให้จำนวนผู้มีงานทำขยายตัวเหนือระดับ 400,000 ราย ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

 

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม

- ไม่มี

ทองคำ ราคาทองคำเมื่อดูจากกราฟราย 1 ชม. macd line ตัดขึ้นเหนือเส้น signal line เป็นการ confirm สัญญาณ Bullish Divergence ที่เกิดขึ้น ทำให้ราคาทองคำมีโอกาสที่จะรีบาวน์ขึ้นได้ สำหรับคืนนี้ ให้แนวต้านบริเวณ 1,280/1,287 และให้แนวรับบริเวณ 1,268/1,260

 

โลหะเงิน โลหะเงินปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยราคาโลหะเงินอยู่ต่ำกว่าเส้น moving average 200 ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มขาลง แต่ราคาโลหะเงินเริ่มใกล้เข้าสู่แนวรับสำคัญแล้ว ราคามีโอกาสรีบาวน์ได้ โดยคืนนี้ ให้แนวต้านบริเวณ 20.85/21.05 และให้แนวรับบริเวณ 20.6/20.3

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

Share this comment


Link to comment

 

รายการ Gold Insight วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน 2556 โดย ฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- ราคาทองคำมีการ Rebound ขึ้นมาเคลื่อนไหวบริเวณ 1275 เหรียญ โดยภาพทางเทคนิคเมื่อคืนไปทำ Low ที่ 1260 เหรียญ แล้วมีการดีดกลับได้ ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงของการ Rebound โดยมีแนวรับที่ 1260/1255 เหรียญ แนวต้านที่ 1285/1290 เหรียญ

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

 

Share this comment


Link to comment

 

รายการ Get SET 14 Nov 2013 By classicgoldfutures

 

คุณณัฐฑี จุฑาวรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแนวโน้ม ราคาทองคำและปัจจัยที่กระทบต่อราคาทองคำในช่วงสัปดาห์

ในรายการ Get SET ทางช่อง Money Channel ดำเนินรายการโดยคุณบรรพต ธนาเพิ่มสุข ในวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน 2556

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- จากสุนทรพจน์ของนางเจเนต เยเลน ว่าที่ปรธานFED คนใหม่ได้ออกมาแถลงว่าจะยังคงมาตรการณ์QE เนื่องจากตัวเลขการว่างงานของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับที่ยังสูง นอกจากนี้ค่าเงินUSD เมื่อวานนี้ก็มีการอ่อนค่าลงด้วย ทำให้ราคาทองคำมีปัจจัยหนุนนำและปิดตัวบวก โดยมีการขึ้นมาทดสอบแนวต้าน 1285 เหรียญ แต่ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านนี้ไปได้ คาดว่าวันนี้ราคาทองคำอาจจะมีการขึ้นมาทดสอบแนวต้านได้ แต่ถ้าหากยังไม่สามารถผ่าน1300 เหรียญไปได้ ก็คาดว่าจะยังเคลื่อนไหวในระดับ 1250-1300 เหรียญ

 

- ให้แนวรับของวันที่ระดับ 1275/1265 เหรียญ

ส่วนแนวต้านให้ที่ระดับ 1285/1295 เหรียญ

GFZ แนวรับ 19120/19000 บาท

แนวต้าน 19270/19420 บาท

 

- ในช่วงนี้ก็ยังคงต้องติดตามเรื่องค่าเงินUSDและค่าเงินบาทด้วย เนื่องจากมีความเคลื่อนไวค่อนข้างผันผวน

ส่วนวันนี้ก็จะมีตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานประกาศด้วย

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

Share this comment


Link to comment

 

รายการ Morning Talk วิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 โดย ฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- สำหรับเมื่อคืนราคาทองคำปิด + 11.00 เหรียญ ปิดไปที่ 1278.61 เหรียญ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1265-1279 เหรียญ ราคาทองคำเมื่อคืนมีการ Rebound กลับขึ้นมาได้หลังจากที่ค่าเงิน USD อ่อนค่าลง

 

- กราฟราคาทองคำเมื่อลงไปที่แนวรับ 1260 เหรียญก็ดีดกลับขึ้น และชนแนวต้าน 1285 เหรียญไม่ผ่าน ตรงนี้ต้องติดตามดูว่าจะมีการ Rebound ขึ้นต่อเนื่องหรือไม่ ถ้า Rebound ขึ้นต่อเนื่อง การย่อตัวก็คงไม่หลุดแนวรับแรกที่ 1275 เหรียญ ก็น่าน่าจะมีการดีดตัวขึ้นต่อ แต่ถ้า Rebound ไม่ต่อเนื่องก็อาจเกิดการย่อตัวอ่อนลงเรื่อยๆ โดยมีแนวรับที่ 1275/1265 เหรียญ แนวต้านที่ 1285/1295/1310 เหรียญ คำแนะนำให้ปิด Long ทำกำไรก่อนสำหรับคนที่เล่นสั้นๆ รอดูการอ่อนตัวแล้วค่อยเปิด Long เล่นรอบใหม่ ส่วนผู้ที่ถือสถานะยาวกว่านี้ควรรอการทำ High ใหม่ที่สูงกว่าเดิม

 

- กราฟราคา Silver มีแนวโน้มขาลงแต่การปรับตัวลงมาอยู่ที่บริเวณแนวรับสำคัญ ถ้าไม่หลุด 20.4 เหรียญ ก็มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ แนวรับที่ 20.5/20 เหรียญ แนวต้านที่ 20.9/21.2 เหรียญ

 

- กราฟราคาค่าเงินบาท แข็งค่าขึ้นหลังไปทดสอบแนวต้านที่ 31.6 บาทแล้วไม่ผ่าน ราคามีการพักตัวลงมา แต่แนวโน้มในระยะยาวมีการอ่อนค่าได้อีก โดยมีแนวรับที่ 31.4/31.2 บาท แนวต้านที่ 31.7/31.9 บาท

 

- กราฟราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวเพิ่มขึ้น Upside ในระยะสั้นเริ่มจำกัดหลังจากที่ RSI เข้าสู่เขต Overbought แล้วจึงอาจมีแรงขายทำกำไร แนวรับที่ 106.5/105.6 เหรียญ แนวต้านที่ 107.4/108.2 เหรียญ

 

- กราฟสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหุ้น KTBZ13 เคลื่อนไหวในกรอบ Channel ขาลง MACD ดีดตัวแคบ มีแนวรับที่ 19.1/18.8 บาท แนวต้านที่ 19.9/20.2 บาท ให้ wait and see แต่ถ้า SET 50 เปิดบวกได้ ทำให้ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นได้

 

- กราฟสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหุ้น TRUEZ13 มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ มีแนวรับที่ 8.25/8.10 บาท แนวต้านที่ 8.50/8.65 บาท

 

- กราฟสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหุ้น BlandZ13 ปรับตัวทดสอบแนวต้านมีโอกาสอ่อนตัวลงมา มีแนวรับที่ 1.65/1.60 บาท แนวต้านที่ 1.70/1.76 บาท

 

- กราฟราคา SET 50 ในช่วงเช้าวันนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกมีการปรับตัวขึ้น จึงอาจมีการดีดกลับได้ ให้ Trading Long โดยมีแนวรับที่ 957/949 จุด แนวต้านที่ 966/974 จุด

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

Share this comment


Link to comment

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 14 พฤศจิกายน 2556 โดยบริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy: Gold ราคา rebound ขึ้นแต่ยังไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,285 ทำให้อ่อนตัวลงมาอีก วันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,275/1,265 แนวต้านบริเวณ 1,285/1,295/1,310 แนะนำ ปิด Long ทำกำไร รออ่อนตัวบริเวณแนวรับเพื่อเปิด Long ใหม่ โดยมีจุด Stop loss ถ้าหลุด 1,250 SET50 ม๊อบประกาศจะยกระดับอีกแล้ว ฝรั่งก็ขายหนักขึ้นทุกที แต่สุนทรพจน์ของว่าที่ประธาน Fed อาจช่วยหนุนหุ้นไทยในวันนี้เหมือนอย่างที่อุ้มดาวน์โจนส์มาแล้วเมื่อคืน จึงน่า trading long ถ้าตลาดเปิดไม่สูง

 

• Gold ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อคืนนี้มีราคาปิดเพิ่มขึ้น 11.0 USDต่อออนซ์ ราคา rebound ขึ้นหลังจากที่ลงไปทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,260 USDต่อออนซ์เมื่อวันก่อน แนวโน้มคาดว่าราคาจะปรับขึ้นต่อได้ โดยมีปัจจัยหนุนจากค่าเงิน USD อ่อนค่าลง และจากสุนทรพจน์ที่เตรียมไว้ของนางเจเนท เยลเลน ว่าที่ปธ.เฟดคนใหม่ต่อคณะกรรมการธนาคารวุฒิสภาให้การสนับสนุนนโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไป โดยอาจจะยังไม่ลดมาตรการ QE ในเร็วๆนี้ เนื่องจากอัตราการว่างงานอยู่ในระดับสูง อีกทั้งตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐยังห่างไกลจากศักยภาพ ราคาทองคำขึ้นไปทำ high บริเวณ 1,285 USDต่อออนซ์ในช่วง 7.00 น.เช้าวันนี้ และอ่อนตัวลงมา คาดว่า หลังคำแถลงการณ์ของนางเยลเลนในคืนนี้ ราคาทองคำจะปรับเพิ่มขึ้นได้อีก ส่วนทางด้านปัจจัยทางเทคนิคราคากำลังอยู่ในช่วงของการ rebound แต่ในระยะสั้นมีแรงขายทำกำไรเมื่อไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,285 แนะนำ ปิด Long ทำกำไร และรออ่อนตัวบริเวณแนวรับค่อยเปิด Long ใหม่ โดยมีจุด Stop loss ถ้าหลุด 1,250 วันนี้มีแนวต้านบริเวณ 1,285/1,295/1,310 แนวรับบริเวณ 1,275/1,265

 

• ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเพิ่มขึ้น 70.96 จุด หลังการประกาศผลประกอบการของบ. Macy’s ออกมาอย่างแข็งแกร่ง และได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย และสินค้าเทคโนโลยี่

 

• USD/THB ปิดที่ 31.49 บาทต่อUSD เงิน USD อ่อนค่าลง หลังจากมีการเปิดเผยสุนทรพจน์ของนางเยลเลนที่จะแถลงต่อวุฒิสภาในคืนนี้ กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังอ่อนแอและเฟดไม่รีบร้อนที่จะถอนมาตรการ QE

 

• Oil ราคาน้ำมัน Nymex ปรับเพิ่มขึ้น หลังจากลิเบียมีปัญหาในการส่งออกน้ำมัน เนื่องจากมีการประท้วงและผละงาน

 

• Gold ปิดวันที่ 1,278.61 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,265 –1,279 USDต่อออนซ์ โดยในเช้าวันนี้ ราคาอยู่ที่บริเวณ 1,282 USDต่อออนซ์ คาดว่าวันนี้มีแนวต้านบริเวณ 1,285/1,295/1,310 และแนวรับ 1,275/1,265

 

• USD/THB ปิดที่ 31.49 บาทต่อUSD เช้านี้อยู่ที่บริเวณ 31.43 บาทต่อUSD วันนี้ให้แนวต้านบริเวณ 31.7/31.9 ให้แนวรับบริเวณ 31.2/31.4

 

• ICE Brent ปิดที่ 107.15 USDต่อบาร์เรล วันนี้ให้แนวต้านบริเวณ 107.4/108.2 ให้แนวรับบริเวณ 106.5/105.6

 

Spot Gold

ระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,250 – 1,450 แนะนำ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน

ระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,200 –1,500 สะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

ระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,150 – 1,550 สะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

Positive View( + )

• นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารต่างๆ ทั่วโลก

• ความต้องการทองคำในตลาด Physical

• เงิน USD อ่อนค่าลง

 

Negative View( - )

• ความกังวลในเศรษฐกิจยุโรป

• อินเดียออกมาตรการจำกัดการนำเข้าทอง

• ความกังวลว่าเฟดจะลดมาตรการ QE ก่อนมี.ค.ปีหน้า

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้

• การแถลงสุนทรพจน์ของนางเยลเลน ว่าที่ปธ.เฟดคนใหม่ในคืนนี้

 

Spot Silver

โลหะเงิน trading อยู่บริเวณแนวรับสำคัญ ราคามีโอกาสขึ้นได้ หากราคาไม่หลุด 20.4

ให้แนวต้านบริเวณ 20.9 / 21.2

ให้แนวรับบริเวณ 20.5 / 20

Strategy: trading long

 

USD/THB

เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้น หลังราคาพยายามทดสอบแนวต้านบริเวณ 31.6 แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ ราคาจึงมีการพักตัวลงมา แต่แนวโน้มในระยะยาวยังเป็นเชิงบวก

ให้แนวต้านบริเวณ 31.7 / 31.9

ให้แนวรับบริเวณ 31.4 / 31.2

Strategy: trading long เมื่อราคาพักตัว

 

ICE Brent

น้ำมันดิบ Brent ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ upside ในระยะสั้นเริ่มจำกัดมากขึ้น หลัง RSI เริ่มเข้าสู่เขต overbought แล้ว อาจมีแรงขายทำกำไรเกิดขึ้นได้เสมอ

ให้แนวต้านบริเวณ 107.4 / 108.2

ให้แนวรับบริเวณ 106.5 / 105.6

Strategy: trading ในกรอบ

 

KTBZ13

สัญญาล่วงหน้าหุ้น KTB เคลื่อนไหวอยู่ใน channel ขาลง โดย macd บีบตัวแคบอยู่บริเวณ 0 ไม่ได้บอกแนวโน้มอะไรมากนัก

ให้แนวต้านบริเวณ 19.9 / 20.2

ให้แนวรับบริเวณ 19.10 / 18.8

Strategy: wait and see

 

TRUEZ13

สัญญาล่วงหน้าหุ้น TRUE ทำ pattern double bottom ซึ่งเป็นสัญญาณ bullish ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นได้

ให้แนวต้านบริเวณ 8.50 / 8.65

ให้แนวรับบริเวณ 8.25 / 8.10

Strategy: trading long

 

BLANDZ13

สัญญาล่วงหน้าหุ้น BLAND ปรับตัวทดสอบแนวต้านของ Channel ขาลง ราคามีโอกาสปรับตัวลดลง แต่หากผ่านไปได้มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นได้แรงเช่นกัน

ให้แนวต้านบริเวณ 1.70 / 1.76

ให้แนวรับบริเวณ 1.65 / 1.60

Strategy: trading ในกรอบ

 

SET 50

ดัชนี SET50 อ่อนตัวลงต่อจากการประกาศจะยกระดับขึ้นอีกครั้งของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ราชดำเนินในวันศุกร์นี้ แต่หุ้นโลกได้ข่าวบวกจากถ้อยแถลงที่เปิดเผยออกมาก่อนการเข้าแสดงตนต่อหน้าสภาของ เจเน็ต เยลเลน ในคืนนี้ ทำให้วันนี้น่าจะมีแรงดีดกลับขึ้นไปหาเส้น moving average

Strategy: ถ้าเปิดไม่สูงนัก น่า trading long

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- การชุมนุมต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องทุกวัน กระจายกันไปทั่วประเทศ และยกระดับเป็นการขับไล่รัฐบาล ขณะที่ฝ่ายเสื้อแดงเตรียมเรียกชุมนุมต้านฝ่ายตรงข้าม

 

ข่าวในประเทศ

- ธปท.ประกาศผ่อนคลายหลักเกณฑ์การนำเงินบาทออกไปยังประเทศที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศไทย ได้แก่ ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ มาเลเซีย เวียดนาม และมณฑลยูนนานของจีน จากเดิมไม่เกิน 5 แสนบาท เพิ่มเป็น 2 ล้านบาท เพิ่มใบอนุญาตตัวแทนรับแลกเปลี่ยนเงิน และยกเลิกข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการขายเงินตราต่างประเทศคืน เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและส่งเสริมการค้าขายชายแดน โดยมีผลบังคับใช้ทันที

- รมว.คมนาคม เผยว่า การชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะไม่กระทบต่อวุฒิสภาที่จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของประเทศ ในวันที่ 18 พ.ย.นี้ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง และที่ผ่านมา คนส่วนใหญ่เห็นด้วย แต่กังวลเรื่องความโปร่งใส

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

Share this comment


Link to comment

 

รายการ Gold Insight วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ วันพฤหัสบดี ที่ 14 พฤศจิกายน 2556 โดย ฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- สำหรับราคาทองคำในวันนี้ราคาทองคำ Rebound แต่ยังไม่สามารถผ่าน 1285 เหรียญไปได้ ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมา

 

- ภาพกราฟราคาทองคำเมื่อวันก่อนลงมาทำ Low ที่ 1260 เหรียญ และมีการดีดตัวขึ้นมาได้ แต่ยังติดแนวต้านบริเวณ 1285 เหรียญ ซึ่งก็มีแนวโน้มอ่อนตัวลงมา แต่ถ้าสามารถผ่านไปได้ก็มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1295/1310 เหรียญ และแนวรับที่ 1275/1265 เหรียญ ให้จับตาการย่อตัวถ้าย่อตัวลงมาไม่มากถ้าไม่ผ่าน 1265 เหรียญ แล้วยังไม่ผ่านก็มีโอกาส Rebound กลับไปที่ 1285 เหรียญ แต่ถ้าย่อตัวลงมาแรงอาจจบรอบการ Rebound ได้

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

 

Share this comment


Link to comment

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำและโลหะมีค่า วันที่ 14 พฤศจิกายน 2556 โดยบริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,283 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวแคบ ๆ ในกรอบ 1,280-1,288 USDต่อออนซ์ โดยราคาปรับตัวขึ้นมาในช่วงปลายตลาดสหรัฐเมื่อคืนนี้ หลังจากมีการเปิดเผยถ้อยแถลงที่รองประธานและว่าที่ประธาน Fed คนใหม่ เจเน็ต เยลเลน จะอ่านต่อหน้าคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาในคืนนี้ ซึ่งเป็นไปในเชิงบวกต่อการดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน(QE) และสนับสนุนการใช้นโยบายการเงินในแนวทางเดียวกับ เบน เบอร์นันเก้ ทำให้ตลาดประเมินทันทีว่าจะไม่มีการยกเลิก QE อย่างกะทันหัน รวมทั้งน่าจะเป็นการทยอยปรับลดขนาดมาตรการลงหลายครั้งมากกว่าจะเป็นการปรับใหญ่ อย่างไรก็ตาม การเข้าพบวุฒิสมาชิกในคืนนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้ารับตำแหน่งประธาน Fed อย่างเป็นทางการ รอเพียงการรับรองจากสภา และเซ็นอนุมัติจากประธานาธิบดีเท่านั้น โดยขั้นตอนนี้จะเน้นไปที่การสัมภาษณ์แนวคิดเชิงนโยบายของว่าที่ประธาน Fed ซึ่งเปรียบเสมือนแนวทางปฏิบัติของ Fed ไปอีก 4 ปี ตลอดวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น ประเด็นการซักถามและคำตอบของ เจเน็ต เยลเลน ในคืนนี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะมีผลกระทบต่อภาวะการลงทุนและเศรษฐกิจโลก

 

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP)ของเยอรมันในไตรมาส 3 ขยายตัวเพียง 0.3% เทียบกับไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 0.7% เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศยังไม่สามารถขยายตัวได้เพียงพอที่จะช่วยชดเชยการส่งออกที่ซบเซา อย่างไรก็ตาม การขยายตัวในไตรมาส 3 ได้รับแรงผลักดันจากอุปสงค์ภายในประเทศ โดยการลงทุนในอุปกรณ์และการก่อสร้างเพิ่มขึ้น ขณะที่การบริโภคในภาคเอกชนและรัฐบาลเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

 

เศรษฐกิจฝรั่งเศสในช่วงไตรมาส 3/2556 หดตัวลง 0.1% หลังจากที่ขยายตัว 0.5% ในช่วงไตรมาส 2 โดยการส่งออกปรับตัวลง 1.5% ในช่วงไตรมาส 3 ขณะที่การลงทุนในภาคธุรกิจลดลง 0.6% อย่างไรก็ตาม รมว.คลังฝรั่งเศสยังเชื่อว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะขยายตัว 0.1-0.2% ในปี 2556

 

ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ของฝรั่งเศสในเดือน ต.ค.ลดลงเล็กน้อย 0.1% จากเดือนก่อนหน้า หลังจากราคาพลังงานร่วงลง แต่เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.6% แต่ชะลอลงจากอัตราการขยายตัว 0.9% ในเดือน ส.ค.และ ก.ย.

 

ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของฝรั่งเศสในเดือน ก.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 3.9 พันล้านยูโร เทียบกับที่ขาดดุล 3.6 พันล้านยูโรในเดือน ส.ค. เนื่องจากยอดขาดดุลการค้าในเดือน ก.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 5.8 พันล้านยูโร จาก 5.4 พันล้านยูโร ในเดือนก่อนหน้า แม้ว่ายอดเกินดุลการค้าในภาคบริการมีการขยายตัวเล็กน้อยก็ตาม

 

ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือน ก.ย.เพิ่มขึ้น 1.3% จากเดือน ส.ค. เนื่องจากผลิตภัณฑ์ยา อาหาร และยาสูบที่ซบเซา ส่วนดัชนีผลผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมและเหมืองแร่อยู่ที่ระดับ 98.3 จากฐานที่ 100 ในปี 2553 นอกจากนี้ กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม ยังปรับลดดัชนีการส่งออกในภาคอุตสาหกรรมเหลือขยายตัว 1.5% จากรายงานเบื้องต้นที่ระดับ 1.6% ส่วนดัชนีสินค้าคงคลังภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.2% ไม่เปลี่ยยนแปลง

 

อินเดียเผยเงินเฟ้อเดือน ต.ค.ขยายตัว 7% จากปีก่อน ซึ่งสูงกว่าเดือน ก.ย.ที่ขยายตัว 6.46% บ่งชี้ถึงแรงกดดันที่มีต่อธนาคารกลางอินเดียที่อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ทั้งนี้ ค่าเงินรูปีที่อ่อนลง และปัญหาด้านอุปทานอาหารไปจนถึงพลังงาน ทำให้ค่าครองชีพในอินเดียสูงขึ้น แม้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอลงก็ตาม

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม

- 20:30 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน รายสัปดาห์ – อัตราการว่างงานล่าสุดที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจนแตะ 7.2% บ่งชี้ถึงภาวะตลาดแรงงานที่ดีขึ้นมาก แต่เป้าหมายของ Fed ที่ระดับ 6.5% ยังต้องรอจนกว่าตัวเลขรายสัปดาห์จะทรงตัวในระดับต่ำกว่า 3 แสนราย เสียก่อน ซึ่งคาดว่าผลกระทบจากปัญหา shutdown ได้หมดลงแล้ว แต่ยังต้องจับตาว่าตัวเลขในคืนนี้จะลดต่ำลงกว่าสัปดาห์ก่อน ซึ่งจะเป็นการลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกันได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขอยู่ต่ำกว่า 3.3 แสนราย จะเป็นผลลบต่อราคาทองคำ แต่ถ้าอยู่สูงกว่า อาจเป็นผลบวกเล็กน้อย

 

- 20:30 ยอดผลผลิต นอกภาคเกษตรกรรม (เบื้องต้น) ไตรมาส 3/2013 – ดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพการผลิตที่ใช้เปรียบเทียบกับต้นทุนค่าแรงต่อหน่วยว่าสอดคล้องกันหรือไม่ ซึ่งจะเป็นหนึ่งในดัชนีที่ใช้คาดการณ์ภาวะเงินเฟ้อและแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต โดยการประกาศตัวเลขที่เป็นบวก มักส่งผลลบต่อราคาทองคำเล็กน้อย

 

- 20:30 ต้นทุนค่าจ้างแรงงาน นอกภาคเกษตรกรรม (เบื้องต้น) ไตรมาส 3/2013 – เป็นข้อมูลค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานทั้งในภาครัฐและเอกชน โดยเป็นหนึ่งในดัชนีที่ใช้คาดการณ์ภาวะเงินเฟ้อและแนวโน้มเศรษฐกิจในแง่อำนาจซื้อของประชาชน ซึ่งการประกาศตัวเลขในช่วงบวกหรือลบไม่เกิน 2% มักไม่ส่งผลต่อราคาทองคำ

 

- 20:30 ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ เดือน ก.ย. – การขาดดุลการค้ามีผลต่อค่าเงินดอลลาร์โดยตรง แต่ไม่มีผลต่อราคาทองคำ

 

- 22:00 รองประธาน และว่าที่ประธาน Fed คนใหม่ เจเน็ต เยลเลน รายงานตัวต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภา – กระบวนการก้าวเข้าสู่ตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ที่ประธานาธิบดี บารัก โอบามา เปลี่ยนใจจาก ลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส ที่ขอถอนตัว มาเสนอชื่อลูกหม้อคนสนิทของ เบน เบอร์นันเก้ ซึ่งตามกฎหมาย จะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากสภาก่อนการรับตำแหน่ง ทำให้สิ่งที่นักลงทุนต้องติดตาม ไม่ใช่ถ้อยแถลงของ เจเน็ต เยลเลน แต่เป็นคำถามเกี่ยวกับการใช้นโยบายการเงินของ Fed ที่วุฒิสมาชิกจะถาม ซึ่งจะสามารถคาดคะเนมาตรการของ Fed ในปีหน้าได้

 

- 23:00 ยอดสต๊อกน้ำมันดิบ รายสัปดาห์ – โดยทั่วไป หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากสัปดาห์ก่อนหน้าเกิน 10 ล้านบาร์เรล การประกาศตัวเลขนี้จะไม่มีผลต่อราคาทองคำ

 

Technical Analysis:

ทองคำ ราคาทองคำเมื่อดูจากกราฟราย 1 ชม. macd line ตัดขึ้นเหนือเส้น signal line เป็นการ confirm สัญญาณ Bullish Divergence ที่เกิดขึ้น ทำให้ราคาทองคำมีโอกาสที่จะรีบาวน์ขึ้นได้ สำหรับคืนนี้ ให้แนวต้านบริเวณ 1,280/1,287 และให้แนวรับบริเวณ 1,268/1,260

 

โลหะเงิน โลหะเงินปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยราคาโลหะเงินอยู่ต่ำกว่าเส้น moving average 200 ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มขาลง แต่ราคาโลหะเงินเริ่มใกล้เข้าสู่แนวรับสำคัญแล้ว ราคามีโอกาสรีบาวน์ได้ โดยคืนนี้ ให้แนวต้านบริเวณ 20.85/21.05 และให้แนวรับบริเวณ 20.6/20.3

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

Share this comment


Link to comment

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 โดยบริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy: : Gold ราคาไต่ระดับขึ้นได้ แต่มีแรงขายทำกำไรเมื่อถึงแนวต้านในแต่ละระดับ วันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,280/1,272 แนวต้านบริเวณ 1,295/1,310 แนะนำ Trading Long โดยมีจุด Stop loss บริเวณ 1,250 SET50 ม๊อบประกาศจะยกระดับอีกแล้ว ฝรั่งก็ขายหนักขึ้นทุกที แต่สุนทรพจน์ของว่าที่ประธาน Fed อาจช่วยหนุนหุ้นไทยในวันนี้เหมือนอย่างที่อุ้มดาวน์โจนส์มาแล้วเมื่อคืน จึงน่า trading long ถ้าตลาดเปิดไม่สูง

 

• Gold ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อคืนนี้มีราคาปิดเพิ่มขึ้น 8.40 USDต่อออนซ์ ราคาปรับขึ้นในช่วงท้ายตลาดหลังจากการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเนท เยลเลน ว่าที่ปธ.เฟดคนใหม่ต่อคณะกรรมการธนาคารวุฒิสภาให้การสนับสนุนนโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไป จนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นอย่างมั่นคงและมีการสร้างงานได้อย่างยั่งยืน นักวิเคราะห์คาดว่านางเยลเลนจะไม่ยุติมาตรการ QE เร็วเกินไป ซึ่งเป็นปัจจัยที่หนุนราคาทองคำ ส่วนการประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงเพียง 2,000 รายต่ำกว่าคาด ในขณะที่ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้นเนื่องจากเงินยูโรอ่อนค่าลง สำหรับราคาทองคำเมื่อคืนนี้ขึ้นมาทำ high ที่บริเวณ 1,294 แล้วมีแรงขายทำกำไร คาดว่ามีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นได้ต่อ วันนี้มีแนวต้านบริเวณ 1,295/1,310 แนวรับบริเวณ 1,280/1,272 แนะนำ Trading Long โดยมีจุด Stop loss ถ้าหลุด 1,250

 

• ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเพิ่มขึ้น 54.59 จุด หลังจากที่นางเจเนท เยลเลน กล่าวต่อวุฒิสภาจะดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่อไป ตราบที่เศรษฐกิจสหรัฐยังเปราะบาง

 

• USD/THB ปิดที่ 31.54 บาทต่อUSD เงิน USD แข็งค่าขึ้น หลังจากนางเยลเลนกล่าวต่อวุฒิสภา ในการปกป้องมาตรการ QE

 

• Oil ราคาน้ำมัน Nymex ร่วงลงหลังจากการประกาศตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นมาก

 

• Gold ปิดวันที่ 1,287.01 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,278 –1,294 USDต่อออนซ์ โดยในเช้าวันนี้ ราคาอยู่ที่บริเวณ 1,287 USDต่อออนซ์ คาดว่าวันนี้มีแนวต้านบริเวณ 1,295/1,310 และแนวรับ 1,280/1,272

 

• USD/THB ปิดที่ 31.54 บาทต่อUSD เช้านี้อยู่ที่บริเวณ 31.54 บาทต่อUSD วันนี้ให้แนวต้านบริเวณ 31.7/31.9 ให้แนวรับบริเวณ 31.2/31.4

 

• ICE Brent ปิดที่ 108.54 USDต่อบาร์เรล วันนี้ให้แนวต้านบริเวณ 109/109.5 ให้แนวรับบริเวณ 107.7/107.2

 

Spot Gold

ระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,250 – 1,450 แนะนำ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน

ระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,200 –1,500 สะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

ระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,150 – 1,550 สะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

Positive View( + )

• นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารต่างๆ ทั่วโลก

• ความต้องการทองคำในตลาด Physical

• เงินบาทอ่อนค่าลง

• คาดว่าเฟดจะดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่อไป

 

Negative View( - )

• ความกังวลในเศรษฐกิจยุโรป

• อินเดียออกมาตรการจำกัดการนำเข้าทอง

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้

Spot Silver

โลหะเงินแกว่งตัวในกรอบแคบ ราคามีโอกาสปรับตัวได้แรงหากราคาหลุดกรอบออกไปด้านใดด้านหนึ่ง

ให้แนวต้านบริเวณ 20.9 / 21.2

ให้แนวรับบริเวณ 20.5 / 20

Strategy: รอ follow การ breakout

 

USD/THB

เงินบาทยังคงทรงตัวอยู่ในระดับเดิม แต่ระยะยาวแนวโน้มยังคงเป็นเชิงบวก

ให้แนวต้านบริเวณ 31.7 / 31.9

ให้แนวรับบริเวณ 31.4 / 31.2

Strategy: trading long เมื่อราคาพักตัว

 

ICE Brent

น้ำมันดิบ Brent ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ upside ในระยะสั้นเริ่มจำกัดมากขึ้น หลัง RSI เริ่มเข้าสู่เขต overbought แล้ว อาจมีแรงขายทำกำไรเกิดขึ้นได้เสมอ

ให้แนวต้านบริเวณ 109 / 109.5

ให้แนวรับบริเวณ 107.7 / 107.2

Strategy: trading ในกรอบ

 

KTBZ13

สัญญาล่วงหน้าหุ้น KTB เคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้น moving average 200 เป็นแนวโน้มเชิงลบ แต่ macd ให้สัญญาณเชิงบวก ทำให้ทิศทางในระยะสั้นยังไม่ชัดเจน

ให้แนวต้านบริเวณ 19.8 / 20.1

ให้แนวรับบริเวณ 19.4 / 19.0

Strategy: wait and see

 

TRUEZ13

สัญญาล่วงหน้าหุ้น TRUE มีแรงขายออกมาในช่วงท้ายตลาด หลังราคาเข้าสู่เขต overbought แต่แนวโน้มยังคงเป็นทิศทางขาขึ้น

ให้แนวต้านบริเวณ 8.8 / 8.95

ให้แนวรับบริเวณ 8.60 / 8.42

Strategy: trading long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

BLANDZ13

สัญญาล่วงหน้าหุ้น BLAND ปรับตัวทดสอบแนวต้านของ Channel ขาลง ราคามีโอกาสปรับตัวลดลง แต่หากผ่านไปได้มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นได้แรงเช่นกัน

ให้แนวต้านบริเวณ 1.72 / 1.77

ให้แนวรับบริเวณ 1.67 / 1.62

Strategy: trading ในกรอบ

 

SET 50

ดัชนี SET50 เริ่มสร้างกรอบ sideway ซึ่งอานิสงค์ของการยืนยันการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินอย่างแข็งขันของ เจเน็ต เยลเลน เมื่อคืนนี้ ควรเป็นผลบวกต่อหุ้นไทยในวันนี้ แต่แกนนำการชุมนุมประกาศจะยกระดับเพื่อกดดันรัฐบาลอีกครั้งในเย็นวันนี้ ทำให้เป็นผลลบต่อหุ้นไทยให้ขึ้นได้ไม่เท่ากับตลาดอื่น ทั้งนี้ MACD ดูอ่อนแรง ไม่น่าพ้นระดับ 0 และ RSI ดูทรงตัวเกาะบริเวณ 50 จึงทำให้วันนี้ดัชนีน่าจะผันผวนไร้ทิศทางในกรอบจำกัด

Strategy: trading สั้น ๆ จบภายในวัน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- การชุมนุมต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องทุกวัน และยกระดับเป็นการขับไล่รัฐบาล ซึ่งมีการประกาศว่าจะมีการยกระดับขึ้นอีกครั้งในการชุมนุมวันนี้

- 27 พ.ย. กนง.ประชุมกำหนดนโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ย

 

ข่าวในประเทศ

- รองนายกฯ และรมว.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง ชี้ยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ เพราะยอดขายปี 56 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้การปฏิเสธสินเชื่อมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น แต่การอนุมัติก็เพิ่มขึ้นด้วย และยังไม่มีสัญญาณของหนี้ NPL

- รองนายกฯ และรมว.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง จี้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยดึงนักลงทุนต่างชาติ ด้าน กนง.ชี้การชุมนุมมส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ แต่ยันยังไม่ถึงเวลาผ่อนคลายนโยบายการเงิน

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

Share this comment


Link to comment

 

รายการ Morning Talk วิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 โดย ฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- เมื่อคืนราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น 8.40 เหรียญ ปิดไปที่ 1287.01 เหรียญ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1278-1294 เหรียญ โดยราคาปรับขึ้นในช่วงท้ายตลาดหลังจากที่นาง Janet Yellen กล่าวสุนทรพจน์ต่อคณะกรรมการธนาคารวุฒิสภา โดยเธอให้สนับสนุนมาตรการการผ่อนคลายทางการเงินต่อไป ที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างมั่นคง โดยคาดว่าน่าจะลด QE อย่างค่อยเป็นค่อยไป

 

- ภาพกราฟทางเทคนิคของราคาทองคำ มองว่าการไต่ระดับมีอย่างต่อเนื่อง โดยอาจจะมีการย่อตัวลงมาและจะมีการปรับตัวขึ้นต่อ มีแนวรับที่ 1280/1272 เหรียญ แนวต้านที่ 1295/1310 เหรียญ

 

- ภาพกราฟทางเทคนิคของ Silver ราคาแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยราคามีโอกาสปรับตัวได้แรงถ้าทะลุกรอบไปด้านใดด้านหนึ่ง แนวรับที่ 20.5/20 เหรียญ แนวต้านที่ 20.9/21.2 เหรียญ

 

- ภาพกราฟทางเทคนิคของราคาค่าเงินบาท ทรงตัวอยู่ แต่แนวโน้มในระยะยาวมีโอกาสอ่อนค่าได้อีก แนวรับที่ 31.4/31.2 บาท แนวต้านที่ 31.7/31.9 บาท

 

- ภาพกราฟทางเทคนิคของราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่ RSI เข้าสู่เขต Overbought แล้ว จึงอาจมีแรงขายทำกำไรออกมาได้ แนวรับที่ 107.7/107.2 เหรียญ แนวต้านที่ 109/109.5 เหรียญ

 

- ภาพกราฟทางเทคนิคของราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหุ้น KTBZ13 ทิศทางในระยะสั้นยังไม่ชัดเจน ให้ wait and see แนวรับที่ 19.4/19.0 บาท แนวต้านที่ 19.8/20.1 บาท

 

- ภาพกราฟทางเทคนิคของราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหุ้น TRUEZ13 มีแรงขายออกมาในช่วงท้ายตลาด แนวโน้มยังเป็นทิศทางขาขึ้น ให้ Trading Long เมื่อราคาอ่อนตัว แนวรับที่ 8.6/8.42 บาท แนวต้านที่ 8.8/8.95 บาท

 

- ภาพกราฟทางเทคนิคของราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหุ้น BlandZ13 ปรับตัวทดสอบแนวต้าน Channel ขาลง และอ่อนตัวลงมา แต่ถ้าผ่าน Channel ขาลงกรอบบนไปได้ ก็มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้แรงเช่นกัน แนวรับที่ 1.67/1.62 บาท แนวต้านที่ 1.72/1.77 บาท

 

- ภาพกราฟทางเทคนิคของ SET 50 เริ่มสร้างกรอบ Sideway โดยได้รับผลบวกจากนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของ Janet Yellen โดยในวันนี้ดัชนีน่าจะผันผวนแบบไร้ทิศทาง ให้ Trading สั้นๆ จบในวัน แนวรับที่ 962/957 จุด แนวต้านที่ 974/986 จุด

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

Share this comment


Link to comment

 

รายการ News@12.00 P.M. 15 Nov 2013 By classicgoldfutures

คุณพรรณงาม อารยวุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกลยุทธ์การลงทุน SET50 Index Futures รายการ News@12:00 P.M. ทางช่อง Money Channel วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2556

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- ในช่วงเช้าที่ผ่านมา SET 50 เปิดที่ 973 จุด แล้วขึ้นไป High ที่ 975 จุด หลังจากนั้นก็อ่อนตัวลงมาอยู่ที่บริเวณ 968 จุด โดยมองว่าสาเหตุที่เปิดบวกได้มาจากคำกล่าวของนาง Janet Yellen ที่มีต่อรัฐสภาที่สนับสนุนมาตรการ QE และคาดว่าการประชุม FOMC ในวันที่ 17-18 ธ.ค. จะยังไม่มีการลด QE แต่ประเด็นลบคือเรื่องความกังวลทางการเมืองในประเทศ ทำให้ดัชนี SET 50 อ่อนตัวและปรับตัวลดลงมา โดยมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวได้ต่อหากเปิด Long ไว้ และถ้าหลุดบริเวณ 966 จุด ให้ปิดไปก่อน เพราะถ้าหลุดอาจมีโอกาสร่วงลงมาต่อได้ โดยมีแนวรับในช่วงบ่ายนี้ที่ 962/957 จุด แนวต้านที่ 975 จุด คำแนะนำอยากให้ Trading จบในวัน ถ้าเปิด Long ไว้แล้วมีกำไรในช่วงนี้ก็ให้ปิดทำกำไรไปก่อน

 

- ในสัปดาห์หน้ายังคงมีประเด็นทางการเมืองให้ต้องติดตามทั้ง ในวันที่ 20 พ.ย. ศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณาที่มาของ สว. ว่าผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่ และมีการคาดการณ์ว่าฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 21 พ.ย. ซึ่งการเมืองก็ยังคงเป็นประเด็นลบอยู่

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

Share this comment


Link to comment

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำและโลหะมีค่า วันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 โดยบริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,286 USDต่อออนซ์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 1,282-1,290 USDต่อออนซ์ เมื่อวานนี้ราคาทองคำสามารถปิดบวกได้หลังนางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่ประธานเฟดคนใหม่ได้ให้ความเห็นว่าจะยังไม่ยุติมาตรการเข้าซื้อพันธบัตรของเฟดในเร็วๆนี้ โดยต้องการที่จะเห็นเศรษฐกิจของสหรัฐฟื้นตัวอย่างแท้จริงก่อน ส่งผลให้ดัชนี S&P500 พุ่งขึ้นทำ all time high ได้อย่างต่อเนื่อง เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าในภาพรวมของตลาดการลงทุน เม็ดเงินส่วนใหญ่ที่เข้ามาลงทุนในทองคำและตลาดหุ้นเกิดใหม่ในช่วงที่เศรษฐกิจของสหรัฐมีปัญหา subprime เริ่มไหลกลับสู่ตลาดหุ้นสหรัฐอีกครั้ง สำหรับในคืนนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐหลายตัวประกาศ แต่เป็นตัวเลขที่ไม่ได้มีผลกระทบต่อทองคำมากนัก ราคาทองคำน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ เพื่อรอปัจจัยใหม่ในสัปดาห์หน้า

 

สเปนประกาศปลดหนี้ทรอยก้า ภายใน ม.ค.ปีหน้า สเปนประกาศก้าวออกจากโครงการขอรับเงินช่วยเหลือทางเศรษฐกิจจากทรอยก้า ภายในเดือน ม.ค. ปีหน้า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา(14 พ.ย.) นายลูอิส เดอ กูอิสโดส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสเปน แถลงหลังสิ้นสุดการประชุมร่วมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซน 17 ประเทศ ประกาศเตรียมก้าวออกจากโครงการขอรับความช่วยเหลือทางการเงิน เพื่อฟื้นฟูภาคการธนาคารของประเทศ ภายในเดือนมกราคม ปีหน้า

 

สเปนเผยภาคธนาคารในประเทศกู้เงินจากอีซีบีลดลง 31.3% ในเดือนต.ค. ข้อมูลจากธนาคารกลางสเปนระบุว่า ตัวเลขหนี้สินทั้งหมดของธนาคารสเปนที่กู้จากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ลดลง 31.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปี 2555 หนี้สินดังกล่าวลดลง 14 เดือนติดต่อกัน หลังจากพุ่งสูงขึ้นในเดือนส.ค.ที่ 3.88736 แสนล้านยูโร นับเป็นเวลา 2 เดือนหลังจากสเปนขอความช่วยเหลือทางการเงินกับสหภาพยุโรป (EU) เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างระบบธนาคารใหม่

 

มูดีส์หั่นเครดิต 4 แบงก์สหรัฐหลังประเมินว่ารัฐบาลไม่ช่วยสางหนี้ หากเกิดวิกฤต มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารรายใหญ่ 4 แห่งของสหรัฐ หลังจากพิจารณาเห็นว่ารัฐบาลสหรัฐอาจจะไม่สามารถช่วยเหลือธนาคารเหล่านี้ในการชำระหนี้คืนแก่กลุ่มเจ้าหนี้ ในกรณีเกิดวิกฤต ทั้งนี้ มูดีส์ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคาร 4 แห่งลง 1 ขั้น ซึ่งได้แก่ โกลด์แมน แซคส์, มอร์แกน สแตนลีย์, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และแบงก์ ออฟ นิวยอร์ก เมลลอน คอร์ป

 

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม

- 20:30 ดัชนีกิจกรรมในภาคการผลิต (นิวยอร์ค) เดือน พ.ย. – ผลสำรวจความคิดเห็นต่อเศรษฐกิจและการทำธุรกิจของผู้ผลิตในเขตนิวยอร์คที่ค่อนข้างไวต่อสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งการประกาศตัวเลขต่างจากเดือนก่อนหน้าในระดับที่ไม่เกิน 3 จุด จะส่งผลต่อราคาทองคำไม่มาก และจะส่งผลอย่างมากในทันทีถ้าหากดัชนีพลิกจากบวกเป็นลบ หรือ จากลบเป็นบวก โดยการปรับตัวสูงขึ้นของดัชนีจะส่งผลลบ และการปรับตัวลดลงจะส่งผลบวก ทั้งนี้ คาดว่าค่าดัชนีจะปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าเดือน ต.ค. เนื่องจากได้ผ่านพ้นปัญหาการขยายเพดานหนี้สาธารณะและงบรายจ่ายภาครัฐไปแล้ว

 

- 20:30 ดัชนีราคาสินค้านำเข้า เดือน ต.ค. – ตัวเลขเบื้องต้นที่บ่งชี้ถึงความเสี่ยงต่อภาวะเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจ แต่เนื่องจากเป็นดัชนีที่มีความผันผวนไปตามฤดูกาล ทำให้ข้อมูลที่ประกาศเป็นข้อมูลในระยะสั้น ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อราคาทองคำมากนัก

 

- 21:15 ยอดผลผลิต ภาคอุตสาหกรรม เดือน ต.ค. – เป็นดัชนีที่ค่อนข้างไวต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะต่อความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจ ทำให้ตัวเลขที่ประกาศออกมาค่อนข้างผันผวน ซึ่งบางครั้งก็เกิดจากปัจจัยเรื่องฤดูกาลหรือวงจรของธุรกิจและเศรษฐกิจด้วย ทั้งนี้ ตัวเลขที่เปลี่ยนไปจากเดือนก่อนหน้าไม่เกิน 0.5% จะส่งผลต่อราคาทองคำเพียงเล็กน้อย แต่ปัญหา shutdown อาจทำให้ตัวเลขลดต่ำกว่าเดือน ก.ย. ซึ่งถ้าหากติดลบ จะเป็นผลดีต่อทองมาก

 

- 21:15 อัตราการใช้กำลังการผลิต เดือน ต.ค. – ตัวเลขค่อนข้างทรงตัวในไตรมาส 2 และ 3 หลังจากที่มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดวิกฤติซับไพรม์ โดยการใช้กำลังการผลิตยังอยู่ในระดับ 75-80% แสดงถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี ซึ่งจะไม่มีผลต่อราคาทองคำ แต่หากเกิน 80% จะส่งผลลบในระยะสั้น เนื่องจากจะเพิ่มระดับความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐ แต่จะส่งผลบวกในระยะยาวต่อราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ หรือ ถ้าออกมาต่ำกว่า 75% จะมีผลบวกต่อราคาทองคำทันที

 

- 22:00 ยอดสต็อกสินค้า ภาคค้าส่ง เดือน ก.ย. – ใช้พิจารณาแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะสั้นประกอบกับยอดค้าปลีกและยอดสต็อกสินค้าในภาคธุรกิจ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในระดับบวกหรือลบไม่เกิน 1% เป็นเรื่องปกติตามปัจจัยฤดูกาล และมีผลเล็กน้อยต่อราคาทองคำ

ทองคำ ราคาทองคำในกราฟราย 1 ชม. macd line ตัดลงต่ำกว่าเส้น signal line ราคาทองคำมีโอกาสที่จะเคลื่อนไหวในลักษณะ sideway down ในคืนนี้ ให้แนวต้านบริเวณ 1,287/1,293 และให้แนวรับบริเวณ 1,280/1,275

 

โลหะเงิน โลหะเงินแกว่งตัวในกรอบแคบ ราคามีโอกาสปรับตัวได้แรงหากราคาหลุดกรอบออกไปด้านใดด้านหนึ่ง สำหรับคืนนี้ ให้แนวต้านบริเวณ 20.7/20.9 และให้แนวรับบริเวณ 20.5/20.3

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

Share this comment


Link to comment

 

รายการ Gold Insight วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ วันศุกร์ ที่ 15 พฤศจิกายน 2556 โดย ฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- ราคาทองคำ Rebound ขึ้นมาได้แต่ยังไม่สามารถผ่าน 1295 เหรียญขึ้นมา เลยย่อตัวลงมาซึ่งถ้าไม่ผ่านแนวต้าน 1295-1300 เหรียญ ก็จะย่อตัวลงมาที่ 1280-1270 เหรียญ

 

- กราฟทางเทคนิคของราคาทองคำไต่ระดับขึ้นมาชนแนวต้านที่เส้น 34 วัน แล้วย่อตัวลงมาโดยมีโอกาสที่จะอ่อนตัวลงมาบริเวณแนวรับที่ 1270 เหรียญ มีแนวรับในคืนนี้ที่ 1280/1272 เหรียญ แนวต้านที่ 1295/1310 เหรียญ

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

 

Share this comment


Link to comment

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 18 พฤศจิกายน 2556 โดยบริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

Today Strategy: : Gold ราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,295 ได้ทำให้อ่อนตัวลงมา วันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,280/1,272 แนวต้านบริเวณ 1,290/1,295 แนะนำ Trading ในกรอบ SET50 GDP ไทยยังน่าห่วง หลังส่งออกขยายตัวต่ำ กดดันเศรษฐกิจไทย ด้านการเมืองยังคงไม่รุนแรง แต่ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน เป็นประเด็นสำคัญในวันนี้ อย่างไรก็ตาม หากผ่าน 973 จุด แนะ trading long

 

• Gold ราคาทองคำในตลาด COMEX ในสัปดาห์ทีแล้วมีราคาปิดเพิ่มขึ้น 1.86 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,260 -1,294 USDต่อออนซ์ ราคาปรับขึ้นในช่วง 3 วันทำการสุดท้ายของสัปดาห์เนื่องจาก ถ้อยแถลงของนางเจเนท เยลเลน ว่าที่ปธ.เฟดคนใหม่ต่อคณะกรรมการธนาคารวุฒิสภาให้การสนับสนุนนโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไป จนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นอย่างมั่นคงและมีการสร้างงานได้อย่างยั่งยืน ส่วนในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาทองคำจะแกว่งตัวในกรอบระหว่าง 1,250 – 1,310 USDต่อออนซ์ โดยมีแนวรับของสัปดาห์บริเวณ 1,260/1,250 แนวต้านบริเวณ 1,300/1,310โดยมีปัจจัยหนุนจากค่าเงินUSD ที่อ่อนค่าลงและการคาดการณ์ว่าเฟดจะใช้มาตรการ QE ต่อไปจนถึงมี.ค.ปีหน้า สำหรับการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันจันทร์ เงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนก.ย. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ย. วันอังคาร ต้นทุนการจ้างงานประจำไตรมาส 3/2013 วันพุธ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค. ยอดค้าปลีกเดือนต.ค. สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ย. ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน เมื่อวันที่ 29-30 ต.ค. วันพฤหัสบดี ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนพ.ย.

 

• ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเพิ่มขึ้น 85.48 จุด ตลาดให้ความสำคัญกับถ้อยแถลงของนางเจเนท เยลเลน ที่กล่าวต่อวุฒิสภาจะดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่อไป ตราบที่เศรษฐกิจสหรัฐยังเปราะบาง

 

• USD/THB ปิดที่ 31.57 บาทต่อUSD เงิน USD อ่อนค่าลง หลังจากนางเยลเลนกล่าวต่อวุฒิสภา ในการปกป้องมาตรการ QE ทำให้นักลงทุนเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และขายเงิน USD และเงินเยน

 

• Oil ราคาน้ำมัน Nymex ปรับขึ้นเล็กน้อย หลังจากปริมาณอุปทานน้ำมันจากลิเบียที่ชะงักงัน และความเห็นของนางเยลเลน

 

• Gold ปิดวันที่ 1,289.66 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,280 –1,290 USDต่อออนซ์ โดยในเช้าวันนี้ ราคาอยู่ที่บริเวณ 1,287 USDต่อออนซ์ คาดว่าวันนี้มีแนวต้านบริเวณ 1,290/1,295 และแนวรับ 1,280/1,272

 

• USD/THB ปิดที่ 31.57 บาทต่อUSD เช้านี้อยู่ที่บริเวณ 31.56 บาทต่อUSD วันนี้ให้แนวต้านบริเวณ 31.7/31.9 ให้แนวรับบริเวณ 31.2/31.4

 

• ICE Brent ปิดที่ 108.35 USDต่อบาร์เรล วันนี้ให้แนวต้านบริเวณ 109/109.5 ให้แนวรับบริเวณ 107.7/107.2

 

Spot Gold

ระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,250 – 1,350 แนะนำ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน

ระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,200 –1,500 สะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

ระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,150 – 1,550 สะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

Positive View( + )

• นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารต่างๆ ทั่วโลก

• ความต้องการทองคำในตลาด Physical

• เงินบาทอ่อนค่าลง

• คาดว่าเฟดจะดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่อไป

• เงิน USD อ่อนค่าลง

 

Negative View( - )

• ความกังวลในเศรษฐกิจยุโรป

• อินเดียออกมาตรการจำกัดการนำเข้าทอง

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้

• 20 พ.ย.แถลงผลการประชุม FOMC ที่ประชุมครั้งก่อน

Spot Silver

โลหะเงินแกว่งตัวในกรอบแคบ ราคามีโอกาสปรับตัวได้แรงหากราคาหลุดกรอบออกไปด้านใดด้านหนึ่ง

ให้แนวต้านบริเวณ 20.9 / 21.2

ให้แนวรับบริเวณ 20.5 / 20

Strategy: รอ follow การ breakout

 

USD/THB

เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ โดยระยะยาวแนวโน้มยังคงเป็นเชิงบวก

ให้แนวต้านบริเวณ 31.7 / 31.9

ให้แนวรับบริเวณ 31.4 / 31.2

Strategy: trading long เมื่อราคาพักตัว

 

ICE Brent

น้ำมันดิบ Brent ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ upside ในระยะสั้นเริ่มจำกัดมากขึ้น หลัง RSI เริ่มเข้าสู่เขต overbought แล้ว อาจมีแรงขายทำกำไรเกิดขึ้นได้เสมอ

ให้แนวต้านบริเวณ 109 / 109.5

ให้แนวรับบริเวณ 107.7 / 107.2

Strategy: trading ในกรอบ

 

KTBZ13

สัญญาล่วงหน้าหุ้น KTB เคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้น moving average 200 เป็นแนวโน้มเชิงลบ ประกอบกับราคากำลังจะปรับตัวชนเส้นแนวโน้มขาขึ้น ราคามีโอกาสปรับตัวลดลงได้

ให้แนวต้านบริเวณ 19.9 / 20.2

ให้แนวรับบริเวณ 19.6 / 19.4

Strategy: หาจังหวะ short หากราคาไม่ผ่าน trendline

 

TRUEZ13

สัญญาล่วงหน้าหุ้น TRUE ปรับตัวขึ้นจนถึงแนวต้านสำคัญแล้ว ประกอบกับ RSI เข้าสู่เขต overbought ราคามีโอกาสปรับตัวลดลงได้

ให้แนวต้านบริเวณ 9.1 / 9.3

ให้แนวรับบริเวณ 8.8 / 8.6

Strategy: trading ในกรอบ

 

ITDZ13

สัญญาล่วงหน้าหุ้น ITD เคลื่อนไหวอยู่ใน channel ขาขึ้น หากราคาไม่หลุดแนวรับ มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อ

ให้แนวต้านบริเวณ 5.65 / 5.80

ให้แนวรับบริเวณ 5.45 / 5.20

Strategy: trading ในกรอบ

 

SET 50

ดัชนี SET50 ปรับขึ้นจ่อ breakout แนวโน้มขาลง ทำให้หากเปิดบวก มีลุ้นให้แรงซื้อดันดัชนีพุ่งต่อ สอดรับกับ MACD ที่พร้อมทะยานจากระดับ 0 และ RSI ที่พร้อมปรับขึ้นได้

Strategy: หากผ่าน 973 จุด ให้ follow long

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- การชุมนุมต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องทุกวัน และยกระดับเป็นการขับไล่รัฐบาล ซึ่งมีการประกาศว่าจะมีการยกระดับขึ้นอีกครั้งในสัปดาห์นี้

- 18 พ.ย. สภาพัฒน์เผย GDP

- 18 พ.ย. วุฒิสภาถก พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน วาระ 2 และ 3 ด้านกรณ์ จาติกวณิช จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความร่างดังกล่าว

- 27 พ.ย. กนง.ประชุมกำหนดนโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ย

 

ข่าวในประเทศ

- ม๊อบต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เตรียมยื่น 2 หมื่นรายชื่อต่อประธานวุฒิสภาในวันที่ 19 พ.ย.นี้ เพื่อถอดถอน ส.ส. 310 คน ที่ยกมือผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมในวาระ 3 ก่อนส่งต่อให้ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเตรียมปรับลดประมาณการณ์ GDP ปีนี้อีกรอบเหลือ 3.5% นับเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 1 ปี จากล่าสุดที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.7% เนื่องจากการส่งออกขยายตัวต่ำกว่า 1.5% แต่คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโต 4.5% และการส่งออกจะขยายตัว 7% ในปีหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวดีขึ้น ทั้งยุโรป สหรัฐฯ และจีน นอกจากนี้ คาดว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% ในการประชุมวันที่ 27 พ.ย.นี้

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

Share this comment


Link to comment

 

รายการ Stock in Trend 18112013 By classicgoldfutures

 

คุณพรรณงาม อารยวุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับแนวโน้ม ราคาทองคำและปัจจัย ที่มีผลทำให้ราคาทองคำขึ้นและลง

พร้อมทั้งคำแนะนำสำหรับการลงทุน ในรายการ Stock in Trend

ทางเว็บไซต์ efinancethai.com ในวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2556

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- ราคาทองคำเมื่อวันศุกร์ปิดไปที่ 1289.66 เหรียญ เพิ่มขึ้น 2.65 เหรียญ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1280-1290 เหรียญ ปัจจัยหนุนคือค่าเงิน USD ที่อ่อนค่าลง และคำพูดของนาง Janet Yellen ที่หนุน QE โดยราคาในสัปดาห์นี้น่าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบระหว่าง 1250-1310 เหรียญ

 

- ราคาทองคำในวันนี้ยังแกว่งตัวในกรอบแคบ และยังไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในวันจันทร์ และวันอังคาร แต่ในวันพุธจะมีตัวเลขที่สำคัญออกมามาก รวมถึง FED ที่จะเปิดเผยผลการประชุม FOMC ที่เพิ่งประชุมไปเมื่อวันที่ 29-30 พ.ย. ที่ผ่านมา แต่ก็ยังมองว่าเป็นเชิงบวกต่อคำพูดของนาง Janet Yellen อยู่ โดยถ้าราคาทองคำไม่ผ่าน 1300-1310 เหรียญ ก็มีแนวโน้มอ่อนตัวลงมา

 

- ราคาทองคำแท่งวันนี้ แนวรับที่ 19200/19080 บาท แนวต้านที่ 19350/19430 บาท GFZ แนวรับที่ 19250/19130 บาท แนวต้านที่ 19400/19480 บาท

 

- กลยุทธ์การลงทุน คนที่เปิด Long ไว้ในช่วงสัปดาห์ที่แล้วก็ให้ปิด Long ทำกำไรก่อน เพราะราคาไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1295 เหรียญไปได้ โดยในวันจันทร์-อังคารนี้ให้ Trading ในกรอบที่ 1272-1295 เหรียญ ถ้าขึ้นไปแนวต้านก็ให้ปิดทำกำไร ลงมาแนวรับก็ Trading สั้นๆ ในกรอบแนวรับ แนวต้าน

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

Share this comment


Link to comment

Guest
Add a comment...

×   Pasted as rich text.   Paste as plain text instead

  Only 75 emoji are allowed.

×   Your link has been automatically embedded.   Display as a link instead

×   Your previous content has been restored.   Clear editor

×   You cannot paste images directly. Upload or insert images from URL.

Loading...
×
×
  • Create New...