Jump to content
กระดานทองคำ

Gcap GuRu

Members
  • Content Count

    1002
  • Joined

  • Last visited

Everything posted by Gcap GuRu

  1. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 2/12/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,220 1,215 1,200 แนวต้าน (Resistance) 1,259 1,265 1,284 ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อวันศุกร์ (29 พ.ย.) ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินอื่นๆ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจของยูโรโซนได้ลดความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะผ่อนคลายทางการเงินต่อไป ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3583 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3573 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.6365 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6277 ดอลลาร์สหรัฐ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นจากแรงซื้อเก็งกำไรเมื่อวันศุกร์ (29 พ.ย.) แต่ราคาร่วงลงเกือบ 6.5% ในช่วงเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการดิ่งลงมากที่สุดนับแต่ที่ปรับตัวลง 12.2% ในเดือนมิ.ย. และในเช้าวันนี้ สัญญาณทางเทคนิค เริ่มมีการปรับตัวลดลงอีกครั้งหนึ่ง ทำให้เกิดแพทเทิร์นเป็นรูปแบบ สามเหลี่ยม Tranggle จึงมีความเป็นไปได้ว่าราคาอาจจะมีการแกว่งตัว Sideway ออกด้านข้างอีกสักระยะหนึ่งก่อน แนะแนวทางการลงทุน แรงซื้อเริ่มเบาบางลงราคาได้ปรับตัวลงอีกครั้ง ทำให้มีมุมมองว่าหากราคาเกิดหลุด $ 1,230 Us/Oz ลงไปอาจจะมีการทาจุด New Low ครั้งใหม่ หากเป็นเช่นนั้นจริงก็ ทยอยเข้าซื้อที่บริเวณแนวรับของวัน สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา ประเมินแนวโน้มค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (2-6 ธ.ค.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.00-32.30 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยต้องจับตาสถานการณ์การเมืองในประเทศ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญประกอบด้วย ตัวเลขตลาดแรงงาน ดัชนี ISM ภาคการผลิต-ภาคบริการเดือนพ.ย. ยอดสั่งซื้อของโรงงาน ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือน ต.ค. ยอดขายบ้านใหม่ รายจ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.ย.และต.ค. ตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส3/2556 (ประกาศครั้งที่ 2) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด ทั้งนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทอ่อนค่าทดสอบระดับ 32.20 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ก่อนฟื้นตัวกลับมาเล็กน้อยท้ายสัปดาห์ โดยเงินบาทร่วงลงท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นของการ เมืองในประเทศ และแรงซื้อเงินเหรียญสหรัฐในช่วงปลายเดือนของกลุ่มผู้นาเข้า นอกจากนี้ แรงขายเงินบาทเป็นไปอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงกลางสัปดาห์ หลังจากธปท.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายนอกเหนือการคาดการณ์ของตลาด (และส่งสัญญาณที่ค่อนข้างระมัดระวังมากขึ้นในการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ในระยะข้างหน้า)แต่กระนั้น เงินบาทก็ฟื้นตัวกลับมาบางส่วนในช่วงท้ายสัปดาห์ แม้ว่านักลงทุนยังจับตาดูสถานการณ์การเมืองไทยอย่างใกล้ชิด สกุลเงินเอเชีย ปิดผสม เงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียแตะระดับ 12,000 ซึ่งอ่อนแอที่สุดในรอบ 5 ปี และเป็นระดับที่มีความสำคัญเชิงจิตวิทยา ส่วนเงินเปโซร่วงลงในขณะที่การเติบโตของจีดีพีของฟิลิปปินส์ในไตรมา ส 3 ออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์ หรือขยายตัว 7.1%YoY แทน 7.1% ทั้งนี้ เงินริงกิตมาเลเซีย วอนเกาหลีใต้ และ เงินดอลลาร์ไต้หวันแทบไม่เปลี่ยนแปลง เงินวอนยังคงได้รับรงหนุนจากความต้องการจากผู้ส่งออก ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดกล่าวว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้เข้าแทรกแซงในตลาดเพื่อให้ลด ความผันผวนและลดการแข็งค่าของวอน เนื่องจากการส่งออกยังอยู่ในช่วงการฟื้นตัว
  2. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 29/11/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,220 1,216 1,200 แนวต้าน (Resistance) 1,252 1,259 1,267 ตลาดเงินนิวยอร์กปิดทำการวันพฤหัสบดีที่ 28 พ.ย.เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า แต่อย่างไรก็ตาม สกุลเงินดอลล่าร์เมื่อเปิดตลาดเช้านี้ ก็ยังคงอยู่ในโซนที่ราคาแข็งค่าอยู่ ยังคงเป็นตัวแปร กดดันราคาทองคำอยู่ในระยะนี้ ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการวันพฤหัสบดีที่ 28 พ.ย.เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า ราคามีการปรับตัวขึ้นลงเล็กน้อย แม้ว่าตลาดทางฝั่งยุโรป และเอเซียยังคงเปิดทำการ แต่ภาวะการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง รายงานราคาทอง (ทองคา 96.5%) ประจำวันที่ 28 พฤศจิกายน 2556 ตามประกาศของสมาคมค้าทองคา ราคา ทองคาแท่ง รับซื้อบาทละ 18,800.00 ขายบาทละ 18,900.00 ราคาทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 18,525.52 ขายบาทละ 19,300.00ทั้งนี้ราคาทองคาปรับลดลง150 บาท เมื่อเทียบกับราคาวานนี้ ( 28พ.ย.) แนะแนวทางการลงทุน ราคายังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบ ๆ ลักษณะ Sideway Up อาจจะต้องรอความชัดเจนของตลาดอีกสักระยะ สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา มุมมองแนวโน้มค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (25-29 พ.ย.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 31.70-32.00 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยต้องจับตาสถานการณ์การเมืองในประเทศ และผลการประชุม กนง. วันที่ 27 พ.ย. ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญประกอบด้วย ดัชนี PMI เขตชิคาโก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย. ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือน ต.ค. ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน และการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย.และต.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือน ก.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย สัปดาห์ อนึ่ง ตลาดการเงินสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันที่ 28 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากความกังวลอย่างต่อเนื่องต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศ กระตุ้นให้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาท ยังสอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย หลังจากที่บันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 29-30 ต.ค. ทำให้ตลาดยังคงต้องประเมินความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะเริ่มปรับลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ของมาตรการ QE ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ปิดแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์เมื่อวานนี้ โดยได้รับผลจากเงินทุนไหลเข้าสู่ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชีย จากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะรักษา QE และแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของจีน ค่าเงินรูปีปิดตลาดแข็งค่าขึ้น 0.06% โดยสามารถแข็งค่าผ่านระดับ 62.00 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน สำหรับค่าเงินรูเปียห์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย หลังนักลงทุนซื้อสกุลเงินก่อนการประมูลพันธบัตรรัฐบาล ในช่วงนี้สกุลเงินเอเชียมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์
  3. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 28/11/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,230 1,216 1,190 แนวต้าน (Resistance) 1,247 1,259 1,270 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นช่วงท้ายเดือนพ.ย.ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ปรับตัวลดลงในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ตลาดเงินนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงท้ายเดือนพ.ย.อยู่ที่ระดับ 75.1 เพิ่มขึ้นจาก 73.2 ในช่วงท้ายเดือนต.ค. เนื่องจากผู้บริโภคที่มีรายได้สูงมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 23 พ.ย. สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) โดยสัญญาทองคำปิดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.ปีนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 3.6 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่ 1,237.9 ดอลลาร์/ออนซ์ แนะแนวทางการลงทุน แรงซื้อเริ่มเบาบางลง สัญญาณIndicator อ่อนตัวลง อาจจะเป็นแค่ Sideway ทากรอบสามเหลี่ยมเพื่อสร้างฐานแนวรับใหม่ ควรชะลอการลงทุนและรอความชัดเจนของตลาด สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา มุมมองแนวโน้มค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (25-29 พ.ย.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 31.70-32.00 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยต้องจับตาสถานการณ์การเมืองในประเทศ และผลการประชุม กนง. วันที่ 27 พ.ย. ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญประกอบด้วย ดัชนี PMI เขตชิคาโก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย. ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือน ต.ค. ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน และการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย.และต.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือน ก.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย สัปดาห์ อนึ่ง ตลาดการเงินสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันที่ 28 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า สัปดาห์ที่ผ่านมา สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากความกังวลอย่างต่อเนื่องต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศ กระตุ้นให้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาท ยังสอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย หลังจากที่บันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 29-30 ต.ค. ทำให้ตลาดยังคงต้องประเมินความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะเริ่มปรับลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ของมาตรการ QE ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ปิดแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์เมื่อวานนี้ โดยได้รับผลจากเงินทุนไหลเข้าสู่ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชีย จากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะรักษา QE และแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของจีน ค่าเงินรูปีปิดตลาดแข็งค่าขึ้น 0.06% โดยสามารถแข็งค่าผ่านระดับ 62.00 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน สำหรับค่าเงินรูเปียห์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย หลังนักลงทุนซื้อสกุลเงินก่อนการประมูลพันธบัตรรัฐบาล ในช่วงนี้สกุลเงินเอเชียมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์
  4. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 27/11/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,240 1,233 1,225 แนวต้าน (Resistance) 1,258 1,263 1,268 ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนมากขึ้นหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านในเดือนก.ย.ของสรหัฐเพิ่มขึ้น 13.3% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบเป็นรายปีนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2549 หรือในรอบ 7 ปีครึ่ง และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 13% บ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังคงขยายตัว แม้ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐลดลงเป็นเดือนที่สามติดต่อกันในเดือนพ.ย. โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงสู่ระดับ 70.4 จากระดับ 72.4 ในเดือนต.ค. ทั้งนี้ ข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคถูกจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการใช้จ่ายผู้บริโภคคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 70% ของเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนสัญญาทองคำดีดตัวขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นมาตรวัดสกุล เงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักๆ ร่วงลงแตะระดับ 80.679 จุดในวันอังคาร จากระดับของวันจันทร์ที่ 80.884 จุด นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า ปัจจัยพื้นฐานของทองคำยังคงแข็งแกร่ง โดยคาดว่าความต้องการทองคำจะปรับตัวขึ้นอีกในปีนี้ และอาจจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่ แนะแนวทางการลงทุน หากราคาทำจุดสูงสุดครั้งใหม่ ปิดสถานะที่มีกำไร เปลี่ยนมาเล่นฝั่ง Shot สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา มุมมองแนวโน้มค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (25-29 พ.ย.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 31.70-32.00 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยต้องจับตาสถานการณ์การเมืองในประเทศ และผลการประชุม กนง. วันที่ 27 พ.ย. ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญประกอบด้วย ดัชนี PMI เขตชิคาโก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย. ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือน ต.ค. ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน และการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย.และต.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือน ก.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย สัปดาห์ อนึ่ง ตลาดการเงินสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันที่ 28 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า สัปดาห์ที่ผ่านมา สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากความกังวลอย่างต่อเนื่องต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศ กระตุ้นให้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาท ยังสอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย หลังจากที่บันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 29-30 ต.ค. ทำให้ตลาดยังคงต้องประเมินความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะเริ่มปรับลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ของมาตรการ QE ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ปิดแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์เมื่อวานนี้ โดยได้รับผลจากเงินทุนไหลเข้าสู่ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชีย จากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะรักษา QE และแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของจีน ค่าเงินรูปีปิดตลาดแข็งค่าขึ้น 0.06% โดยสามารถแข็งค่าผ่านระดับ 62.00 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน สำหรับค่าเงินรูเปียห์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย หลังนักลงทุนซื้อสกุลเงินก่อนการประมูลพันธบัตรรัฐบาล ในช่วงนี้สกุลเงินเอเชียมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์
  5. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 26/11/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,246 1,240 1,234 แนวต้าน (Resistance) 1,260 1,266 1,272 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุบเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานที่ว่าชาติมหาอำนาจบรรลุข้อตกลงว่าด้วยแผนการนิวเคลียร์กับอิหร่าน ซึ่งข่าวดังกล่าวได้บรรเทาความวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ สัญญาทองยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเริ่มลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ในเร็วๆนี้ ขณะที่รายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจาวันที่ 29-30 ต.ค.ที่มีการเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดจำนวนมากพิจารณาว่าเฟดอาจจะเริ่มลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ “ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า" หากเศรษฐกิจยังคงมีการปรับตัวดีขึ้นตามคาด แม้ว่าราคาจะมีการปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม แต่ปัจจัยพื้นฐาน ยังคงเป็นแรงกดดันราคาอยู่ในขณะนี้ จึงมองว่าราคาน่าจะเป็นเพียงการเด้งรีบาวน์เท่านั้น แนะแนวทางการลงทุน ราคาปรับตัวขึ้นระยะสั้น หากอ่อนตัวลงมาแนะเข้าซื้อสะสม หากกรณีราคาทดสอบแนวต้าน $ 1,260-$1,265 Us/Oz แนะเปิดเล่นฝั่ง Shot สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา มุมมองแนวโน้มค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (25-29 พ.ย.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 31.70-32.00 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยต้องจับตาสถานการณ์การเมืองในประเทศ และผลการประชุม กนง. วันที่ 27 พ.ย. ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สาคัญประกอบด้วย ดัชนี PMI เขตชิคาโก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย. ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือน ต.ค. ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน และการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย.และต.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือน ก.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย สัปดาห์ อนึ่ง ตลาดการเงินสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันที่ 28 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า สัปดาห์ที่ผ่านมา สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากความกังวลอย่างต่อเนื่องต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศ กระตุ้นให้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาท ยังสอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย หลังจากที่บันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 29-30 ต.ค. ทำให้ตลาดยังคงต้องประเมินความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะเริ่มปรับลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ของมาตรการ QE ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ปิดแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์เมื่อวานนี้ โดยได้รับผลจากเงินทุนไหลเข้าสู่ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชีย จากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะรักษา QE และแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของจีน ค่าเงินรูปีปิดตลาดแข็งค่าขึ้น 0.06% โดยสามารถแข็งค่าผ่านระดับ 62.00 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน สาหรับค่าเงินรูเปียห์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย หลังนักลงทุนซื้อสกุลเงินก่อนการประมูลพันธบัตรรัฐบาล ในช่วงนี้สกุลเงินเอเชียมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์
  6. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 25/11/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,232 1,225 1,220 แนวต้าน (Resistance) 1,247 1,258 1,261 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ให้มุมมองแนวโน้มค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (25-29 พ.ย.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 31.70-32.00 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยต้องจับตาสถานการณ์การเมืองในประเทศ และผลการประชุม กนง. วันที่ 27 พ.ย. ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สำคัญประกอบด้วย ดัชนี PMI เขตชิคาโก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย. ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือน ต.ค. ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน และการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย.และต.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือน ก.ย. และจานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย สัปดาห์ อนึ่ง ตลาดการเงินสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันที่ 28 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า สัปดาห์ที่ผ่านมา สัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากความกังวลอย่างต่อเนื่องต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศ กระตุ้นให้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาท ยังสอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย หลังจากที่บันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 29-30 ต.ค. ทำให้ตลาดยังคงต้องประเมินความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะเริ่มปรับลดวง เงินซื้อสินทรัพย์ของมาตรการ QE ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยในวันศุกร์ โดยในวันศุกร์ (22 พ.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.83 เทียบกับระดับ 31.60 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ในวันศุกร์ก่อนหน้า ราคาทองคำในช่วงเช้าวันนี้ ราคามีการปรับตัวลดลงเล็กน้อย จากสัญญาณทางเทคนิค ที่เกิดแรงเทขายออกมา จากการหลุดกรอบสามเหลี่ยมลงมาทำให้เกิด New Low ต่อเนื่อง แต่เริ่มมีสัญญาณที่เป็น Bullish Divergence ให้เห็นแล้ว อาจจะมีแรงซื้อขึ้นไปได้อีกเล็กน้อย แนะแนวทางการลงทุน เช้านี้ราคาอาจจะมีการเด้งรีบาวน์อีกครั้ง อาจจะทยอยเข้าซื้อเพียงบางส่วน ทำกำไรจังหวัเด้งรีบาวน์ สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ซื้อขายในช่วงแคบก่อนปิดสูงขึ้นเล็กน้อยที่ 31.62 โดย USD/THB มีแนวโน้มสูงขึ้น เราคาดว่าแนวต้านในสัปดาห์นี้จะอยู่ที่ 31.75 โดยส่วนหนึ่งจากแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอลง การส่งออกที่ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน และความตึงเครียดทางการเมือง สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ปิดแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์เมื่อวานนี้ โดยได้รับผลจากเงินทุนไหลเข้าสู่ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชีย จากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะรักษา QE และแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของจีน ค่าเงินรูปีปิดตลาดแข็งค่าขึ้น 0.06% โดยสามารถแข็งค่าผ่านระดับ 62.00 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน สำหรับค่าเงินรูเปียห์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย หลังนักลงทุนซื้อสกุลเงินก่อนการประมูลพันธบัตรรัฐบาล ในช่วงนี้สกุลเงินเอเชียมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์
  7. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 22/11/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,237 1,230 1,223 แนวต้าน (Resistance) 1,249 1,257 1,265 ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยว่า ดัชนีแนวโน้มธุรกิจเดือนพ.ย.ลดลงสู่ระดับ 6.5 จากระดับ 19.8 ในเดือนต.ค. ซึ่งร่วงลงรุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 15.0 การปรับตัวลงอย่างหนักของดัชนีแนวโน้มธุรกิจส่งผลให้นักลงทุนในตลาดคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียระบุว่า ดัชนีแนวโน้มธุรกิจเดือนพ.ย.ร่วงลงอย่างหนัก นอกจากนี้ จำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนตลาดพุ่งขึ้นด้วย จากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 พ.ย.ปรับตัวลดลง 21,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงฟื้นตัว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าใช้ QE หลังจากเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยว่า ดัชนีแนวโน้มธุรกิจเดือนพ.ย.ลดลงสู่ระดับ 6.5 จากระดับ 19.8 ในเดือนต.ค. ซึ่งร่วงลงรุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 15.0 นักลงทุนจับตาดูท่าทีของเฟดอย่างใกล้ชิด หลังจากรายงานการประชุมของเฟดเมื่อวันที่ 29-30 ต.ค.ระบุว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดจำนวนมากพิจารณาว่าเฟดอาจจะเริ่มลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ “ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า" นั้น เจ้าหน้าที่รายอื่นๆบางส่วนยืนกรานให้รอความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของตลาดแรงงานและเศรษฐกิจ ก่อนทาการตัดสินใจใดๆ แนะแนวทางการลงทุน ราคาอาจจะเป็น Sideway Up สถานะมีกำไรอาจจะแบ่งทำกำไรบางส่วน หากราคาอ่อนตัวลงมาอีกครั้งแนะเข้าซื้อที่แนวรับ สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ซื้อขายในช่วงแคบก่อนปิดสูงขึ้นเล็กน้อยที่ 31.62 โดย USD/THB มีแนวโน้มสูงขึ้น เราคาดว่าแนวต้านในสัปดาห์นี้จะอยู่ที่ 31.75 โดยส่วนหนึ่งจากแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอลง การส่งออกที่ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน และความตึงเครียดทางการเมือง สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ปิดแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์เมื่อวานนี้ โดยได้รับผลจากเงินทุนไหลเข้าสู่ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชีย จากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะรักษา QE และแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของจีน ค่าเงินรูปีปิดตลาดแข็งค่าขึ้น 0.06% โดยสามารถแข็งค่าผ่านระดับ 62.00 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน สาหรับค่าเงินรูเปียห์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย หลังนักลงทุนซื้อสกุลเงินก่อนการประมูลพันธบัตรรัฐบาล ในช่วงนี้สกุลเงินเอเชียมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์
  8. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 21/11/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,237 1,228 1,207 แนวต้าน (Resistance) 1,253 1,260 1,268 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากรายงานการประชุมของเฟดระบุว่า คาดว่าภาวะในตลาดแรงงานจะมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นและอาจจะเป็นเหตุผลอันควรที่เฟดจะเริ่มลดขนาด QE ก่อนหน้านี้นายชาร์ส พลอสเซอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียกล่าว่วา เฟดควรจะยุติมาตรการ QE หรือโครงการซื้อสินทรัพย์ซึ่งปัจจุบันมีวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ขณะที่นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กกล่าวว่า เขามีมุมมองที่เป็นบวกอย่างมากต่อเศรษบกิจหสหรัฐ และคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวแข็งแกร่งขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าเขาอาจจะเรียกร้องให้เฟดชะลอการใช้ QE สัญญาทองคาตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) โดยสัญญาทองคาปิดที่ระดับต่าสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนก.ค.ปีนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวน และหลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) แนะแนวทางการลงทุน หากราคารีบาวน์ อาจจะทยอยปิดสถานะที่มีกาไร และชลอการเข้าซื้อเพิ่มเติม รอความชัดเจนของตลาดอีก 1-2 วัน ( หากราคาหลุด $ 1,237 Us/Oz ลงไปอาจจะมีการปรับตัวลงรุนแรง) สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ซื้อขายในช่วงแคบก่อนปิดสูงขึ้นเล็กน้อยที่ 31.62 โดย USD/THB มีแนวโน้มสูงขึ้น เราคาดว่าแนวต้านในสัปดาห์นี้จะอยู่ที่ 31.75 โดยส่วนหนึ่งจากแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอลง การส่งออกที่ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน และความตึงเครียดทางการเมือง สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ปิดแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์เมื่อวานนี้ โดยได้รับผลจากเงินทุนไหลเข้าสู่ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชีย จากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะรักษา QE และแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของจีน ค่าเงินรูปีปิดตลาดแข็งค่าขึ้น 0.06% โดยสามารถแข็งค่าผ่านระดับ 62.00 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน สำหรับค่าเงินรูเปียห์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย หลังนักลงทุนซื้อสกุลเงินก่อนการประมูลพันธบัตรรัฐบาล ในช่วงนี้สกุลเงินเอเชียมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์
  9. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 20/11/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,260 1,254 1,245 แนวต้าน (Resistance) 1,280 1,286 1,296 ก่อนหน้านี้ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันอยู่ก่อนแล้ว หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐว่า การผ่อนคลายทางการเงินในปัจจุบันควรดาเนินต่อไปในขณะนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเฟดจะยังเดินหน้าใช้มาตรการ QE ต่อไป นักลงทุนในตลาดเงินนิวยอร์กคาดว่า เฟดจะยังไม่ปรับลดขนาดการใช้มาตรการ QE ในระยะใกล้นี้ เมื่อพิจารณาจากถ้อยแถลงครั้งล่าสุดของนางเยลเลนที่ว่า เฟดจะประเมินว่ามีความคืบหน้าในตลาดแรงงานหรือไม่ ซึ่งแม้ปัจจุบันนี้เศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก แต่อัตราว่างงานที่ 7.3% ในเดือนต.ค.นั้นเป็นระดับที่สูงเกินไป ซึ่งสะท้อนถึงตลาดแรงงานและเศรษฐกิจที่ยังคงอ่อนแอ สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลง ทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาทองคำ COMEX เดือนธ.ค.ร่วงลง 15.1 ดอลลาร์ หรือ 1.17% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่นายชาร์ส พลอสเซอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียกล่าว่วา เฟดควรจะยุติมาตรการ QE ขณะที่นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กกล่าวว่า เขามีมุมมองที่เป็นบวกอย่างมากต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวแข็งแกร่งขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งนักลงทุนมองว่านายดัดลีย์กำลังสัญญาณว่าเขาสนับสนุนให้มีการลดขนาดการใช้ QE นักลงทุนจับตาดูการแสดงความเห็นของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ และชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด ชิคาโก โดยเบอร์นันเก้จะกล่าวเรื่องนโยบายการเงินและการสื่อสารในงานเลี้ยงอาหารค่าประจาปีของสโมสรนักเศรษฐศาสตร์แห่งชาติ ขณะที่นายอีแวนส์จะกล่าวเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจและการเงินต่อที่ประชุมผู้บริหารธนาคารเขตมิดเวสต์ แนะแนวทางการลงทุน ดีดตัวขึ้น ไม่ผ่าน $1280 Us/Oz มีโอกาสปรับตัวลงต่อ ควรปิดสถานะที่มีกาไรออกไปก่อน สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดตลาดไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดย USD/THB ปิดต่ำลงเล็กน้อยที่ระดับ 31.59 จาก 31.60 ความไม่แน่นอนทางการเมืองยังเป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบค่าเงินบาท โดยในวันนี้ กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลจะยกระดับการประท้วง เรามองว่า USD/THB จะซื้อขายในกรอบ 31.45/31.65 สกุลเงินเอเชีย ซื้อขายในกรอบแคบ โดยสกุลเงินภูมิภาคส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ค่าเงินวอนและริงกิตแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่เงินรูเปียห์ปิดไม่เปลี่ยนแปลง ค่าเงินเคลื่อนไหวไม่มากนัก ขณะที่ตลาดรอฟังถ้อยแถลงของนางเยลเลนในการประชุม Senate Banking Committee EUR/USD ปิดสูงขึ้นที่ 1.3429 ค่าเงินดอลลาร์กับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยหลังจากอ่อนค่าลงมากเมื่อวานนี้ ประกอบกับตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ของยูโรโซนเยอรมัน 3Q2013 GDP ค่อนข้างอ่อนแอ โดย GDP ของ ยูโรโซนออกมาตามคาดที่ 0.10% QoQ SA แต่เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าเศรษฐกิจหดตัว -0.4% YoY sa
  10. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 19/11/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,260 1,255 1,235 แนวต้าน (Resistance) 1,282 1,289 1,296 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เช่นสกุลเงินยูโร หลังจากจีนเปิดแผนปฏิรูปเศรษฐกิจเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงกดดันหลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป ทั้งนี้ นางเยลเลนแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐว่า การผ่อนคลายทางการเงินในปัจจุบันควรดำเนินต่อไปในขณะนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเฟดจะยังเดินหน้าใช้มาตรการ QE ต่อไป นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาดูการแถลงของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดในวันอังคารนี้ และรายงานการประชุมนโยบายการเงินของ เฟดประจาวันที่ 29-30 ต.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธ ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเช้าวันพฤหัสบดี ตามเวลาไทย เพื่อประเมินสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินในอนาคตของเฟด สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาว่าเฟดอาจจะเริ่มปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) แนะแนวทางการ หากราคาอ่อนตัวลงมาที่แนวรับแนะเข้าซื้อแล้วทากาไรช่วงราคารีบาวน์ สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดตลาดไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดย USD/THB ปิดต่ำลงเล็กน้อยที่ระดับ 31.59 จาก 31.60 ความไม่แน่นอนทางการเมืองยังเป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบค่าเงินบาท โดยในวันนี้ กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลจะยกระดับการประท้วง เรามองว่า USD/THB จะซื้อขายในกรอบ 31.45/31.65 สกุลเงินเอเชีย ซื้อขายในกรอบแคบ โดยสกุลเงินภูมิภาคส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ค่าเงินวอนและริงกิตแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่เงินรูเปียห์ปิดไม่เปลี่ยนแปลง ค่าเงินเคลื่อนไหวไม่มากนัก ขณะที่ตลาดรอฟังถ้อยแถลงของนางเยลเลนในการประชุม Senate Banking Committee EUR/USD ปิดสูงขึ้นที่ 1.3429 ค่าเงินดอลลาร์กับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยหลังจากอ่อนค่าลงมากเมื่อวานนี้ ประกอบกับตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ของยูโรโซนเยอรมัน 3Q2013 GDP ค่อนข้างอ่อนแอ โดย GDP ของยูโรโซนออกมาตามคาดที่ 0.10% QoQ SA แต่เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าเศรษฐกิจหดตัว -0.4%
  11. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 18/11/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,277 1,268 1,260 แนวต้าน (Resistance) 1,294 1,300 1,309 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก ว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะแสดงท่าทีสนับสนุนการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่อสภาคองเกรสสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูนางเจเน็ต เยลเลน รองประธานเฟด ที่จะแถลงของต่อคณะกรรมการด้านการธนาคารของวุฒิสภาในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งความคิดเห็นของนางเยลเลนเกี่ยวกับตลาดแรงงานและเศรษฐกิจนั้น เป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากนักลงทุนกำลังรอให้มีสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับแผนการด้านนโยบายใน อนาคตของเฟด สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงติดต่อกัน 5 วันทำการก่อนหน้านี้ หลังจากนางเยลเลนแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะสามารถชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่ เกิดภาวะวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยได้ ซึ่งเฟดจำเป็นต้องดำเนินการมากขึ้นเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายใน ประเทศ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่ง เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสหรัฐระบุว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 พ.ย. ลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 339,000 ราย แต่เป็นการปรับตัวลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ ระดับ 330,000 ราย สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้น เป็นครั้งแรกในรอบ 6 วันทำการเมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป แนะแนวทางการลงทุน ปิดสถานะที่มีกาไรบริเวณแนวต้าน รอเข้าซื้อเมื่อราคาปรับตัวลดลงมาที่แนวรับ สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดตลาดไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดย USD/THB ปิดต่ำลงเล็กน้อยที่ระดับ 31.59 จาก 31.60 ความไม่แน่นอนทางการเมืองยังเป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบค่าเงินบาท โดยในวันนี้ กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลจะยกระดับการประท้วง เรามองว่า USD/THB จะซื้อขายในกรอบ 31.45/31.65 สกุลเงินเอเชีย ซื้อขายในกรอบแคบ โดยสกุลเงินภูมิภาคส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ค่าเงินวอนและริงกิตแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่เงินรูเปียห์ปิดไม่เปลี่ยนแปลง ค่าเงินเคลื่อนไหวไม่มากนัก ขณะที่ตลาดรอฟังถ้อยแถลงของนางเยลเลนในการประชุม Senate Banking Committee EUR/USD ปิดสูงขึ้นที่ 1.3429 ค่าเงินดอลลาร์กับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยหลังจากอ่อนค่าลงมากเมื่อวานนี้ ประกอบกับตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ของยูโรโซนเยอรมัน 3Q2013 GDP ค่อนข้างอ่อนแอ โดย GDP ของ ยูโรโซนออกมาตามคาดที่ 0.10% QoQ SA แต่เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าเศรษฐกิจหดตัว -0.4% YoY sa
  12. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 15/11/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,277 1,270 1,260 แนวต้าน (Resistance) 1,296 1,301 1,315 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก ว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะแสดงท่าทีสนับสนุนการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่อสภาคองเกรสสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูนางเจเน็ต เยลเลน รองประธานเฟด ที่จะแถลงของต่อคณะกรรมการด้านการธนาคารของวุฒิสภาในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งความคิดเห็นของนางเยลเลนเกี่ยวกับตลาดแรงงานและเศรษฐกิจนั้น เป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากนักลงทุนกำลังรอให้มีสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับแผนการด้านนโยบายในอนาคตของเฟด สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงติดต่อกัน 5 วันทำการก่อนหน้านี้ หลังจากนางเยลเลนแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่เนื่อง แต่ก็ยังไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะสามารถชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่เกิดภาวะวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยได้ ซึ่งเฟดจำเป็นต้องดำเนินการมากขึ้นเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสหรัฐระบุว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 พ.ย. ลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 339,000 ราย แต่เป็นการปรับตัวลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 330,000 ราย สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้น เป็นครั้งแรกในรอบ 6 วันทำการเมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป แนะแนวทางการลงทุน อาจจะมีขึ้นทดสอบแนวต้านอีกรอบหากไม่สามารถผ่านไปได้ อาจจะมีแรงเทขายออกมา อาจจะชะลอการเข้าซื้อไปก่อน รอเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ที่ระดับ 31.65 เงินบาทอยู่ภายใต้แรงกดดันจากปัจจัยทางการเมืองในประเทศ (การพิจารณาร่าง พรบ.นิโทษกรรมและการตัดสินพื้นที่เขาพระวิหารของศาลโลก) นอกจากนี้ กระทรวงพานิชย์ยังออกมาปรับลดการคาดการณ์ตัวเลขส่งออกในปี 2013 จาก 4% เหลือเพียง 1% ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกที่ต่ำกว่าคาดในช่วง 9 เดือนแรกของปี สกุลเงินเอเชีย อ่อนค่าลงตามภาวะเศรษฐกิจในภูมิภาคที่อ่อนแอ ประกอบกับการที่ตลาดคาดว่า Fed อาจเริ่มการปรับลด QE เร็วกว่าคาดเงินรูเปียห์อ่อนค่าลงไปที่ระดับ 11,413 หลังนักลงทุนเทขายพันธบัตรต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรระยะเวลา 10 ปีปรับขึ้นกว่า 40 bps สำหรับเงินรูปีอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์มากที่สุดในรอบ 2 เดือนที่ระดับ 62.23 หลังอินเดียขาดดุลการค้าสูงขึ้นในเดือนตุลาคม จากการนำเข้าทองที่เพิ่มขึ้น USD/THB ปิดสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ที่ระดับ 31.65 เงินบาทอยู่ภายใต้แรงกดดันจากปัจจัยทางการเมืองในประเทศ
  13. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 14/11/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,260 1,254 1,250 แนวต้าน (Resistance) 1,291 1,303 1,313 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่านางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะแสดงท่าทีสนับสนุนการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่อสภาคองเกรสสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูนางเจเน็ต เยลเลน รองประธานเฟด ที่จะแถลงของต่อคณะกรรมการด้านการธนาคารของวุฒิสภาในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งความคิดเห็นของนางเยลเลนเกี่ยวกับตลาดแรงงานและเศรษฐกิจนั้น เป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากนักลงทุนกาลังรอให้มีสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับแผนการด้านนโยบายในอนาคตของเฟด สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) ทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 5 วันทำการ เพราะได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจจีนอาจชะลอตัวลง ขณะที่นักลงทุนจับตาดูนางเจเน็ต เยลเลน รองประธานเฟด ที่จะแถลงของต่อคณะกรรมการด้านการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐ เพื่อดูว่านางเยลเลนส่งสัญญาณใดๆเกี่ยวกับนโยบายเฟดหรือไม่ แนะแนวทางการลงทุน หากราคาไม่หลุด 1280 Us/Oz ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ที่ระดับ 31.65 เงินบาทอยู่ภายใต้แรงกดดันจากปัจจัยทางการเมืองในประเทศ (การพิจารณาร่าง พรบ.นิโทษกรรมและการตัดสินพื้นที่เขาพระวิหารของศาลโลก) นอกจากนี้ กระทรวงพานิชย์ยังออกมาปรับลดการคาดการณ์ตัวเลขส่งออกในปี 2013 จาก 4% เหลือเพียง 1% ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกที่ต่ำกว่าคาดในช่วง 9 เดือนแรกของปี สกุลเงินเอเชีย อ่อนค่าลงตามภาวะเศรษฐกิจในภูมิภาคที่อ่อนแอ ประกอบกับการที่ตลาดคาดว่า Fed อาจเริ่มการปรับลด QE เร็วกว่าคาดเงินรูเปียห์อ่อนค่าลงไปที่ระดับ 11,413 หลังนักลงทุนเทขายพันธบัตรต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรระยะเวลา 10 ปีปรับขึ้นกว่า 40 bps สาหรับเงินรูปีอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์มากที่สุดในรอบ 2 เดือนที่ระดับ 62.23 หลังอินเดียขาดดุลการค้าสูงขึ้นในเดือนตุลาคม จากการนำเข้าทองที่เพิ่มขึ้น USD/THB ปิดสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ที่ระดับ 31.65 เงินบาทอยู่ภายใต้แรงกดดันจากปัจจัยทางการเมืองในประเทศ
  14. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 13/11/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,260 1,254 1,235 แนวต้าน (Resistance) 1,275 1,281 1,299 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะตัดสินใจลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณในเรื่องดังกล่าว สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะลดขนาด QE รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังจากนายริชาร์ด ฟิสเชอร์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวต่อสานักข่าว CNBC เมื่อวานนี้ว่า โครงการซื้อสินทรัพย์ของเฟดไม่สามารถนามาใช้ได้ตลอดไป เพราะเมื่อถึงจุดหนึ่งแล้ว เฟดก็จาเป็นต้องลดขนาดโครงการนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูนางเจเน็ต เยลเลน รองประธานเฟด ที่จะแถลงของต่อคณะกรรมการด้านการธนาคารของวุฒิสภาในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งความคิดเห็นของนางเยลเลนเกี่ยวกับตลาดแรงงานและเศรษฐกิจนั้น เป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากนักลงทุนกำลังรอให้มีสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับแผนการด้านนโยบายในอนาคตของเฟด สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.เมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) โดยสัญญาทองคำปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. เพราะได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะลดขนาดมาตรการ QE หรือโครงการซื้อพันธบัตรในเดือนหน้านี้ แนะแนวทางการลงทุน การปรับตัวลงอาจจะยังไม่จบราคาอาจจะเด้งรีบาวน์ขึ้นทดสอบแนวต้านเท่านั้น สถานะมีกำไรอาจจะทะยอยทำกำไรออกไปก่อน สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปรับลดลงเล็กน้อย ปิดตลาดที่ระดับ 31.25 (รอยเตอร์ = 31.23) เงินบาทมีการซื้อขายอยู่ในช่วงแคบระหว่าง 31.05-31.34 เมื่อวานนี้ เนื่องจากตลาดรอคอยที่จะเห็นความคืบหน้าของสหรัฐฯ มติของ คณะกรรมการนโยบายการเงินไม่ได้มีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาท เนื่องจากเป็นไปตามความคาดหมาย การคาดการณ์เรื่องข้อตกลงในนาทีสุดท้าย จากสหรัฐฯ ในวันนี้ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงในวันนี้ สกุลเงินเอเชีย ปิดแบบผสมผสาน ขณะที่ตลาดรอคอยความคืบหน้าจากสหรัฐฯ เรื่องการจัดการปัญหาหนี้ การเคลื่อนไหวของสกุลเงินในเอเชียเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังไม่ต้องการที่จะเพิ่มสถานะการลงทุนใน ตลาดเกิดใหม่ ค่าเงินริงกิตแข็งค่าขึ้นในช่วงแรกของการซื้อขาย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับขึ้นของตลาดหุ้นมาเลเซีย ซึ่งปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ แต่ช่วงหลังเงินริงกิตปรับตัวลดลงและปิดตลาดอ่อนค่า 0.52% ในขณะที่เงินรูเปียห์แข็งค่าขึ้น 0.40% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ตามความต้องการซื้อจากธนาคารต่างประเทศ ค่าเงินวอนปรับแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไปอยู่ในระดับที่สูงสุดรอบ 9 เดือน ตามความต้องการจากนักลงทุนต่างชาติ และความต้องการของผู้ส่งออก เกาหลีใต้ http://www.youtube.com/watch?v=5PcG_EfTxWQ
  15. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 12/11/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,270 1,263 1,255 แนวต้าน (Resistance) 1,285 1,291 1,301 ดอลลาร์เคลื่อนไหวแข็งค่าในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราเช้านี้ หลังทะยานขึ้นอย่างมากในช่วงสุดสัปดาห์ที่ตลาดนิวยอร์ก ขานรับข้อมูลการจ้างงานสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งสูงเกินคาดในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่านายจ้างมีมุมมองในแง่บวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 204,000 ตำแหน่ง ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 125,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวขึ้นแตะ 7.3% จากระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นในการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกที่ตลาดเอเชียช่วงเช้า วันนี้ แต่ยังคงต่ำกว่าระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากที่ราคาทองได้รับผลกระทบจากข้อมูลจ้างงานสหรัฐที่ดีเกินคาด ซึ่งจุดปะทุกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเริ่มชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE เร็วกว่าที่คาด ด้านเทคนิคราคาทองคำ ในเช้าวันนี้ ราคายังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ ๆ ทิศทางยังมีโอกาสลงทดสอบแนวรับล่างได้อีกครั้ง ราคายังไม่สามารถผ่านด่านแนวต้านขึ้นไปได้ ดังนั้น จึงควรชลอการลงทุนในระยะนี้ แนะแนวทางการลงทุน ให้รอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาที่แนวรับ สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดสูงขึ้น 0.26% ที่ 31.20 เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาคและ การขายสินทรัพย์โดยนักลงทุนต่างชาติในตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้น สัปดาห์นี้ เราคาดว่าจะเห็นการซื้อขาย USDTHB ในกรอบแคบและการอ่อนตัวของเงินบาทในระยะใกล้ไม่น่าจะเกิน 31.30 บาท/ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยงที่ USDTHB จะปรับตัวสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนทางสถานการณ์การเมือง เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.32/34 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.26/28 บาท/ดอลลาร์ แนวโน้มเงินบาทยังอ่อนค่าต่อ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในประเทศ กรณีคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าเงินรูเปียห์ หลังจากแถลงการณ์หลังการประชุม FOMC แสดงให้เห็นว่า เฟดพูดถึงประเด็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่น้อยลง (less dovish) กว่าที่ตลาดคาด ทาให้เห็นการขายทำกำไรระยะสั้น หลังจากที่ในช่วงก่อหน้าค่าเงินเอเชีย แข็งค่าขึ้นบ้าง เงินรูเปียห์อ่อนค่าลง 0.65% ในขณะที่ริงกิตปรับลดลง 0.26% ทั้งนี้ ค่าเงินวอนเกือบไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้เข้าแทรกแซงค่าเงินเพื่อลดแรงกดดันต่อวอน หลังจากที่ผู้นำเข้ายังต้องการแลกเงินช่วงปลายเดือน ขณะที่ยังเห็นเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น http://www.youtube.com/watch?v=yBKkyPBUVNo
  16. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 11/11/2556 แนวรับ (Support) 1,270 1,263 1,253 แนวต้าน (Resistance) 1,290 1,296 1,305 ดอลลาร์เคลื่อนไหวแข็งค่าในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราเช้านี้ หลังทะยานขึ้นอย่างมากในช่วงสุดสัปดาห์ที่ตลาดนิวยอร์ก ขานรับข้อมูลการจ้างงานสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งสูงเกินคาดในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่านายจ้างมีมุมมองในแง่บวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 204,000 ตำแหน่ง ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 125,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตรา ว่างงานปรับตัวขึ้นแตะ 7.3% จากระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นในการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกที่ตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ แต่ยังคงต่ำกว่าระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากที่ราคาทองได้รับผลกระทบจากข้อมูลจ้างงานสหรัฐที่ดีเกินคาด ซึ่งจุดปะทุกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเริ่มชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE เร็วกว่าที่คาด ด้านเทคนิคราคาทองคำในเช้าวันนี้ ราคายังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ ๆ ทิศทางยังมีโอกาสลงทดสอบแนวรับล่างได้อีกครั้ง ราคายังไม่สามารถผ่านด่านแนวต้านขึ้นไปได้ ดังนั้น จึงควรชลอการลงทุนในระยะนี้ แนะแนวทางการลงทุน ราคาอาจจะรีบาวน์ได้อีกเล็กน้อย หาจังหวะทำกำไรออกไปก่อนที่บริเวณแนวต้าน และควรรอจังหวะราคาอ่อนตัวลงมาที่แนวรับเพื่อเข้าซื้อ สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB เสร็จสิ้นเซสชั่นการซื้อขายวันศุกร์สูงขึ้นอยู่ที่ 31.47 เงินบาทค่อนข้างทรงตัวในช่วงเช้า แต่ปรับอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว หลังการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ โดยปรับอ่อนค่าลงไปแตะระดับต่ำสุดรอบ 4 สัปดาห์ ที่ 31.52 ในช่วงระหว่างวัน แต่ปรับแข็งค่าขึ้นมาเล็กน้อยก่อนปิดตลาด หลังจากนักลงทุนมองว่าเงินบาทอ่อนค่ารวดเร็วจนเกินไป เราคาดว่าเงินบาทจะอยู่ในแนวโมที่อ่อนค่าจากแรงกดดันเรื่อง QE และความไม่แน่นอนของการเมืองไทย เช้านี้เงินบาทเปิดตลาดอ่อนค่ามากขึ้นที่ 31.64 สกุลเงินเอเชียค่อนข้างทรงตัวในเซสชั่นการซื้อขายของเอเชีย แต่หลังการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้ืนมากกว่าที่คาดไว้ ทำให้ค่าเงินอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว เงินรูปีนำการอ่อนค่า หลังจากที่ลงทุนต่างชาติลดการถือครองหุ้น ในอินเดีย ในขณะเดียวกันเงินรูเปียห์ปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่สองหลังจากการประกาศ GDP ของอินโดนีเซีย แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวในระดับที่ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2009
  17. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 11/11/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,270 1,263 1,255 แนวต้าน (Resistance) 1,289 1,296 1,304 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กจากกระแสนักลงทุนวิตกกังวลว่าเฟด อาจจะลดขนาด QE หรือโครงการซื้อพันธบัตร 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน หลังจากตัวเลขจ้างงานของสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่ง กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 204,000 ตำแหน่ง จากระดับที่เพิ่มขึ้น 163,000 ต าแหน่ง และสูง กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 125,000 ตำแหน่ง ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งสูงเกินคาดในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่านายจ้างมีมุมมองในแง่บวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะเริ่มลดขนาด QE หลังจากสถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่าดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.ขยายตัวในจังหวะที่รวดเร็วขึ้น แตะที่ระดับ 55.4 เพราะได้แรงหนุนจากตลาดแรงงาน ถึงแม้ว่าจะเกิดการเผชิญหน้าทางการเมืองในเดือนดังกล่าว จนส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบาลบางส่วนต้องปิดดำเนินงาน สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากดัชนีภาคบริการของสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่ง แนะแนวทางการลงทุน ราคายังไม่สามารถผ่านแนวต้านไปได้ ยังเสี่ยงโดนแรงเทขายอาจจะชลอการเข้าซื้อออกไปก่อน สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดสูงขึ้น 0.26% ที่ 31.20 เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาค และการขายสินทรัพย์ โดยนักลงทุนต่างชาติในตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้น สัปดาห์นี้เราคาดว่าจะเห็นการซื้อขาย USDTHB ในกรอบแคบและการอ่อนตัวของเงินบาทในระยะใกล้ไม่น่าจะเกิน 31.30 บาท/ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยงที่ USDTHB จะปรับตัวสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนทางสถานการณ์การเมือง เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.32/34 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.26/28 บาท/ดอลลาร์ แนวโน้มเงินบาทยังอ่อนค่าต่อส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในประเทศ กรณีคัดค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับดอลลาร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าเงินรูเปียห์ หลังจากแถลงการณ์หลังการประชุม FOMC แสดงให้เห็นว่า เฟดพูดถึงประเด็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่น้อยลง (less dovish) กว่าที่ตลาดคาด ทำให้เห็นการขายทำกำไรระยะสั้น หลังจากที่ในช่วงก่อหน้าค่าเงินเอเชียแข็งค่าขึ้นบ้าง เงินรูเปียห์อ่อนค่าลง 0.65% ในขณะที่ริงกิตปรับลดลง 0.26% ทั้งนี้ ค่าเงินวอนเกือบไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้เข้าแทรกแซงค่าเงินเพื่อลดแรงกดดันต่อวอน หลังจากที่ผู้นำเข้ายังต้องการแลกเงินช่วงปลายเดือน ขณะที่ยังเห็นเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น http://www.youtube.com/watch?v=gsFF_Lq0kBU.
  18. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 8/11/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,300 1,295 1,290 แนวต้าน (Resistance) 1,318 1,326 1,335 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ ส่วนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนมองว่าข้อมูล เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับลดขนาดมาตรการ QE หรือโครงการซื้อพันธบัตร 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ในระยะเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขประมาณครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/2556 ขยายตัว 2.8% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัว 2.0% และเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2555 หลังจากที่ขยายตัว 2.5% ในไตรมาส 2 สัญญาทองคำร่วงลงหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากอีซีบีมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.25% จากระดับ 0.5% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ภายหลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนปรับตัวลดลง ทั้งนี้ ยูโรสแตทเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เบื้องต้นเดือนต.ค.ของยูโรโซนลดลงมาอยู่ที่ระดับ 0.7% จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 1.1% ซึ่งดัชนี CPI เดือนต.ค.ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2554 แนะแนวทางการลงทุน อาจจะชะลอการเข้าซื้อ เนื่องจากราคายังอยู่โซน Bearish ยังมีความเสี่ยงโดนแรงเทขาย สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดสูงขึ้น 0.26% ที่ 31.20 เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาคและ การขายสินทรัพย์โดยนักลงทุนต่างชาติในตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้น สัปดาห์นี้ เราคาดว่าจะเห็นการซื้อขาย USDTHB ในกรอบแคบและการอ่อนตัวของเงินบาทในระยะใกล้ไม่น่าจะเกิน 31.30 บาท/ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยงที่ USDTHB จะปรับตัวสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนทางสถานการณ์การเมือง เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.32/34 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.26/28 บาท/ดอลลาร์ แนวโน้มเงินบาทยังอ่อนค่าต่อ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในประเทศ กรณีคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าเงินรูเปียห์ หลังจากแถลงการณ์หลังการประชุม FOMC แสดงให้เห็นว่า เฟดพูดถึงประเด็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่น้อยลง (less dovish) กว่าที่ตลาดคาด ทาให้เห็นการขายทำกำไรระยะสั้น หลังจากที่ในช่วงก่อหน้าค่าเงินเอเชีย แข็งค่าขึ้นบ้าง เงินรูเปียห์อ่อนค่าลง 0.65% ในขณะที่ริงกิตปรับลดลง 0.26% ทั้งนี้ ค่าเงินวอนเกือบไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้เข้าแทรกแซงค่าเงินเพื่อลดแรงกดดันต่อวอน หลังจากที่ผู้นำเข้ายังต้องการแลกเงินช่วงปลายเดือน ขณะที่ยังเห็นเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น
  19. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 7/11/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,313 1,305 1,300 แนวต้าน (Resistance) 1,325 1,338 1,350 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเริ่มปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วกว่าที่คาด หลังข้อมูลภาคบริการของสหรัฐดีเกินคาด ทั้งนี้ สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.ขยายตัวในจังหวะที่รวดเร็วขึ้น แตะที่ระดับ 55.4 เพราะได้แรงหนุนจากตลาดแรงงาน ถึงแม้ว่าจะเกิดการเผชิญหน้าทางการเมืองในเดือนดังกล่าว จนส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบาลบางส่วนต้องปิดดำเนินงานเป็นระยะเวลา 16 วัน สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะเริ่มลดขนาด QE หลังจากสถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่าดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.ขยายตัวในจังหวะที่รวดเร็วขึ้น แตะที่ระดับ 55.4 เพราะได้แรงหนุนจากตลาดแรงงาน ถึงแม้ว่าจะเกิดการเผชิญหน้าทางการเมืองในเดือนดังกล่าว จนส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบาลบางส่วนต้องปิดดาเนินงาน สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่าสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากดัชนีภาคบริการของสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่ง แนะแนวทางการลงทุน เริ่มมีแรงซื้อเข้ามา ระยะสั้นเริ่มมีสัญญาณ Bullish ราคามีโอกาสที่จะขึ้นทดสอบแนวต้านใหม่ได้อีกครั้ง สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดสูงขึ้น 0.26% ที่ 31.20 เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาคและ การขายสินทรัพย์โดยนักลงทุนต่างชาติในตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้น สัปดาห์นี้ เราคาดว่าจะเห็นการซื้อขาย USD/THB ในกรอบแคบและการอ่อนตัวของเงินบาทในระยะใกล้ไม่น่าจะเกิน 31.30 บาท/ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยงที่ USD/THB จะปรับตัวสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนทางสถานการณ์การเมือง เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.32/34 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.26/28 บาท/ดอลลาร์ แนวโน้มเงินบาทยังอ่อนค่าต่อ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในประเทศ กรณีคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าเงินรูเปียห์ หลังจากแถลงการณ์หลังการประชุม FOMC แสดงให้เห็นว่า เฟดพูดถึงประเด็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่น้อยลง (less dovish) กว่าที่ตลาดคาด ทาให้เห็นการขายทำกำไรระยะสั้น หลังจากที่ในช่วงก่อนหน้าค่าเงินเอเชีย แข็งค่าขึ้นบ้าง เงินรูเปียห์อ่อนค่าลง 0.65% ในขณะที่ริงกิตปรับลดลง 0.26% ทั้งนี้ ค่าเงินวอนเกือบไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้เข้าแทรกแซงค่าเงินเพื่อลดแรงกดดันต่อวอน หลังจากที่ผู้นำเข้ายังต้องการแลกเงินช่วงปลายเดือน ขณะที่ยังเห็นเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น http://www.youtube.com/watch?v=CVpv8Przvfc
  20. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 6/11/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,303 1,298 1,291 แนวต้าน (Resistance) 1,317 1,325 1,338 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเริ่มปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วกว่าที่คาด หลังข้อมูลภาคบริการของสหรัฐดีเกินคาด ทั้งนี้ สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.ขยายตัวในจังหวะที่รวดเร็วขึ้น แตะที่ระดับ 55.4 เพราะได้แรงหนุนจากตลาดแรงงาน ถึงแม้ว่าจะเกิดการเผชิญหน้าทางการเมืองในเดือนดังกล่าว จนส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบาลบางส่วนต้องปิดดำเนินงานเป็นระยะเวลา 16 วัน สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะเริ่มลดขนาด QE หลังจากสถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่าดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.ขยายตัวในจังหวะที่รวดเร็วขึ้น แตะที่ระดับ 55.4 เพราะได้แรงหนุนจากตลาดแรงงาน ถึงแม้ว่าจะเกิดการเผชิญหน้าทางการเมืองในเดือนดังกล่าว จนส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบาลบางส่วนต้องปิดดำเนินงาน สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากดัชนีภาคบริการของสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่ง แนะแนวทางการลงทุน ราคาอาจจะ Sideway Up เพื่อขึ้นทดสอบแนวต้าน สถานะมีกำไรให้ตัดสถานะที่แนวต้าน หากจะเข้าซื้อเพิ่มเติมพิจารณาที่แนวรับ สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดสูงขึ้น 0.26% ที่ 31.20 เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาคและการขายสินทรัพย์โดยนักลงทุนต่างชาติในตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้น สัปดาห์นี้ เราคาดว่าจะเห็นการซื้อขาย USDTHB ในกรอบแคบและการอ่อนตัวของเงินบาทในระยะใกล้ไม่น่าจะเกิน 31.30 บาท/ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยงที่ USD/THB จะปรับตัวสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนทางสถานการณ์การเมือง เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.32/34 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.26/28 บาท/ดอลลาร์ แนวโน้มเงินบาทยังอ่อนค่าต่อ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในประเทศ กรณีคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าเงินรูเปียห์ หลังจากแถลงการณ์หลังการประชุม FOMC แสดงให้เห็นว่า เฟดพูดถึงประเด็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่น้อยลง (less dovish) กว่าที่ตลาดคาด ทำให้เห็นการขายทำกำไรระยะสั้น หลังจากที่ในช่วงก่อหน้าค่าเงินเอเชีย แข็งค่าขึ้นบ้าง เงินรูเปียห์อ่อนค่าลง 0.65% ในขณะที่ริงกิตปรับลดลง 0.26% ทั้งนี้ ค่าเงินวอนเกือบไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้เข้าแทรกแซงค่าเงินเพื่อลดแรงกดดันต่อวอน หลังจากที่ผู้นำเข้ายังต้องการแลกเงินช่วงปลายเดือน ขณะที่ยังเห็นเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น http://www.youtube.com/watch?v=uLR0GObHC_Y
  21. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 5/11/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,306 1,300 1,291 แนวต้าน (Resistance) 1,325 1,330 1,338 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ย.) ภายหลังมีการเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตสหรัฐที่ขยายตัวดีเกินคาดในเดือนต.ค. ขณะสกุลเงินยูโรยังคงร่วงลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจลดดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ภายหลังตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 98.76 เยน จากระดับ 98.32 เยน แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9126 ฟรังค์ จากระดับ 0.9055 ฟรังค์ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐช่วยกระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อสัญญาทองคำอย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตร แนะแนวทางการลงทุน หาจังหวะเข้าซื้อที่บริเวณแนวรับเมื่อราคาอ่อนตัวลงมา สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดสูงขึ้น 0.26% ที่ 31.20 เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาคและการขายสินทรัพย์โดยนักลงทุนต่างชาติในตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้น สัปดาห์นี้ เราคาดว่าจะเห็นการซื้อขาย USDTHB ในกรอบแคบและการอ่อนตัวของเงินบาทในระยะใกล้ไม่น่าจะเกิน 31.30 บาท/ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยงที่ USDTHB จะปรับตัวสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนทางสถานการณ์การเมือง สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าเงินรูเปียห์ หลังจากแถลงการณ์หลังการประชุม FOMC แสดงให้เห็นว่า เฟดพูดถึงประเด็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่น้อยลง (less dovish) กว่าที่ตลาดคาด ทาให้เห็นการขายทำกำไรระยะสั้น หลังจากที่ในช่วงก่อหน้าค่าเงินเอเชีย แข็งค่าขึ้นบ้าง เงินรูเปียห์อ่อนค่าลง 0.65% ในขณะที่ริงกิตปรับลดลง 0.26% ทั้งนี้ ค่าเงินวอนเกือบไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้เข้าแทรกแซงค่าเงินเพื่อลดแรงกดดันต่อวอน หลังจากที่ผู้นาเข้ายังต้องการแลกเงินช่วงปลายเดือน ขณะที่ยังเห็นเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น http://www.youtube.com/watch?v=wGvWvBl1rZQ
  22. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 4/11/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,302 1,298 1,291 แนวต้าน (Resistance) 1,320 1,327 1,332 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ย.) ภายหลังมีการเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตสหรัฐที่ขยายตัวดีเกินคาดในเดือนต.ค. ขณะสกุลเงินยูโรยังคงร่วงลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจลดดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ภายหลังตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 98.76 เยน จากระดับ 98.32 เยน แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9126 ฟรังค์ จากระดับ 0.9055 ฟรังค์ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ย.) หลังจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ โดยเฉพาะยูโร จากกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจลดดอกเบี้ย เนื่องจากเงินเฟ้อเดือนต.ค.ในยูโรโซนลดลงสู่ระดับต่าสุดในรอบเกือบ 4 ปี แนะแนวทางการลงทุน เช้านี้ราคาอาจจะเป็นการรีบาวน์ ขึ้นทดสอบ แนวต้าน ยังคงมีความเสี่ยงกับแรงเทขายออกมาอีกครั้ง อาจจะรอความชัดเจนของตลาดออกไปก่อน สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดตลาดสูงขึ้น 0.23% อยู่ที่ 31.12 เงินบาทอ่อนค่าตามสกุลเงินอื่นในภูมิภาค หลังจากที่การประชุม FOMC เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ในขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจไทยที่อ่อนแอจากการรายงานของ ธปท. และความไม่แน่นอนเรื่องการเมือง ภายในเป็นแรงกดดันเงินบาทอยู่ สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าเงินรูเปียห์ หลังจากแถลงการณ์หลังการประชุม FOMC แสดงให้เห็นว่า เฟดพูดถึงประเด็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่น้อยลง (less dovish) กว่าที่ตลาดคาด ทำให้เห็นการขายทำกำไรระยะสั้น หลังจากที่ในช่วงก่อนหน้าค่าเงินเอเชียแข็งค่าขึ้นบ้าง เงินรูเปียห์อ่อนค่าลง 0.65% ในขณะที่ริงกิตปรับลดลง 0.26% ทั้งนี้ ค่าเงินวอนเกือบไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้เข้าแทรกแซงค่าเงินเพื่อลดแรงกดดันต่อวอน หลังจากที่ผู้นำเข้ายังต้องการแลกเงินช่วงปลายเดือน ขณะที่ยังเห็นเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น http://www.youtube.com/watch?v=Ay5JvhWhxRM
  23. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 1/11/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,315 1,300 1,290 แนวต้าน (Resistance) 1,330 1,334 1,338 สกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐแข็งค่าภายหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ไว้ในการประชุมเมื่อคืนนี้ เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในเอเชีย ภายหลังจากที่เฟดได้คงมาตรการ QE ไว้ และระบุว่าสภาวะแวดล้อมยังคงอ่อนแอเกินกว่าที่จะถอนโครงการ ซื้อพันธบัตรได้ ธนาคารกลางสหรัฐลงคะแนนเสียง 9 ต่อ 1 เสียงให้คงโครงการซื้อพันธบัตร 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนไว้ โดยให้เหตุผลว่าอัตราว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูง และยังจำเป็นต้องใช้ดำเนินนโยบายเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ สัญญาทองคำร่วงในวันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 12.04 น.ตามเวลาประเทศไทย สัญญาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาด COMEX ร่วงลง 10.7 ดอลลาร์ แตะที่ 1,338.6 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากปรับตัวขึ้น 3.80 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,349.30 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวานนี้ โดยมีสัญญาณขายทางเทคนิคลงมาทำให้ระดับราคาได้หลุด แนวรับ $ 1,345 Us/Oz เป็นการหลุดเทรนด์ระยะสั้นลงมา ทำให้มีมุมมองว่าการปรับตัวครั้งนี้น่าจะเป็นการปรับฐานมากกว่าจะเปลี่ยน เป็นขาลง แนะแนวทางการลงทุน ราคายังคงเป็น Sideway Down อาจจะชะลอการลงทุนออกไปก่อนรอการปรับฐานให้จบก่อน สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดไม่เปลี่ยนแปลงที่ 31.06 (Reuters = 31.03) ในขณะที่ผู้เล่นในตลาดรอปัจจัยใหม่ๆเข้ามา ราคาเปิดในวันอังคารปรับสูงขึ้น แต่แรงขายดอลลาร์ระหว่างวันได้ลดแรงกดดันต่อเงินบาท อย่างไรก็ดี ตลาดดูค่อนข้างเงียบและคาดว่าการซื้อขายยังอยู่ในระดับที่ต่ำ ส่วนความตึงเครียดในด้านการเมืองภายในประเทศยังคงเป็นอีกปัจจัยกดดันค่าเงิน บาทในช่วงนี้ สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ในขณะที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯเริ่มการประชุม 2 วัน อย่างไรก็ดี ความเห็นของตลาดในช่วงนี้ดูเป็นเอกฉันท์ว่าเฟดจะไม่ปรับลด QE ส่วนเงินรูปีแข็งค่าขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางอินเดียได้ตัดสินใจที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อีก 25bps ในการประชุมวานนี้ สอดคล้องกับความคาดหมายของตลาด เงินรูเปียห์อ่อนค่าลงหลังจากที่ธนาคารต่างประเทศขายพันธบัตรรัฐบาล ของอินโดนีเซียออกมา ในขณะที่ เงินริงกิตอ่อนค่าเล็กน้อยขณะที่นักลงทุนขายทำกำไร หลังจากที่ริงกิตปรับขึ้นมาพร้อมการประกาศของรัฐบาลที่จะลดการขาดดุลงบ ประมาณ http://www.youtube.com/watch?v=8n4MF-tLNTA
  24. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 31/10/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,333 1,328 1,318 แนวต้าน (Resistance) 1,347 1,358 1,368 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) ขณะที่ตลาดจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะเดินหน้าใช้มาตรการ QE หรือไม่ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและราคาบ้าน นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นภายหลังจากตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการแล้ว โดยผลการประชุมระบุว่า เฟดยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจและการจ้างงาน นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำเพื่อความปลอดภัย หลังจาก ADP เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 130,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 150,000 ตำแหน่ง ขณะเดียวกัน ADP ยังได้ปรับลดตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ย. โดยระบุว่าเพิ่มขึ้นเพียง 145,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 166,000 ตำแหน่ง แนะแนวทางการลงทุน ราคายังอยู่ในช่วงของการปรับฐานสร้างแนวรับใหม่ ราคาอาจจะเป็น Sideway Down ให้รอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาที่แนวรับ สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดตลาดไม่เปลี่ยนแปลงที่ 31.06 (รอยเตอร์= 31.01) เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่มาขับเคลื่อนตลาด ในขณะเดียวกันนักลงทุนรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม รายงานตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือนกันยายน ซึ่งแสดงให้เห็นการหดตัว 2.90%YoY ถือเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 สศอ. ยังคาดว่า กิจกรรมการผลิตในปี 2013 จะหดตัว เมื่อเทียบกับ 2012 สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ซื้อขายอยู่กรอบ เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ยกเว้นเงินริงกิตของมาเลเซียที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น สูงสุดในรอบ 4 เดือน เงินริงกิตเพิ่มขึ้นกว่า 1% ขณะที่นักลงทุนมีปฏิกิริยาตอบสนองในทางบวกกับมาตรการ ของรัฐบาลมาเลเซีย ในการจัดการกับการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาล (ซึ่งรวมเอามาตรการการปรับขึ้นภาษีการบริโภคให้มาอยู่ที่ระดับ 6% (โดยมีผลเดือนเมษายน 2015) การยกเลิกเงินอุดหนุนสินค่าน้าตาล และเพิ่ม ภาษีอสังหาริมทรัพย์) ทั้งนี้ เงินริงกิตปรับย่อลงเล็กน้อยก่อนปิดตลาด ทำให้ทั้งแข็งค่าขึ้นเพียง 0.67% ขณะที่เงินดอลลาร์ไต้หวันเพิ่มขึ้นตามกระแสเงินทุนไหลเข้าของเงินต่างประเทศ มาในตลาดหุ้น ทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น 0.13% เงินสกุลอื่น ๆ ซี้อขายในกรอบแคบขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะเริ่มต้นคืนนี้ (29-30 ตุลาคม) เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง 0.31 % เทียบกับดอลลาร์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญ 16 สกุล หลังจากที่ผู้ว่าการธนาคารกลางชี้ให้เห็นว่าระดับค่าเงินในปัจจุบัน ไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ http://www.youtube.com/watch?v=EdR86R3q_GQ
  25. บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 30/10/2556 แนวโน้มช่วงบ่าย แนวรับ (Support) 1,338 1,333 1,320 แนวต้าน (Resistance) 1,356 1,365 1,375 เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.07/08 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.04/06 บาท/ดอลลาร์ ก่อนจะมีแรงซื้อดอลลาร์เข้ามาทำให้เงินบาทไปทำไฮที่ระดับ 31.11 บาท/ดอลลาร์ ก่อนที่จะกลับลงมาอยู่ที่ 31.05/07 บาท/ดอลลาร์ "วันนี้เงินบาทน่าจะแกว่งตัวในกรอบ รอผลประชุม FOMC คืนนี้ ซึ่งจะมีผลต่อตลาดบ้านเราพรุ่งนี้เช้า สัญญาทองคำร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1,350 ดอลลาร์/ออนซ์ ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ สัญญาณทางเทคนิค ราคาทองคำมีการเด้งกลับขึ้นไปได้เล็กน้อย เป็นการทดสอบแนวต้านแรกของวัน หากราคายังไม่สามารถผ่านแนวต้าน ไปได้ อาจจะมีการพักตัวลงมาอีกรอบ หากมีการปรับตัวลงมาอีกครั้งแนะเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ๆ โดยมีมุมมองในระยะนี้เป็นเพียงการปรับฐานระยะสั้น ๆ เท่านั้น แนะแนวทางการลงทุน หากราคามีการปรับตัวลงมาอีกครั้ง แนะเข้าซื้อที่แนวรับ เพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ๆ ในระหว่างการปรับฐาน สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดตลาดไม่เปลี่ยนแปลงที่ 31.06 (รอยเตอร์ = 31.01) เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่มาขับเคลื่อนตลาด ในขณะเดียวกันนักลงทุนรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม รายงานตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือนกันยายน ซึ่งแสดงให้เห็นการหดตัว 2.90% YoY ถือเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 สศอ. ยังคาดว่า กิจกรรมการผลิตในปี 2013 จะหดตัว เมื่อเทียบกับ 2012 สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ซื้อขายอยู่กรอบ เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ยกเว้นเงินริงกิตของมาเลเซียที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น สูงสุดในรอบ 4 เดือน เงินริงกิตเพิ่มขึ้นกว่า 1% ขณะที่นักลงทุนมีปฏิกิริยาตอบสนองในทางบวกกับมาตรการ ของรัฐบาลมาเลเซีย ในการจัดการกับการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาล (ซึ่งรวมเอามาตรการการปรับขึ้นภาษีการบริโภคให้มาอยู่ที่ระดับ 6% (โดยมีผลเดือนเมษายน 2015) การยกเลิกเงินอุดหนุนสินค่าน้ำตาล และเพิ่ม ภาษีอสังหาริมทรัพย์) ทั้งนี้ เงินริงกิตปรับย่อลงเล็กน้อยก่อนปิดตลาดทำให้ทั้งแข็งค่าขึ้นเพียง 0.67% ขณะที่เงินดอลลาร์ ไต้หวันเพิ่มขึ้นตามกระแสเงินทุนไหลเข้าของเงินต่างประเทศมาในตลาดหุ้นทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น 0.13% เงินสกุลอื่น ๆ ซื้อขายในกรอบแคบขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะเริ่มต้นคืนนี้ ( 29 – 30 ตุลาคม) เงินดอลลาร์ ออสเตรเลียอ่อนค่าลง 0.31 % เทียบกับดอลลาร์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญ 16 สกุล หลังจากที่ผู้ว่าการธนาคารกลางชี้ให้เห็นว่าระดับค่าเงินในปัจจุบัน ไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
×
×
  • Create New...