Gcap GuRu

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 30/10/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,333 1,322 1,317 แนวต้าน (Resistance) 1,346 1,353 1,360 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) ขณะที่ตลาดจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะเดินหน้าใช้มาตรการ QE หรือไม่ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและราคาบ้าน ตลาดทองคำนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ลดลง 0.1% จากเดือนก่อนหน้า ด้านกระทรวงแรงงานรายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง 0.1% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. นอกจากนี้ สหรัฐยังเปิดเผยดัชนีราคาบ้าน S&P/Case-Shiller เดือนส.ค. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนส.ค ขณะที่คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน โดยร่วงลงอย่างหนักสู่ระดับ 71.2 ในเดือนต.ค. จากระดับ 80.2 ในเดือนก.ย. ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ดัชนีเดือนต.ค.จะลดลงแตะ 75.0 แนะแนวทางการลงทุน ทยอยเข้าซื้อเพียงบางส่วน ทากาไรจังหวะปรับตัวเด้งรีบาวน์ หรือราคาอ่อนตัวลงมาแนวรับแนะเข้าซื้อเพิ่มเติม สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดตลาดไม่เปลี่ยนแปลงที่ 31.06 (รอยเตอร์= 31.01) เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่มาขับเคลื่อนตลาด ในขณะเดียวกันนักลงทุนรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทั้งนี้ สานักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม รายงานตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือนกันยายน ซึ่งแสดงให้เห็นการหดตัว 2.90%YoY ถือเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 สศอ. ยังคาดว่า กิจกรรมการผลิตในปี 2013 จะหดตัว เมื่อเทียบกับ 2012 สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ซื้อขายอยู่กรอบ เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ยกเว้นเงินริงกิตของมาเลเซียที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น สูงสุดในรอบ 4 เดือน เงินริงกิตเพิ่มขึ้นกว่า 1% ขณะที่นักลงทุนมีปฏิกิริยาตอบสนองในทางบวกกับมาตรการ ของรัฐบาลมาเลเซีย ในการจัดการกับการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาล (ซึ่งรวมเอามาตรการการปรับขึ้นภาษีการบริโภคให้มาอยู่ที่ระดับ 6% (โดยมีผลเดือนเมษายน 2015) การยกเลิกเงินอุดหนุนสินค่าน้าตาล และเพิ่ม ภาษีอสังหาริมทรัพย์) ทั้งนี้ เงินริงกิตปรับย่อลงเล็กน้อยก่อนปิดตลาด ทำให้ทั้งแข็งค่าขึ้นเพียง 0.67% ขณะที่เงินดอลลาร์ไต้หวันเพิ่มขึ้นตามกระแสเงินทุนไหลเข้าของเงินต่างประเทศ มาในตลาดหุ้น ทาให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น 0.13% เงินสกุลอื่น ๆ ซี้อขายในกรอบแคบขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะเริ่มต้นคืนนี้ (29-30 ตุลาคม) เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง 0.31 % เทียบกับดอลลาร์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญ 16 สกุล หลังจากที่ผู้ว่าการธนาคารกลางชี้ให้เห็นว่าระดับค่าเงินในปัจจุบัน ไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ http://www.youtube.com/watch?v=RMTvOXVOHH8

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 29/10/2556 แนวรับ (Support) 1,343 1,333 1,326 แนวต้าน (Resistance) 1,362 1,368 1,375 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่าเฟดจะประกาศเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงผลผลิตภาคโรงงานของสหรัฐที่ขยายตัวต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนปรับฐานการลงทุน หลังจากสัญญาทองคำปิดพุ่งขึ้นติดต่อ กันในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวลง 30 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,352.2 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาณทางเทคนิค แนวโน้มระยะสั้นและแนวโน้มระยะกลางได้ปรับตัวเป็นขาขึ้น แต่เนื่องจากว่าราคาได้ปรับตัวสูงมากแล้วและต่อเนื่องมาหลายวันแล้ว อาจจะมีการย่อเพื่อพักฐานเป็นการสร้างแนวรับใหม่ โดยให้พิจารณาเข้าซื้อที่บริเวณแนวรับของวัน แนะแนวทางการลงทุน เช้านี้ ราคาอาจจะ Sideway Down เทรนด์ขาขึ้นยังแข็งแกร่ง หากราคาอ่อนตัวลงมาที่แนวรับอาจจะพิจารณาเข้าซื้อที่แนวรับ และต้องคอยติดตามผลการพิจารณามาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจ สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่าเฟดจะประกาศเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) USD/THB ปิดที่ 31.14 เงินบาทยังคงทรงตัวอยู่ในกรอบช่วงสัปดาห์นี้ และอยู่ในแนวโน้มที่น่าจะได้แรงหนุนจาก ความเชื่อมั่นในเชิงบวกของตลาดสำหรับสกุลเงินเอเชีย แต่อย่างไรก็ตาม เงินบาทยังถูกกดดันจากความกังวลด้านการเมืองในประเทศ สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ปรับแข็งค่าขึ้นตามมุมมองของตลาดว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคมีการฟื้นตัวขึ้น และการเพิ่มขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นวานนี้ช่วยหนุนมุมมองที่เป็นบวกของค่าเงินด้วย ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเห็นเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศ ส่วนดัชนีหุ้นของมาเลเซียปรับตัวขึ้นตามความหวังว่ารัฐบาลจะประสบความสาเร็จในการลดการขาดดุลการคลังได้ และเศรษฐกิจจะอยู่ในทิศทางที่สมดุลมากขึ้น อย่างไรก็ดี ADB เตือนประเทศอาเซียนวานนี้ว่าการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2015 อาจจะต้องถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากหลายประเทศยังคงต้องสะสางหลายปัยหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจและยังเผชิญความไม่แน่นอนของตลาดการเงินโลกด้วย http://www.youtube.com/watch?v=iojyFH1X11c

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 28/10/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,343 1,336 1,323 แนวต้าน (Resistance) 1,358 1,362 1,368 ดอลลาร์ปรับตัวลดลงหลังจากที่ขยับขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ โดยดัชนีดอลลาร์ของ IEC ซื้อขายที่ระดับ 79.19 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการซื้อขายระหว่างวัน สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) ทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันนานเกือบ 3 สัปดาห์ สาหรับภาพรวมการซื้อขายตลอดทั้งสัปดาห์ ราคาทองคำปรับตัวขึ้น 2.9% ในสัปดาห์นี้ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.7% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐจากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเดือนต.ค. ร่วงลงแตะระดับ 73.2 จากระดับ 77.5 ในเดือนก.ย. และยังต่ำกว่าระดับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ สัญญาณทางเทคนิค ในเช้าวันนี้ ราคายังคงมีแรงซื้อ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ลักษณะเป็นการย่อเพื่อขึ้นต่อดังนั้น หากราคาย่อตัวลงมาที่แนวรับอาจจะพิจารณาเข้าซื้อ แนะแนวทางการลงทุน หากราคาอ่อนตัวลงมาที่แนวรับอาจจะพิจารณาเข้าซื้อ เทรนด์ระยะสั้นและระยะกลางยังมองขึ้น สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 30.90-31.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องจับตาผลการประชุมนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ วันที่ 29-30 ต.ค. รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ นอกจากนี้ ตลาดการเงินในประเทศอาจจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจเดือนก.ย. และอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. ของไทยด้วยเช่นกัน สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ปรับแข็งค่าขึ้นตามมุมมองของตลาดว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคมีการฟื้นตัว ขึ้น และการเพิ่มขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นวานนี้ช่วยหนุนมุมมองที่เป็นบวกของค่าเงิน ด้วย ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเห็นเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศ ส่วนดัชนีหุ้นของมาเลเซียปรับตัวขึ้นตามความหวังว่ารัฐบาลจะประสบความสำเร็จ ในการลดการขาดดุลการคลังได้ และเศรษฐกิจจะอยู่ในทิศทางที่สมดุลมากขึ้น อย่างไรก็ดี ADB เตือนประเทศอาเซียนวานนี้ว่าการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2015 อาจจะต้องถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากหลายประเทศยังคงต้องสะสางหลายปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจและยัง เผชิญความไม่แน่นอนของตลาดการเงินโลกด้วย http://www.youtube.com/watch?v=I2g_RHM7Bm8

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold 25/10/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,324 1,317 1,313 แนวต้าน (Resistance) 1,349 1,356 1,362 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงทรงตัว ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเลื่อนเวลาการปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากตัวเลขจ้างงานเดือนก.ย.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นกว่า 26 ดอลลาร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าใช้มาตรการ QE ต่อไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากสัญญาพุ่งขึ้น 26.8 ดอลลาร์ หรือ 2.04% เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะคงเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 148,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง แนะแนวทางการลงทุน เริ่มมีสัญญาณ Bearish ราคาอาจจะมีการปรับตัวลดลง ควรชะลอการเข้าซื้อให้ทยอยขาย สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดสูงขึ้น 0.2% ไปที่ 31.11 เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ตามแนวโน้มของสกุลเงินเอเชียวานนี้ ซึ่งอ่อนค่าลงตามแรงขายทำกำไร นักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ซื้อสุทธิในตลาดหุ้นวานนี้ THB1.06bn แต่มูลค่าซื้อสุทธิที่ระดับ 1.06 พันล้านบาทไม่ได้สร้างผลกระทบใดๆต่อ USDTHB ในระยะใกล้ เงินบาทอาจจะแข็งค่าขึ้นได้จากัดเนื่องจากปัญหาน้าท่วมและความตึงเครียดทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น เช่น การพิจารณา พรบ. นิรโทษกรรมในวาระสองที่เริ่มใกล้เข้ามา ฯลฯ เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.16/18 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับตอนปิดตลาดเมื่อเย็นวันอังคารซึ่งอยู่ที่ระดับ 31.13/14 บาท/ดอลลาร์ "เปิดมา 31.16/18 แล้วก็มีทยอยขายกันลงมา ทำ Low ที่ 31.13 ตอนนี้กลับมาอยู่แถวๆ 31.15/17 ประเด็นหลักๆ คือเช้านี้ขยับตามตัวอื่นๆ ตอนแรกทำท่าจะเด้งขึ้นมา แต่ปรากฎว่ามีตัวเลขของจีนที่ออกมาดี บ้านเราก็ได้อานิสงค์นี้ด้วย เอเชียก็เลยแข็งค่ากันหมด เบื้องต้นตลาดยังไม่ไปไหน อาจเป็นเพราะเมื่อคืนวันอังคาร วันพุธ ลงไปต่ำกว่า 31 มาแล้วจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ซึ่งทาให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงไปเมื่อเทียบกับทุกสกุล" สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ปรับอ่อนค่าลงเทียบดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนขายสกุลเงินเอเชียเพื่อทำกำไรระยะสั้น ผู้เล่นในตลาดลดการเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงก่อนการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ เพื่อพิจารณาถึงแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดอีกที เราคาดว่า การเคลื่อนไหวของสกุลเงินเอเชียมีแนวโน้มที่จะเผชิญความผันผวนต่อไปถึงปลายปี เนื่องจากว่าบางส่วนของตลาดคาดว่าอาจจะมีการปรับ QE ในเดือนธันวาคม ขณะที่บางส่วนเดิมพันว่าการปรับ QE จะเกิดขึ้นในช่วงปลายไตรมาสที่ 1 ปี 2014 http://www.youtube.com/watch?v=JNeTwdtN5ac

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ By Gcap Gold 24/10/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,324 1,317 1,313 แนวต้าน (Resistance) 1,349 1,356 1,362 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก เมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเลื่อนเวลาการปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากตัวเลขจ้างงานเดือนก.ย.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ของนัก วิเคราะห์ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นกว่า 26 ดอลลาร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าใช้มาตรการ QE ต่อไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากสัญญาพุ่งขึ้น 26.8 ดอลลาร์ หรือ 2.04% เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะคงเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรเพื่อ กระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 148,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง แนะแนวทางการลงทุน ให้ระวังแรงเทขายที่บริเวณแนวต้าน อาจจะชะลอการเข้าซื้อในระยะนี้ สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดสูงขึ้น 0.2% ไปที่ 31.11 เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ตามแนวโน้มของสกุลเงินเอเชียวานนี้ ซึ่งอ่อนค่าลงตามแรงขายทำกำไร นักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ซื้อสุทธิในตลาดหุ้นวานนี้ THB1.06bn แต่มูลค่าซื้อสุทธิที่ระดับ 1.06 พันล้านบาทไม่ได้สร้างผลกระทบใดๆต่อ USDTHB ในระยะใกล้ เงินบาทอาจจะแข็งค่าขึ้นได้จำกัดเนื่องจากปัญหาน้ำท่วมและความตึงเครียดทาง การเมืองที่เพิ่มขึ้น เช่น การพิจารณา พรบ. นิรโทษกรรมในวาระสองที่เริ่มใกล้เข้ามา ฯลฯ สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ปรับอ่อนค่าลงเทียบดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนขายสกุลเงินเอเชียเพื่อทำกำไรระยะสั้น ผู้เล่นในตลาดลดการเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงก่อนการประกาศตัวเลขการจ้างงาน นอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ เพื่อพิจารณาถึงแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดอีกที เราคาดว่า การเคลื่อนไหวของสกุลเงินเอเชียมีแนวโน้มที่จะเผชิญความผันผวนต่อไปถึงปลาย ปี เนื่องจากว่าบางส่วนของตลาดคาดว่าอาจจะมีการปรับ QE ในเดือนธันวาคม ขณะที่บางส่วนเดิมพันว่าการปรับ QE จะเกิดขึ้นในช่วงปลายไตรมาสที่ 1 ปี 2014 http://www.youtube.com/watch?v=iIQGdLKXFwg

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 22/10/2556 แนวโน้มช่วงบ่าย แนวรับ (Support) 1,307 1,300 1,293 แนวต้าน (Resistance) 1,330 1,348 1,356 ดอลลาร์ทรงตัวอยู่ในกรอบแคบๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราเช้าวันนี้โดยนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายขณะจับตาดูการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐประจาเดือนก.ย. ในวันนี้ขณะที่กำลงทุนจับตาดูทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ย.ในคืนนี้ ตามเวลาไทยซึ่งนักวิเิคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.จะเพิ่มขึ้น185,000 ราย หลังจากที่เพิ่มขึ้น169,000 รายในเดือนส.ค.ส่วนอัตราว่างงานคาดว่าจะทรงตัวอยู่ที่7.3% นอกจากนี้ราคาทองยังลดลงหลังจากที่นายชาร์ลส์อีแวนส์ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) สาขาชิคาโกกล่าวว่าเฟดอาจเริ่มลดขนาดโครงการซื้อสินนทรัพย์ในเดือนธ.ค.นี้แต่ต้องพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆก่อน สัญญาณทางเทคนิคราคาทองคำยังคงมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ยังมีแรงรับที่ค่อนข้างดีจากความคาดหวังที่ว่าFEDอาจจะขยายระยะเวลา มาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจออกไปอีกสักระยะหนึ่งหลังจากประสพปัญหาเพดาหนี้มาชั่วระยะเวลาหนึ่ง สะท้อนให้เห็นว่ามาตราการการกระต้นุเศรษฐกิจนั้นยังคงต้องมีความจำเป็นต้องใช้อยู่ แนะแนวทางการลงทุน พิจารณาเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว และให้จับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรภายในคืนนี้ สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา เงินบาทเปิดตลาดเช้ านี้อยู่ที่ระดับ 31.16/18 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.09/11 บาท/ดอลลาร์ทิศทางของค่าเงินบาทวันนี้อาจจะปรับอ่อนค่าลงได้อีกเล็กน้อย นักลงทุนรอการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในคืนนี้ โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ซึ่งได้มีการเลื่อนประกาศออกมาจากช่วงก่อนหน้านี้ที่หน่วยงานสหรัฐฯ หยุดทำการชั่วคราวจากผลกระทบปัญหาการพิจารณางบประมาณ "ทิศทางบาทวันนี้คงขยับอ่อนค่าได้นิดหน่อย รอตัวเลข Non farm Payroll คืนนี้ จากที่เงินบาทเมื่อ 1-2 อาทิตย์ที่ผ่านมาเริ่มแข็งค่าแต่ตั้งแต่เมื่อวาน จนถึงวันนี้ก็เริ่มอ่อนลงมา แต่ยังไม่ไปไหนไกล คงเป็นการย่อตัวลงมาเพื่อรอดูตัวเลข Non farm ว่าจะออกมาดีหรือไม่ จากที่ตลาดคาดการณ์ สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ปรับอ่อนค่าลงเทียบดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนขายสกุลเงินเอเชียเพื่อทำกำไรระยะสั้น ผู้เล่นในตลาดลดการเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงก่อนการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ เพื่อพิจารณาถึงแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดอีกที เราคาดว่าการเคลื่อนไหวของสกุลเงินเอเชียมีแนวโน้มที่จะเผชิญความผันผวนต่อไปถึงปลายปี เนื่องจากว่าบางส่วนของตลาดคาดว่าอาจจะมีการปรับ QE ในเดือนธันวาคม ขณะที่บางส่วนเดิมพันว่าการปรับ QE จะเกิดขึ้นในช่วงปลายไตรมาสที่ 1 ปี 2014

แนวโน้มช่วงเช้า 22/10/2556 By Gcap Gold แนวต้าน ( Resistance) 1,307 1,300 1,293 แนวรับ (Support) 1,333 1,348 1,256 สกุลเงินดอลลาร์ สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ กเมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐยังคงได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเลื่อนเวลาการปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมา ณ (QE) ค่าเงินดอลลาร์ สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อวันศุกร์(18 ต.ค.) ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตัดสินใจชะลอการลดวงเงินซื้อพันธบัตรออกไปก่อน หลังจากที่การปิดหน่วยงานรัฐบาลได้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ และอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัว สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) ทำสถิติปิดบวกเป็นเวลา 3 วันในช่วง 4 วันทำาการ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการรายงานผล ประกอบการของบริษัทสหรัฐ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจจำเดือนก.ย. ของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ความเสียหายทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลเป็นเวลา 16 วัน อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐตัดสินใจใช้ นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปนานกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก กลยุทธ์ช่วงเช้า กราฟเริ่มทำกรอบสามเหลี่ยมอีกครั้ง หากหลุดกรอบล่างให้รอซื้อที่แนวรับ กรอบราคา $ 1260Us/Oz - $ 1250 Us/Oz สรุปสภาวะตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา SD/THB ปรับลดลงเล็กน้อย ปิ ดตลาดที่ระดับ 31.25 (รอยเตอร์ = 31.23) เงินบาทมีการซื้อขายอยู่ในช่วงแคบระหว่าง 31.05-31.34 เมื่อวานนี้ เนื่องจากตลาดรอคอยที่จะเห็นความคืบหน้าของสหรัฐฯ มติของคณะกรรมการนโยบายการเงินไม่ได้มีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาท เนื่องจากเป็นไปตามความคาดหมายการคาดการณ์เรื่องข้อตกลงในนาทีสุดท้าย จากสหรัฐฯในวันนี้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงในวันนี้ สกุลเงินเอเชียปิดแบบผสมผสาน ขณะที่ตลาดรอคอยความคืบหน้าจากสหรัฐฯ เรื่องการจัดการปัญหาหนี้ การเคลื่อนไหวของสกุลเงินในเอเชียเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังไม่ต้องการที่จะ เพิ่มสถานะการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ ค่าเงินริงกิตแข็งค่าขึ้นในช่วงแรกของการซื้อขาย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับขึ้นของตลาดหุ้นมาเลเซีย ซึ่งปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 3สัปดาห์ แต่ช่วงหลังเงินริงกิตปรับตัวลดลงและปิดตลาดอ่อนค่า 0.52% ในขณะที่เงินรูเปียห์แข็งค่าขึ้น 0.40% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ตามความต้องการซื้อจากธนาคารต่างประเทศ ค่าเงินวอนปรับแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไปอยู่ในระดับที่สูงสุดรอบ 9 เดือน ตามความต้องการจากนักลงทุนต่างชาติ และความต้องการของผู้ส่งออกเกาหลีใต้

แนวโน้มช่วงเช้า 21/10/2556 By Gcap Gold แนวต้าน ( Resistance) 1,330 1,344 1,349 แนวรับ (Support) 1,300 1,293 1,285 เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.06/07บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ ที่ระดับ 31.04/06บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค"ปรับตัวอ่อนค่าตามแรงรีบาวน์กลับหลังจากบาทแข็งค่าในช่ งปลายสัปดาห์ก่อนค่อนข้างเยอะ"ปัจจัยที่ส่งผลต้องรอดูตัวเลขเศรษฐกิจของจีนและสหรัฐที่จะทยอยประกาศออกมาหลังกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง และทิศทางการไหลเข้า-ออกของเงินทุนจากต่างประเทศกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ในกรอบระหว่าง 31.05-31.20บาท/ดอลลาร์"ทิศทางยังไม่ชัดเจน วันนี้คงไปไหนไม่ไกล แต่มีแรงซื้อ(ดอลลาร์)มากกว่า" แรงขายอย่างต่อเนื่องสภาวะราคาทองคำในช่วงบ่าย ราคาทำSide way up แรก อาจจะ ลักษณะของการเด้งรีบาวน์ โดยมีความพยามยามที่ขึ้นทดสอบแนวต้าน แต่ยังคงมีแรงขายอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับราคาไม่น่าจะปรับตัวได้สูงขึ้นเท่าที่ควร โดยมีมุมมองว่า หากราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน จะมีแรงเทขายออกมาเช่นกัน กลยุทธ์ช่วงบ่าย ให้ระวังแรงเทขาย เมื่อราคาทดสอบแนวต้าน ให้ปิดสถานะที่มีกำไรบริเวณแนวต้าน สรุปสภาวะตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปรับลดลงเล็กน้อย ปิดตลาดที่ระดับ 31.25 (รอยเตอร์ = 31.23) เงินบาทมีการซื้อขายอยู่ในช่ วงแคบระหว่าง 31.05-31.34 เมื่อวานนี้ เนื่องจากตลาดรอคอยที่จะเห็นความคืบหน้าของสหรัฐฯ มติของ คณะกรรมการนโยบายการเงินไม่ได้มีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาท เนื่องจากเป็นไปตามความคาดหมาย การคาดการณ์เรื่องข้อตกลงในนาทีสุดท้าย จากสหรัฐฯ ในวันนี้ มีแนวโน้มที่จะ เพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงในวันนี้สกุลเงินเอเชีย ปิดแบบผสมผสาน ขณะที่ตลาดรอคอยความคืบหน้าจากสหรัฐฯ เรื่องการจัดการปัญหาหนี้ การเคลื่อนไหวของสกุลเงินในเอเชียเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังไม่ต้องการที่จะ เพิ่มสถานะการลงทุนใน ตลาดเกิดใหม่ ค่าเงินริงกิตแข็งค่าขึ้นในช่วงแรกของการซื้อขาย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับขึ้นของตลาดหุ้นมาเลเซีย ซึ่งปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 3สัปดาห์ แต่ช่วงหลังเงินริงกิตปรับตัวลดลงและปิดตลาดอ่อนค่า 0.52% ในขณะที่เงินรูเปียห์แข็งค่าขึ้น 0.40% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ตามความต้องการซื้อจากธนาคารต่างประเทศ ค่าเงินวอนปรับแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไปอยู่ในระดับที่สูงสุดรอบ 9เดือน ตามความต้องการจากนักลงทุนต่างชาติ และความต้องการของผู้ส่งออก เกาหลีใต้

แนวโน้มช่วงเช้า 21/10/2556 By Gcap Gold แนวต้าน ( Resistance) 1,330 1,344 1,349 แนวรับ (Support) 1,306 1,299 1,293 ค่าเงินดอลลาร์ ปรับตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนหันไปจับตาการตัดสินใจเรื่องการลดวงเงินซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)และความเสียหายทางเศรษฐกิจ หลังจากที่สภาคองเกรสผ่านข้อตกลงงบประมาณเพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางกลับมาท าการได้อีกครั้ง และเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ขณะที่ทางการสหรัฐเตรียมเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญหลายตัว หลังสภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายทางการคลังเพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลและเพิ่มเพดานหนี้ โดยก่อนหน้านี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆได้ถูกเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิม อันเนื่องมาจากปัญหาชัตดาวน์ค่าเงินดอลลาร์ สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อวันศุกร์ (18 ต.ค.) ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะตัดสินใจชะลอการลดวงเงินซื้อพันธบัตรออกไปก่อน หลังจากที่การปิดหน่วยงานรัฐบาลได้สร้างความเสียหายทาเศรษฐกิจ และอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (18 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนระยะสั้นเริ่มขายทำกำไร ประกอบกับเป็นการปรับฐานลงทางเทคนิค หลังจากที่ราคาทองพุ่งแรงถึง 3.17เปอร์เซนเมื่อวันพฤหัสบดี กลยุทธ์ช่วงเช้า ราคาอาจจะมีการย่อลงมาเพื่อปรับฐานย่อยลักษณะ Sideway Down อาจจะเข้าซื้อที่บริเวณแนวรับ สรุปสภาวะตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปรับลดลงเล็กน้อย ปิดตลาดที่ระดับ 31.25 (รอยเตอร์= 31.23) เงินบาทมีการซื้อขายอยู่ในช่วงแคบระหว่าง 31.05-31.34 เมื่อวานนี้ เนื่องจากตลาดรอคอยที่จะเห็นความคืบหน้าของสหรัฐฯ มติของ คณะกรรมการนโยบายการเงินไม่ได้มีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาท เนื่องจากเป็นไปตามความคาดหมาย การคาดการณ์เรื่องข้อตกลงในนาทีสุดท้าย จากสหรัฐฯ ในวันนี้ มีแนวโน้มที่จะ เพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงในวันนี้สกุลเงินเอเชีย ปิดแบบผสมผสาน ขณะที่ตลาดรอคอยความคืบหน้าจากสหรัฐฯ เรื่องการจัดการปัญหาหนี้ การเคลื่อนไหวของสกุลเงินในเอเชียเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังไม่ต้องการที่จะ เพิ่มสถานะการลงทุนใน ตลาดเกิดใหม่ ค่าเงินริงกิตแข็งค่าขึ้นในช่วงแรกของการซื้อขาย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับขึ้นของตลาดหุ้นมาเลเซีย ซึ่งปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 3สัปดาห์ แต่ช่วงหลังเงินริงกิตปรับตัวลดลงและปิดตลาดอ่อนค่า 0.52% ในขณะที่เงินรูเปียห์แข็งค่าขึ้น 0.40% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ตามความต้องการซื้อจากธนาคารต่างประเทศ ค่าเงินวอนปรับแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไปอยู่ในระดับที่สูงสุดรอบ 9เดือน ตามความต้องการจากนักลงทุนต่างชาติ และความต้องการของผู้ส่งออก เกาหลีใต้

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 18/10/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,306 1,299 1,293 แนวต้าน (Resistance) 1,330 1,344 1,349 ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลงเมี่อเทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนหันไปจับตาการตัดสินใจเรื่องการลดวงเงินซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และความเสียหายทางเศรษฐกิจ หลังจากที่สภาคองเกรสผ่านข้อตกลงงบประมาณ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางกลับมาทำการได้อีกครั้ง และเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ขณะที่ทางการสหรัฐเตรียมเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญหลายตัว หลังสภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายทางการคลังเพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลและเพิ่มเพดานหนี้ โดยก่อนหน้านี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆได้ถูกเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิม อันเนื่องมาจากปัญหาชัตดาวน์ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) หลังสภาคองเกรสสหรัฐผ่านร่างกฎหมายการคลังชั่วคราว เพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลและเพิ่มเพดานหนี้ แนะแนวทางการลงทุน เทรนด์ระยะสั้นเริ่มเปลี่ยนเป็นขาขึ้นอีกครั้ง ในระหว่างวันอาจจะมีการย่อลงมาพักตัว แต่เป็นการย่อเพื่อขึ้นต่อ ให้หาจังหวะซื้อที่แนวรับทำกำไรบริเวณแนวต้าน สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปรับลดลงเล็กน้อย ปิดตลาดที่ระดับ 31.25 (รอยเตอร์ = 31.23) เงินบาทมีการซื้อขายอยู่ในช่วงแคบระหว่าง 31.05 - 31.34 เมื่อวานนี้ เนื่องจากตลาดรอคอยที่จะเห็นความคืบหน้าของสหรัฐฯ มติของ คณะกรรมการนโยบายการเงินไม่ได้มีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาท เนื่องจากเป็นไปตามความคาดหมาย การคาดการณ์เรื่องข้อตกลงในนาทีสุดท้าย จากสหรัฐฯ ในวันนี้ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงในวันนี้ สกุลเงินเอเชีย ปิดแบบผสมผสาน ขณะที่ตลาดรอคอยความคืบหน้าจากสหรัฐฯ เรื่องการจัดการปัญหาหนี้ การเคลื่อนไหวของสกุลเงินในเอเชียเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังไม่ต้องการที่จะเพิ่มสถานะการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ ค่าเงินริงกิตแข็งค่าขึ้นในช่วงแรกของการซื้อขาย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับขึ้นของตลาดหุ้นมาเลเซีย ซึ่งปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ แต่ช่วงหลังเงินริงกิตปรับตัวลดลงและปิดตลาดอ่อนค่า 0.52% ในขณะที่เงินรูเปียห์แข็งค่าขึ้น 0.40% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ตามความต้องการซื้อจากธนาคารต่างประเทศ ค่าเงินวอนปรับแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไปอยู่ในระดับที่สูงสุดรอบ 9 เดือน ตามความต้องการจากนักลงทุนต่างชาติ และความต้องการของผู้ส่งออกเกาหลีใต้ http://www.youtube.com/watch?v=WnTwxxKHcLA

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 18/10/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,306 1,299 1,293 แนวต้าน (Resistance) 1,330 1,344 1,349 ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลงเมี่อเทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนหันไปจับตาการตัดสินใจเรื่องการลดวงเงินซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และความเสียหายทางเศรษฐกิจ หลังจากที่สภาคองเกรสผ่านข้อตกลงงบประมาณ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางกลับมาทำการได้อีกครั้ง และเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ขณะที่ทางการสหรัฐเตรียมเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญหลายตัว หลังสภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายทางการคลังเพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลและเพิ่มเพดานหนี้ โดยก่อนหน้านี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆได้ถูกเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิม อันเนื่องมาจากปัญหาชัตดาวน์ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) หลังสภาคองเกรสสหรัฐผ่านร่างกฎหมายการคลังชั่วคราว เพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลและเพิ่มเพดานหนี้ แนะแนวทางการลงทุน เทรนด์ระยะสั้นเริ่มเปลี่ยนเป็นขาขึ้นอีกครั้ง ในระหว่างวันอาจจะมีการย่อลงมาพักตัว แต่เป็นการย่อเพื่อขึ้นต่อ ให้หาจังหวะซื้อที่แนวรับทำกำไรบริเวณแนวต้าน สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปรับลดลงเล็กน้อย ปิดตลาดที่ระดับ 31.25 (รอยเตอร์ = 31.23) เงินบาทมีการซื้อขายอยู่ในช่วงแคบระหว่าง 31.05 - 31.34 เมื่อวานนี้ เนื่องจากตลาดรอคอยที่จะเห็นความคืบหน้าของสหรัฐฯ มติของ คณะกรรมการนโยบายการเงินไม่ได้มีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาท เนื่องจากเป็นไปตามความคาดหมาย การคาดการณ์เรื่องข้อตกลงในนาทีสุดท้าย จากสหรัฐฯ ในวันนี้ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงในวันนี้ สกุลเงินเอเชีย ปิดแบบผสมผสาน ขณะที่ตลาดรอคอยความคืบหน้าจากสหรัฐฯ เรื่องการจัดการปัญหาหนี้ การเคลื่อนไหวของสกุลเงินในเอเชียเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังไม่ต้องการที่จะเพิ่มสถานะการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ ค่าเงินริงกิตแข็งค่าขึ้นในช่วงแรกของการซื้อขาย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับขึ้นของตลาดหุ้นมาเลเซีย ซึ่งปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ แต่ช่วงหลังเงินริงกิตปรับตัวลดลงและปิดตลาดอ่อนค่า 0.52% ในขณะที่เงินรูเปียห์แข็งค่าขึ้น 0.40% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ตามความต้องการซื้อจากธนาคารต่างประเทศ ค่าเงินวอนปรับแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไปอยู่ในระดับที่สูงสุดรอบ 9 เดือน ตามความต้องการจากนักลงทุนต่างชาติ และความต้องการของผู้ส่งออกเกาหลีใต้ http://www.youtube.com/watch?v=WnTwxxKHcLA

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 17/10/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,266 1,260 1,247 แนวต้าน (Resistance) 1,289 1,294 1,308 ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ เมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) หลังจากที่ผู้นำในวุฒิสภาของสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางกลับมาเปิดทำการได้อีกครั้ง และเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำาระหนี้ที่อาจสร้างความเสียหายร้ายแรง ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเกือบทุกสกุลเงินหลัก โดยซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดในรอบสองเดือนเมื่อเทียบกับเงินเยน และแข็งค่าสุดในรอบหนึ่งเดือนเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ หลังจากที่นายแฮร์รี รีด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต และนายนายมิทช์ แมคคอนแนล ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกัน ได้บรรลุข้อตกลงเพื่อขยายเพดานการกู้ยืมของประเทศออกไปจนถึงปีหน้า และนำไปสู่การยุติภาวะชัตดาวน์ที่ดำเนินมาเป็นวันที่ 16 สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) หลังจากวุฒิสภาสหรัฐบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติการชัตดาวน์ของรัฐบาลกลางและในการเพิ่มเพดานหนี้ของประเทศ ตลาดทองมองว่าหากวุฒิสภาเพียงแค่เพิ่มเพดานหนี้ไปจนถึงเดือนก.พ. และจัดสรรงบประมาณแก่รัฐบาลไปจนถึงแค่กลางเดือนม.ค. ก็จะยังมีความไม่แน่นอนในอนาคตอันใกล้ แม้ว่ามีการบรรลุข้อตกลงดังกล่าว และภายใต้ภาวการณ์เช่นนั้นธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยังคงเดินหน้ามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไปอีก 2-3 เดือนเป็นอย่างน้อยที่สุด ซึ่งนั่นจะเป็นปัจจัยบวกสำหรับตลาดทองคำ แนะแนวทางการลงทุน เปิด Shot เมื่อราคาเข้าใกล้แนวต้านให้ ปิดทำกำไรระหว่างวันเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาที่แนวรับ สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดสูงขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 31.32 (รอยเตอร์= 31.32) เงินบาทเปิดตลาดอ่อนค่าและมีการซื้อขายในกรอบแคบ เนื่องจากตลาดยังรอดูความคืบหน้า ในการจัดการหนี้สหรัฐฯ อยู่ ขณะที่ยังไม่มี ปัจจัยใหม่ในประเทศมาขับเคลื่อนการซื้อขายบาท เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้นำในสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่ามีความมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ในเร็ว ๆ นี้ คาดว่าข่าวนี้น่าจะหนุนความเชื่อมั่นต่อการซื้อขายสินทรัพย์ในตลาดเกิดใหม่ได้บ้าง สกุลเงินเอเชีย ปิดแบบผสมผสาน เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยไม่มีทิศทางที่ชัดเจน จากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับปัญหาการคลังของสหรัฐฯ ยังคงบดบังการซื้อขายในตลาด อัตราเงินเฟ้อของอินเดียปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดว่าไปอยู่ในระดับสูงสุดรอบ 7 เดือน ตามราคาอาหารที่ปรับสูงขึ้น ซึ่งเงินเฟ้อที่สูงอาจเป็นการบีบบังคับมือของธนาคารกลางให้ต้องปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นอีกได้ ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้เงินรูปีอ่อนค่าลงอีกวานนี้ ในวันนี้ ตลาดในอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ปิดทำการ http://www.youtube.com/watch?v=BV3p_Kh0xFk

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold 16/10/2556 แนวรับ (Support) 1,266 1,260 1,247 แนวต้าน (Resistance) 1,293 1,307 1,325 สกุลเงินดอลล่าร์อ่อนค่าขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์คลังของสหรัฐที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ และการเปิดทำการหน่วยงานของรัฐบาลบางส่วนที่ถูกปิดทำการไปเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว การหารือของผู้นำในวุฒิสภาดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่การปิดหน่วยงานรัฐบาลบางส่วนของสหรัฐหรือชัตดาวน์ ได้ดำเนินมาเป็นวันที่ 13 แล้ว และเหลือเวลาอีกเพียง 4 วันก่อนที่สหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 17 ต.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่กระทรวงการคลังสหรัฐประเมินว่ารัฐบาลกลางสหรัฐจะมีเงินพอที่จะชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) จากการคาดการณ์ในตลาดที่ว่าสมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐจะบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติการชัตดาวน์ของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐและเพื่อเลี่ยงภาวะผิดนัดชำระหนี้ในเร็วๆนี้ สัญญาณทางเทคนิค ราคาทองคำมีความพยายามดีดขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้านอีกครั้ง หลังจากโดนแรงเทขายอย่างหนัก เมื่อคืนวานนี้ จากสัญญาณข่าวดีที่ว่าสมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐจะบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติการชัตดาวน์ของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐและเพื่อเลี่ยงภาวะผิดนัดชำระหนี้ในเร็วๆนี้ แม้สัญญาณระยะสั้นนั้นมีสัญญาณการกลับตัว แต่ยังขัดแย้งกับสัญญาณระยะกลางและระยะยาว ทำให้มีมุมมองว่าน่าจะเป็นเพียงการเด้งรีบาวน์ เท่านี้ แนะแนวทางการลงทุน ราคาอาจจะทดสอบที่แนวต้านแรกก่อนปรับตัวสร้างฐานแนวรับใหม่ อาจจะ หาจังหวะเปิด Shot ที่บริเวณแนวต้านทำกำไรรอบสั้น ๆ สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดสูงขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 31.32 (รอยเตอร์= 31.32) เงินบาทเปิดตลาดอ่อนค่าและมีการซื้อขายในกรอบแคบ เนื่องจากตลาดยังรอดูความคืบหน้าในการจัดการหนี้สหรัฐฯอยู่ ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่ในประเทศมาขับเคลื่อนการซื้อขายบาท เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้นำในสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่ามีความมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ในเร็ว ๆ นี้ คาดว่าข่าวนี้น่าจะหนุนความเชื่อมั่นต่อการซื้อขายสินทรัพย์ในตลาดเกิดใหม่ได้บ้าง สกุลเงินเอเชีย ปิดแบบผสมผสาน เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยไม่มีทิศทางที่ชัดเจน จากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับปัญหาการคลังของสหรัฐฯ ยังคงบดบังการซื้อขายในตลาด อัตราเงินเฟ้อของอินเดียปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดว่าไปอยู่ในระดับสูงสุดรอบ 7 เดือน ตามราคาอาหารที่ปรับสูงขึ้น ซึ่งเงินเฟ้อที่สูงอาจเป็นการบีบบังคับมือของธนาคารกลางให้ต้องปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นอีกได้ ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้เงินรูปีอ่อนค่าลงอีกวานนี้ ในวันนี้ ตลาดในอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ปิดทำการ http://www.youtube.com/watch?v=kB3uW9aoTdw

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 15/10/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,260 1,256 1,247 แนวต้าน (Resistance) 1,278 1,287 1,294 สกุลเงินดอลล่าร์อ่อนค่าขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการคลังของสหรัฐที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะ สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ และการเปิดทำการหน่วยงานของรัฐบาลบางส่วนที่ถูกปิดทำการไปเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว การหารือของผู้นำในวุฒิสภาดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่การปิดหน่วยงานรัฐบาลบาง ส่วนของสหรัฐ หรือ ชัตดาวน์ ได้ดำเนินมาเป็นวันที่ 13 แล้ว และเหลือเวลาอีกเพียง 4 วันก่อนที่สหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 17 ต.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่กระทรวงการคลังสหรัฐประเมินว่ารัฐบาลกลางสหรัฐจะมี เงินพอที่จะชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ สัญญาทองคำไต่ระดับขึ้นหลังจากร่วงลงกว่า 2% เมื่อวันศุกร์ จากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐ และแรงเทขายทางเทคนิคหลังจากที่ราคาทองร่วงหนักทะลุแนวรับสำคัญ ภาวะชะงักงันด้านงบประมาณของสหรัฐยังคงดำเนินต่อไป ขณะที่หน่วยงานรัฐบาลบางส่วนได้ปิดทำการมาร่วม 2 สัปดาห์แล้ว และใกล้ถึงกำหนดเส้นตายในการเพิ่มเพดานหนี้เพื่อ เลี่ยงภาวะผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 17 ต.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่กระทรวงการคลังสหรัฐประเมินว่ารัฐบาลกลางสหรัฐจะมี เงินพอที่จะชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ สัญญาณทางเทคนิค ราคาทองคำมีความพยายามดีดขึ้น เพื่อทดสอบแนวต้านอีกครั้ง หลังจากหลุดแนวรับสุดท้ายของเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทำให้การหลุดแนวรับดัง กล่าวมีสัญญาณ H&S ซึ่งการเกิดแพทเทิร์นดังกล่าวอาจจะทำให้เกิดแรงเทขายอย่างรุนแรงอีกครั้ง ดังนั้นอาจจะชะลอการเข้าซื้ออกไปก่อน แนะแนวทางการลงทุน หากราคาดีดตัวไม่ผ่าน $ 1,280 Us/Oz ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวลงต่อ สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดลดลง 0.35% มาอยู่ที่ระดับ 31.29 เงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เป็นไปในทิศทางเดียวกับสกุลเงินอื่น ๆ ในเอเชีย จากความเชื่อมั่นที่ปรับเพิ่มขึ้น หลังจากนักลงทุนมองว่าอาจมีข้อตกลงเรื่องหนี้ของสหรัฐฯ โดยตลาดหุ้นไทยเห็นแรงซื้อจากนักลงทุน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความต้องการของนักลงทุนจากต่างประเทศ ตลาดหลักทรัพย์รายงานการเข้ามาซื้อสุทธิจำนวน 1.9 พันล้านบาทเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ จากการที่ตลาดคาดการณ์ว่า ผู้นำในสหรัฐฯ จะสามารถบรรลุข้อตกลงในระยะสั้นได้ ในเรื่องงบประมาณและเพดานหนี้ในช่วงสุดสัปดาห์ เพิ่มความต้องการ สินทรัพย์เสี่ยงอย่างสกุลเงินเอเชีย สกุลเงินที่แข็งค่ามากที่สุด คือ รูเปียห์ ริงกิต และสิงคโปร์ดอลลาร์ http://www.youtube.com/watch?v=spo-9_wjCBI

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 14/10/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,256 1,250 1,233 แนวต้าน (Resistance) 1,277 1,282 1,286 สกุลเงินดอลล่าร์ ยังคงทรงตัว แม้ว่าสถานการสหรัฐฯ ยังไม่สามารถหาข้อยุติเรื่องเพดานหนี้ได้ ทำเนียบขาวเปิดเผยว่าประธานาธิบดี บารัค โอบามา ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนางแนนซี่ เพโลซี่ ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันอาทิตย์ ในประเด็นเกี่ยวกับการเพิ่มอำนาจการกู้ยืมของรัฐบาลโดยปราศจากเงื่อนไขอื่นผูกพัน การปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐหรือชัตดาวน์เป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปีนั้น ได้ล่วงเข้าสู่วันที่ 13 ในวันนี้ นอกจากนี้ นายเจค็อบ ลิว ได้แถลงต่อคองเกรสว่า หนี้ของรัฐบาลกลางจะชนเพดานที่ 16.7 ล้านล้านดอลลาร์ภายในวันที่ 17 ต.ค.นี้ และหากไม่สามารถเพิ่มเพดานหนี้ได้ ก็จะนาไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ที่สร้างความเสียหายใหญ่หลวง "สภาผู้แทนฯจำเป็นต้องผ่านการลงมติเพิ่มเพดานหนี้โดยไม่มีเงื่อนไข เพื่อเปิดทำการรัฐบาลและยุติการชัตดาวน์ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับครอบครัวชนชั้นกลางและธุรกิจทั่วประเทศ " บทสนทนาทางโทรศัพท์ระบุ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดอ่อนแรงลงต่ำกว่าระดั บ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันศุกร์ (11 ต.ค.) ขณะที่ความเป็นไปได้ในการผ่าทาง ตันด้านการคลังของสหรัฐยังคงถ่วงราคาทอง ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย แนะแนวทางการลงทุน ทิศทางยังคงเป็น Sideway Down อาจจะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาที่แนวรับ สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา ประเมินแนวโน้มค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (14-18 ต.ค.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 31.10-31.50 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยต้องจับตาข้อสรุปเรื่องเพดานหนี้และงบประมาณของสหรัฐฯ ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ (อาจประกาศตามกำหนดการปกติ หากหน่วยงานราชการกลับมาเปิดทำการ) ที่สำคัญประกอบด้วย ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนต.ค. ดัชนีราคาผู้บริโภค ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ การเริ่มสร้างบ้าน และการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิสู่ตลาดการเงินสหรัฐฯ สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในช่วงต้น ก่อนที่จะปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อตลาดคาดการณ์ว่าสภาคองเกรสของสหรัฐฯ จะปรับเพดานหนี้ขึ้นเป็นระยะเวลาสั้นๆในเร็วๆนี้ เพื่อเป็นการเปิดทางให้แก่การเริ่มต้นเจรจาด้านงบประมาณปี 2014 อีกครั้ง ในขณะที่ปฏิกิริยาแรกของตลาดคือการเข้าซื้อคืน เงินดอลลาร์ แต่ปฏิกิริยาต่อมาคือ สกุลเงินเอเชียได้รับแรงหนุนเนื่องจากภาวะการเลี่ยงความเสี่ยงในตลาดโลกได้บรรเทาลง วานนี้ เงินรูเปียห์ อินโดนีเซียปรับขึ้นไปประมาณ 0.6 % ที่ระดับ 11,148 ส่วนเงินวอน ดอลลาร์ไต้หวันและเงินริงกิตของมาเลเซีย แข็งค่าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน http://www.youtube.com/watch?v=g4un671HJbA

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 11/10/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,271 1,264 1,257 แนวต้าน (Resistance) 1,296 1,306 1,311 สกุลเงินดอลล่าร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย หลังจากการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐ และแกนนาพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐซึ่งจัดขึ้นที่ทำเนียบขาวได้ เสร็จสิ้นลงแล้วเมื่อคืนนี้ โดยยังไม่มีการตัดสินใจอย่างเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับการยุติการปิดหน่วยงานของ รัฐบาล หรือ การปรับเพิ่มเพดานหนี้ ทำเนียบขาวเปิดเผยภายหลังการประชุมว่า "ท่านประธานาธิบดีได้จัดการประชุมครั้งสำคัญร่วมกับแกนนำพรรครีพับลิกันใน ช่วงเย็นที่ผ่านมา โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง หลังจากที่การหาเจรจาเสร็จสิ้นลงแล้ว ก็ยังไม่มีการตัดสินใจเรื่องใดอย่างเฉพาะเจาะจง ท่านประธานาธิบดีต้องการให้การเจรจาของทั้งสองฝ่ายมีความคืบหน้าอย่างต่อ เนื่อง" สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 ต.ค.) โดยสัญญาทองคำดิ่งลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากความคืบหน้าเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐทำให้นักลงทุน ลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย แนะแนวทางการลงทุน หากราคายังไม่สามารถกลับไปยืน $ 1,300 Us/Oz ได้ เสี่ยงโดนแรงเทขายอีกครั้ง แต่ปรับตัวลงครั้งนี้แนะเสี่ยงเข้าซื้อ เนื่องจากเข้าเขต Over Sold สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา เงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 31.34/46 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวานนี้ ก่อนจะขยับขึ้นไปทดสอบระดับ 31.54 บาท/ดอลลาร์ หลังจากนั้นก็ขยับลงมา ล่าสุดเงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.50 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากตลาดยังรับปัจจัยเรื่อง Government Shutdown ที่ยังส่งผลต่อเนื่องมาถึงตอนนี้ ปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐฯแต่ทิศทางน่าจะดีขึ้นหลังนักลงทุนมองว่ามีความเป็น ไปได้ที่สภาคองเกรสอาจจะปรับเพิ่มเพดานหนี้ชั่วคราวให้กับรัฐบาล ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น นอกจากนี้นักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาประกาศแต่งตั้ง นางเจเน็ต เยลเลน รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นเป็นประธานเฟดคนใหม่ ต่อจากนายเบน เบอร์นันเก้ ส่วนรายงานของคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐ (FOMC) ก็ไม่ได้มีผลอะไรต่ออัตราแลกเปลี่ยนเช้าวันนี้เท่าไหร่ สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินริงกิตของมาเลเซีย การปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเวลานาน ทำให้ตลาดมองว่าเป็นการลดโอกาสที่เฟดจะเริ่มลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ภายในปี นี้ หนุนการปรับขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยง รวมทั้งสกุลเงินเอเชีย ขณะที่ฟีลิปปินส์ได้รับปัจจัยบวกเพิ่มเติม หลังจากที่วานนื้ สถาบันจัดอันดับเครดิต Moody’s ปรับเพิ่มอันดับเครดิตของฟิลิปปินส์ ให้อยู่ในเกรดลงทุนได้ (Investment grade) ถือเป็นระดับที่เทียบเท่ากับสถาบันจัดอันดับเครดิตของ Fitch rating และ S&P ที่มีการปรับอันดับเครดิตไปตั้งแต่เดือนมีนาคมและ พฤษภาคม http://www.youtube.com/watch?v=NUe4sMVp78g

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 10/10/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,290 1,287 1,277 แนวต้าน (Resistance) 1,306 1,311 1,315 สกุลเงินดอลล่าร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย หลังจาก รายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวันที่ 17-18 ก.ย. ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายระดับสูงส่วนใหญ่ของเฟดจะรอดูความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐ ก่อนจะเริ่มปรับลดแผนการซื้อสินทรัพย์ “เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่มองว่าจะเป็นการเหมาะสมสาหรับคณะกรรมการในการรอให้มีความชัดเจนมากขึ้นว่าความคืบหน้าจะมีความยั่งยืนก่อนที่ปรับขนาดการซื้อสินทรัพย์ " รายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ระบุสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และจากรายงานที่ว่ายอดนำเข้าทองคำของอินเดียปรับตัวลดลง แนะแนวทางการลงทุน ราคายังคงออก Sideway Down ให้รอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาที่แนวรับ สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดลดลงเล็กน้อย ที่ระดับ 31.28 (รอยเตอร์=31.25) เงินบาทยังคงมีการซื้อขายในกรอบ ขณะที่นักลงทุนรอดูผลของการเจรจาของผู้นำในครองเกรสของสหรัฐฯ เรื่องปัญหาหนี้ วานนี้ Fitch rating ปรับอันดับแนวโน้มอันดับเครดิตของประเทศไทย จากระดับ BBB ที่แนวโน้มแบบ ‘เสถียรภาพ’ มาเป็น ‘เชิงบวก’ โดยมองว่ากรอบนโยบายด้านเศรษฐกิจของไทยที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะสนับสนุนอันดับเครดิตของไทย ทั้งนี้ ดูเหมือนว่าข่าวนี้จะไม่ได้มีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาท สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่า งยิ่ง เงินริงกิตของมาเลเซีย การปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเวลานาน ทำให้ตลาดมองว่าเป็นการลดโอกาสที่เฟดจะเริ่มลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ภายในปีนี้ หนุนการปรับขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยง รวมทั้งสกุลเงินเอเชีย ขณะที่ฟิลิปปินส์ได้รับปัจจัยบวกเพิ่มเติม หลังจากที่วานนื้ สถาบันจัดอันดับเครดิต Moody’s ปรับเพิ่มอันดับเครดิตของฟิลิปปินส์ ให้อยู่ในเกรดลงทุนได้ (Investment grade) ถือเป็นระดับที่เทียบเท่ากับสถาบันจัดอันดับเครดิตของ Fitch rating และ S&P ที่มีการปรับอันดับเครดิตไปตั้งแต่เดือนมีนาคมและ พฤษภาคม http://www.youtube.com/watch?v=J6p9n8DTkBc

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 9/10/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,307 1,300 1,290 แนวต้าน (Resistance) 1,325 1,332 1,340 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงได้รับแรงกดดันนับตั้งแต่นายจอห์น โบเนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลีกันกล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรจะไม่ผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาล และจะไม่เพิ่มเพดานหนี้จนกว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะหันหน้ามาเจรจากัน ความเคลื่อนไหวของนายโบห์เนอร์ทำให้ตลาดวิตกกังวลว่ารัฐบาลกลางสหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ โดยสภาคองเกรสจำเป็นจะต้องผ่านร่างกฎหมาย เพิ่มเพดานการกู้ยืมให้กับรัฐบาลกลางภายในวันที่ 17 ต.ค.นี้ มิฉะนั้นรัฐบาลกลางสหรัฐจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้ และจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลงอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม เครดิต สวิส รีเสิร์ชเชื่อว่ามีโอกาสต่ำที่ความขัดแย้งในสภาคองเกรสจะกินเวลานาน เนื่องจากผลสำรวจความคิดเห็นของสหรัฐแสดงให้เห็นว่ารีพับลิกันกำลังถูกตำหนิอย่างหนักสำหรับการชัตดาวน์ ขณะที่เดโมแครตได้เสียงข้างมากเพิ่มขึ้นในวุฒิสภาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทำให้พรรคมีความชอบธรรมทางการเมือง สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงเมื่อวันก่อน อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เพราะได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนยังคงเข้าถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย แนะแนวทางการลงทุน ราคากำลังปรับฐานย่อยอาจจะมีแรงเทขายออกมาอีก หากจะเข้าซื้อให้พิจารณาที่บริเวณแนวรับ สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดลดลงเล็กน้อย ที่ระดับ 31.28 (รอยเตอร์=31.25) เงินบาทยังคงมีการซื้อขายในกรอบ ขณะที่นักลงทุนรอดูผลของการเจรจาของผู้นำในครองเกรสของสหรัฐฯ เรื่องปัญหาหนี้ วานนี้ Fitch rating ปรับอันดับแนวโน้มอันดับเครดิตของประเทศไทย จากระดับ BBB ที่แนวโน้มแบบ ‘เสถียรภาพ’ มาเป็น ‘เชิงบวก’ โดยมองว่ากรอบนโยบายด้านเศรษฐกิจของไทยที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะสนับสนุนอันดับเครดิตของไทย ทั้งนี้ ดูเหมือนว่าข่าวนี้จะไม่ได้มีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาท สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่า งยิ่ง เงินริงกิตของมาเลเซีย การปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเวลานาน ทำให้ตลาดมองว่าเป็นการลดโอกาสที่เฟดจะเริ่มลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ภายในปีนี้ หนุนการปรับขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยง รวมทั้งสกุลเงินเอเชีย ขณะที่ฟิลิปปินส์ได้รับปัจจัยบวกเพิ่มเติม หลังจากที่วานนื้ สถาบันจัดอันดับเครดิต Moody’s ปรับเพิ่มอันดับเครดิตของฟิลิปปินส์ ให้อยู่ในเกรดลงทุนได้ (Investment grade) ถือเป็นระดับที่เทียบเท่ากับสถาบันจัดอันดับเครดิตของ Fitch rating และ S&P ที่มีการปรับอันดับเครดิตไปตั้งแต่เดือนมีนาคมและ พฤษภาคม http://www.youtube.com/watch?v=9NLNWZ4qz0U

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 8/10/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,307 1,297 1,288 แนวต้าน (Resistance) 1,334 1,340 1,345 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าหนี้สินของรัฐบาลสหรัฐจะพุ่งชนเพดานก่อนกำหนดเส้นตายวันที่ 17 ต.ค.นี้ นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากผลกระทบของการผิดนัดชาระหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ หลังจากนายจอห์น โบเนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลีกันกล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรจะไม่ผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลและจะไม่เพิ่มเพดานหนี้จนกว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะหันหน้ามาเจรจากัน การแสดงความคิดเห็นของนายโบห์เนอร์ได้จุดปะทุให้เกิดความวิตกกังวลว่ารัฐบาลกลางสหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ โดยสภาคองเกรสจำเป็นจะต้องผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานการกู้ยืมให้กับรัฐบาลกลางภายในวันที่ 17 ต.ค.นี้ มิฉะนั้นรัฐบาลกลางสหรัฐจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้ และจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลงอย่างหนัก นักวิเคราะห์คาดว่า หากสหรัฐผิดนัดชำระหนี้ ก็จะส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างมาก ซึ่งจะยิ่งเป็นปัจจัยหนุนสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นอีกในระยะใกล้นี้ แนะแนวทางการลงทุน ราคาคาดการณ์จะทดสอบแนวต้านกรอบ $ 1,334 Us/Oz - $ 1,340 Us/Oz อาจจะเสี่ยงเปิด Shot โดยตั้งจุด Stop Loss $ 1,350 Us/Oz สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดลดลงเล็กน้อยที่ระดับ 31.28 (รอยเตอร์=31.25) เงินบาทยังคงมีการซื้อขายในกรอบ ขณะที่นักลงทุนรอดูผลของการเจรจาของผู้นำในครองเกรสของสหรัฐฯ เรื่องปัญหาหนี้ วานนี้ Fitch rating ปรับอันดับแนวโน้มอันดับเครดิตของประเทศไทย จากระดับ BBB ที่แนวโน้มแบบ ‘เสถียรภาพ’ มาเป็น ‘เชิงบวก’ โดยมองว่ากรอบนโยบายด้านเศรษฐกิจของไทยที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะสนับสนุนอันดับเครดิตของไทย ทั้งนี้ ดูเหมือนว่าข่าวนี้จะไม่ได้มีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาท สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่า งยิ่ง เงินริงกิตของมาเลเซีย การปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเวลานาน ทำให้ตลาดมองว่าเป็นการลดโอกาสที่เฟดจะเริ่มลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ภายในปี นี้ หนุนการปรับขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยง รวมทั้งสกุลเงินเอเชีย ขณะที่ฟิลิปปินส์ได้รับปัจจัยบวกเพิ่มเติม หลังจากที่วานนื้ สถาบันจัดอันดับเครดิต Moody’s ปรับเพิ่มอันดับเครดิตของฟิลิปปินส์ ให้อยู่ในเกรดลงทุนได้ (Investment grade) ถือเป็นระดับที่เทียบเท่ากับสถาบันจัดอันดับเครดิตของ Fitch rating และ S&P ที่มีการปรับอันดับเครดิตไปตั้งแต่เดือนมีนาคมและพฤษภาคม

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 7/10/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,300 1,293 1,288 แนวต้าน (Resistance) 1,328 1,338 1,345 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (4 ต.ค.) หลังจากที่อ่อนค่าลงติดต่อกัน 5 วันทำการ อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงวิตกกังวลกับการปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลกลางสหรัฐ รวมถึงปัญหาเพดานหนี้ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (4 ต.ค.) เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากอ่อนค่าลงติดต่อกันหลายวัน นอกจากนี้ นักลงทุนบางส่วนยังเชื่อมั่นว่าสมาชิกสภาคองเกรสจากพรรคเดโมแครตและพรรครี พับลิกันจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อผ่านร่างงบประมาณได้ในที่สุด ด้านเทคนิคราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ลักษณะของการเด้งรีบาวน์ เป็นเพียงการดีดกลับจากแรงซื้อเก็งกำไร ระยะสั้น ๆ เท่านั้น ราคายังคงโดนแรงกดดันจากแรงขายอยู่บ้าง เพราะในทางเทคนิค ทิศทางยังคงอยู่ภายใต้แนวโน้มขาลง ซึ่งยังคงเป็นแนวโน้มหลัก ดังนั้นหากราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน อาจจะทยอยขายทำกำไรออกไปก่อน แนะแนวทางการลงทุน ราคาเป็นเพียงเด้งรีบาวน์ อาจจะมีแรงเทขายออกมาอีกครั้ง อาจจะชลอการลงทุนออกไปก่อน หากราคาขึ้นทดสอบแนวต้านอีกครั้ง อาจจะเปิด Shot เก็งกำไรระยะสั้น ๆ สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดลดลงเล็กน้อยที่ระดับ 31.28 (รอยเตอร์=31.25) เงินบาทยังคงมีการซื้อขายในกรอบ ขณะที่นักลงทุนรอดูผลของการเจรจาของผู้นำในครองเกรสของสหรัฐฯ เรื่องปัญหาหนี้ วานนี้ Fitch rating ปรับอันดับแนวโน้มอันดับเครดิตของประเทศไทย จากระดับ BBB ที่แนวโน้มแบบ ‘เสถียรภาพ’ มาเป็น ‘เชิงบวก’ โดยมองว่ากรอบนโยบายด้านเศรษฐกิจของไทยที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะสนับ สนุนอันดับเครดิตของไทย ทั้งนี้ ดูเหมือนว่าข่าวนี้จะไม่ได้มีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาท สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินริงกิตของมาเลเซีย การปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเวลานาน ทำให้ตลาดมองว่าเป็นการลดโอกาสที่เฟดจะเริ่มลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ภายในปี นี้ หนุนการปรับขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยง รวมทั้งสกุลเงินเอเชีย ขณะที่ฟีลิปปินส์ได้รับปัจจัยบวกเพิ่มเติม หลังจากที่วานนื้ สถาบันจัดอันดับเครดิต Moody’s ปรับเพิ่มอันดับเครดิตของฟิลิปปินส์ ให้อยู่ในเกรดลงทุนได้ (Investment grade) ถือเป็นระดับที่เทียบเท่ากับสถาบันจัดอันดับเครดิตของ Fitch rating และ S&P ที่มีการปรับอันดับเครดิตไปตั้งแต่เดือนมีนาคมและ พฤษภาคม

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ By Gcap Gold 4/10/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,300 1,290 1,280 แนวต้าน (Resistance) 1,325 1,330 1,340 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ต.ค.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า การปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐอาจจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เลื่อนเวลาในการปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะเลื่อนเวลาการลดขนาด QE เนื่องจากสหรัฐต้องปิดหน่วยงานของรัฐบาลเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี หลังจากสภาคองเกรสยังไม่สามารถประนีประนอมกันได้เกี่ยวกับร่างงบประมาณชั่วคราวได้จนถึงขณะนี้ ขณะที่เจพี และอาจจะมีผลกระทบมากขึ้นต่อความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายของผู้บริโภค ดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.ร่วงลงสู่ระดับ 54.4 จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 58.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการปิดหน่วยงานบางส่วนของสหรัฐ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสัญญาทองคำร่วงลง โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.ร่วงลงสู่ระดับ 54.4 จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 58.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี แนะแนวทางการลงทุน หากราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน อาจจะเปิด Shot ที่กรอบ $ 1,325 Us/Oz-$ 1,330 Us/Oz ให้ปิดทำกำไรระหว่างวัน เมื่อราคาอ่อนตัว สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดสูงขึ้นที่ 31.31 ( Reuters = 31.31 ) เงินบาทอ่อนค่าจากการทำกำไรในระยะสั้น หลังจากที่ ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ใน 2-3วันที่ผ่านมา นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐ ทำให้มีแรงขายในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรจากนักลงทุนต่างชาติ (ขายสุทธิเป็นTHB202.44mn และ THB1.35bn ตามลาดับ) เมื่อวาน ADB ปรับลดการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2013 ไปที่ 3.8% จาก 4.9% ใน การประมาณการก่อนหน้านี้ สกุลเงินเอเชีย ทรงตัวในกรอบ ขณะที่นักลงทุนรอดูสัญญาณที่ชัดเจนของรัฐบาลสหรัฐ แต่ได้รับแต่ความผิดหวังในช่วงนี้ สกุลเงินที่ปรับขึ้นวานนี้ ได้แก่ รูเปียห์ เปโซ ดอลลาร์ไต้หวัน และเงินริงกิต ในช่วงนี้ ความผันผวนของตลาดมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นตามกำหนดเส้นตายของเพดานหนี้สหรัฐ (17 ตุลาคม) นอกจากนั้น วานนี้ ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียปรับลดประมาณการการเติบโตของเอเชีย (รวม 45 ประเทศ ) ลงสู่ 6.0 % ในปี 2013 จากครั้งก่อนที่ให้ไว้ที่ 6.1% EUR/USD ปิดลดลง 0.19% มาที่ 1.3519 อย่างไรก็ดี หลังการประชุมนโยบายการเงินของ ECB วานนี้ เงินยูโรเริ่มขยับตัวไปยังจุดที่สูงที่สุดในรอบ 8 เดือน โดยประธาน ECB นาย มาริโอ ดรากี ชี้ให้เห็นว่า ECB พร้อมที่จะรักษามาตรการผ่อนคลายด้านการเงินมากขึ้นหากมีความจำเป็นฯเพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อไปได้ต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน เขาไม่ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการแข็งค่าของเงินยูโรในช่วงนี้ นอกจากนี้ เงินยูโรได้รับการแรงหนุนหลังนักลงทุนมองว่ารัฐบาลอิตาลีมีเสถียรภาพมากขึ้นหลังจากที่ นาย Berlusconi กล่าวว่าพรรคของเขาจะยังคงสนับสนุนนายก Enrico Letta ต่อไป

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 3/10/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support)1,300 1,290 1,280 แนวต้าน (Resistance) 1,330 1,339 1,345 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) หลังจากสภาสหรัฐได้ลงมติไม่ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณฉุกเฉินซึ่งข่าวดังกล่าว ทำให้นักลงทุนกังวลว่าสหรัฐอาจเผชิญกับการผิดหน่วยงานของรัฐ นายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้กล่าวย้ำในที่ประชุมผู้นำรัฐสภาว่า เขาจะไม่เจรจาในประเด็นงบประมาณและเรื่องการปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาล ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาความขัด แย้งด้านการคลัง ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโอบามาได้เรียกประชุมผู้นำ พรรครีพับลิกันและเดโมแครทที่ทำเนียบขาวในช่วงบ่ายวานนี้ หลังจากที่การปิดหน่วยงานรัฐบาลดำเนินไปเป็นวันที่สอง นายโบห์เนอร์กล่าวในแถลงการณ์ภายหลังการประชุมเป็นเวลา 90 นาทีที่ทำเนียบขาวว่า นายโอบามาปฏิเสธการเจรจาและรัฐสภายังคงมีความเห็นไม่ลงรอยกัน นายโบห์เนอร์ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า พรรครีพับลิกันต้องการให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อเข้าร่วมประชุม เพื่อคลคี่ ลายความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในเวลานี้ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากธนาคารกลางยุโรปมีมติคงอัตราดอกเบี้ยเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐยังได้กระตุ้น ให้นักลงทุนเข้าถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย แนะแนวทางการลงทุน ราคาอาจจะมีการปรับตัวขึ้นได้อีกเล็กน้อย อาจจะเปิด Shot เมื่อราคาทดสอบแนวต้าน สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดลดลง 31.14 (รอยเตอร์ = 31.13) เงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ตามสกุลเงินอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้ เนื่องจากตลาดไม่ได้ให้น้ำหนักต่อการปิดอย่างเป็นทางการของรัฐบาลสหรัฐฯ ขณะที่ธปท. ระบุว่า ธปท. วางแผนที่จะปรับประมาณการ GDP ลดลง ในรายงานนโยบายการเงินที่จะออกมาในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ สกุลเงินเอเชีย ปิดแบบผสม โดยมีเงินริงกิต ดอลลาร์สิงคโปร์ และวอนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ตลาด แสดงออกถึงความกังวลที่ลดลงต่อการปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน ดัชนี PMI ของจีนช่วยเพิ่มความมั่นใจต่อตลาดเรื่องการเติบโตในภูมิภาค นอกจากนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากHSBC/Markit สำหรับเกาหลีใต้ ไต้หวัน เวียดนามและ อินโดนีเซีย ในเดือนกันยายน ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ขณะที่อินโดนีเซีย ได้รับข่าวดีเพิ่มเติมหลังจากที่ในเดือนสิงหาคม มีการเกินดุลการค้าอย่างไม่คาดคิด ขณะที่ตลาดจีนปิดทำการในวันหยุดยาว (วันชาติ ) จนกระทั่งวันที่ 7 ตุลาคม EUR/USD ปิดเพิ่มขึ้น 0.33% มาอยู่ที่ระดับ 1.3545 เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันอังคาร แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะที่ต้องปิดทำการ (Shutdown) อย่างเป็นทางการ หลังจากที่ผู้นำในสภาครองเกรสระหว่างฝ่ายเดโมเครตและรีพลับลิกันล้มเหลวใน การเจรจาต่อรองเรื่องงบประมาณ ทั้งนี้ ปฏิกิริยาของตลาดไม่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา เนื่องจากแทนที่จะเข้าถือสินทรัพย์เสี่ยงไว้ อย่างเงินดอลลาร์ เรากลับเห็นสินทรัพย์เสี่ยง รวมทั้งค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นชี้ให้เห็นว่านักลงทุนมองว่าการปิดทำการของ รัฐบาลจะเป็นไปเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น และอาจไม่ได้ส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยตรง

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 2/10/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support)1,277 1,270 1,250 แนวต้าน (Resistance)1,297 1,305 1,318 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) หลังจากสภาสหรัฐได้ลงมติไม่ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณฉุกเฉินซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าสหรัฐอาจเผชิญกับการผิดหน่วยงานของรัฐ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติ 228 ต่อ 201 ในการผ่านร่างกฎหมายที่จะจัดสรรงบประมาณชั่วคราวสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาลไปจนถึงวันที่15 ธ.ค. พร้อมทั้งชะลอการบังคับใช้กฎหมายประกันสุขภาพของประธานาธิบดีบารัค โอบามา หรือโอบามาแคร์ ออกไปอีก 1 ปี ทางด้านปธน.โอบามาระบุว่าเขาจะใช้ สิทธิวีโต้หากร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับความเห็นชอบ การอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่รัฐบาลจะไม่มีเงินสำหรับใช้จ่ายสาหรับปีงบประมาณใหม่ ก่อนหน้านี้ วุฒิสภาสหรัฐซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ได้ลงมติด้วยคะแนนเสียง 54 ต่อ 46 ไม่ผ่านร่าง กฎหมายงบประมาณที่มีเงื่อนไขให้เลื่อนการดำเนินการโอบามาแคร์ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 40 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ม.ิ ย.ปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวสหรัฐประกาศปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาล หลังจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับร่างกฎหมายงบประมาณฉุกเฉิน แนะแนวทางการลงทุน ราคาอาจจะรีบาวน์ขึ้นทดสอบบริเวณ $ 1,295 Us/Oz ก่อนปรับตัวลดลง กรณีปรับตัวลดลงก่อน อาจจะเข้าซื้อสะสมที่แนวรับของวัน สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดลดลง 0.10% มาอยู่ที่ระดับ 31.30 (รอยเตอร์= 31.27) เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย หลังจากนักลงทุนขายทำกำไรระยะสั้นเงินดอลลาร์ หลังจาก USD/THB ได้ปรับขึ้นไปแตะระดับสูงสุดระหว่างวันที่ 31.43 ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงระมัดระวังในการลงทุนสินทรัพย์บาท ตามความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐฯ อาจต้องปิดทำการในวันนี้ สกุลเงินเอเชีย ได้รับแรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ ที่อาจต้องปิดทำการได้ ในวันที่ 1 ต.ค. สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่อ่อนค่า จากความไม่แน่นอนจากสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนลดความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง เงินริงกิต และรูเปี ยห์อ่อนค่ามากสุดวานนี้ โดยลดลง 0.99 % และ 0.72% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ EUR/USD ปิดลดลง 0.16% สู่ระดับ 1.3500 เงินยูโรอยู่ภายใต้แรงกดดันทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายใน โดยความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐฯจะต้องปิดทำการและหยุดชะงัก จากการที่ผู้นำในสภาครองเกรสไม่สามารถหาข้อสรุปเรื่องงบประมาณสาหรับปีถัดไปได้ ในขณะที่ในยูโรโซน ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับรัฐบาลอิตาลีได้เพิ่มความกังวลให้แก่ตลาด และส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของอิตาลี นาย Letta จะขอ confidence vote จากสภาในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 2 ต.ค.) เพื่อเป็นการทดสอบเสถียรภาพของรัฐบาล ในขณะเดียวกันข้อมูลเมื่อวานนี้ แสดงให้เห็นว่า อัตราการว่างงานของยูโรโซนยังคงอยู่ในระการบันทึกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่12.1% ในเดือนส.ค.

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 1/10/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ (Support) 1,320 1,312 1,300 แนวต้าน (Resistance) 1,332 1,339 1,345 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) หลังจากสภาสหรัฐได้ลงมติไม่ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณฉุกเฉินซึ่งข่าวดังกล่าว ทำให้นักลงทุนกังวลว่าสหรัฐอาจเผชิญกับการผิดหน่วยงานของรัฐสภาผู้แทนราษฎร สหรัฐมีมติ 228 ต่อ 201 ในการผ่านร่างกฎหมายที่จะจัดสรรงบประมาณชั่วคราวสำหรับการดำเนินงานของ รัฐบาลไปจนถึงวันที่15 ธ.ค. พร้อมทั้งชะลอการบังคับใช้กฎหมายประกันสุขภาพของประธานาธิบดีบารัค โอบามา หรือโอบามาแคร์ ออกไปอีก 1 ปี ทางด้านปธน.โอบามาระบุว่าเขาจะใช้สิทธิวีโต้หากร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับ ความเห็นชอบ การอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวมีขึ้นในขณะทีเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก่อนที่รัฐบาลจะไม่มีเงินสำหรับใช้จ่ายสำหรับปีงบประมาณใหม่ ก่อนหน้านี้ วุฒิสภาสหรัฐซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ได้ลงมติด้วยคะแนนเสียง 54 ต่อ 46 ไม่ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณที่มีงื่อนไขให้เลื่อนการดำเนินการโอบามาแคร์ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) หลังจากสภาสหรัฐได้ลงมติไม่ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณฉุกเฉินซึ่งข่าวดังกล่าว ทา ให้นักลงทุนกังวลว่าสหรัฐอาจเผชิญกับการผิดหน่วยงานของรัฐ ด้านเทคนิคราคาทองคำได้กลับเข้ามาอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมได้อีกครั้ง อาจจะรอการเบรคเอาท์ ออกไปด้านใดด้านหนึ่ง อาจจะทำให้เกิดการแกว่งตัวเพื่อรอข่าวมาสนับสนุนให้ราคาเบรกออกไปด้านใดด้าน หนึ่ง แนะแนวทางการลงทุน ราคายังคงวิ่งอยู่ในกรอบสามเหลี่ยม อาจจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนของตลาด หรือ รอ Break Out ออกไปด้านใดด้านหนึ่ง สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา USD/THB ปิดสูงขึ้นที่ 31.33 บาท โดยเงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค จาก ความกังวลเรื่องปัญหาหนี้สหรัฐฯ ในขณะเดียวกันปัญหาการเมืองภายในประเทศ เช่น ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับงบประมาณปี 2557 และพรบ. เงินกู้เพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ยังเป็นปัจจัยกดดันเงินบาทช่วงนี้ สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ปรับตัวลงเทียบดอลลาร์ ตามความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สหรัฐ เงินรูเปียห์และเงินริงกิตนำสกุลเงินส่วนใหญ่ในการร่วงลงช่วงสัปดาห์ที่ผ่าน มา เมื่อรูเปียห์แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2009 ส่วนริงกิตลดลงรายสัปดาห์ในอัตราที่มากสุดในรอบ 3 เดือน ตลาดกำลังรอดูว่าปัญหาหนี้สหรัฐฯจะได้รับการ แก้ไขในช่วงสุดสัปดาห์หรือไม่ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีวิธีแก้ปัญหาดังกล่าว เราคาดว่าสินทรัพย์ที่ถือว่ามีความเสี่ยงสูงยังจะเผชิญแรงขายต่อในวันนี้ EUR/USD เงินยูโรปิดสูงขึ้นที่ 1.3522 หลังจากที่ร่วงลงในช่วงแรกขณะที่นักลงทุนขาดความมั่นใจว่าฝ่ายนิติบัญญัติ ของสหรัฐจะหลีกเลี่ยงภาวะการปิดทำการของหน่วยงานรัฐได้ภายในวันที่ 1 ตุลาคมหรือไม่ นอกจากนั้น รัฐบาลของอิตาลีเริ่มสั่นคลอนหลังพรรคการเมืองที่สนับสนุนนาย Berlusconi ออกจากการเข้าร่วมรัฐบาลของนายก Letta ทั้งนี้ สภาอิตาลีจะมีการลงมติความไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 2 ตุลาคม

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 27/9/2556 แนวโน้มช่วงเช้า แนวรับ 1,315 1,305 1,288 แนวต้าน 1,325 1,331 1,340 แนวโน้มช่วงเช้า สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26ก.ย.)หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลด้านแรงงานที่สดใส ซึ่งช่วยหนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านการคลังของสหรัฐ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลงสวนทางกับการคาดการณ์ของนัก วิเคราะห์ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าข้อมูลดังกล่าวอาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ปัจจัยด้านเทคนิค ราคาทองคำได้ปรับตัวลงมาอยู่ในฝั่งที่เป็น Bullish อีกครั้ง แล้ว หลังจากมีความพยายามที่จะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน แต่ยังคงโดนแรงเทขายทางเทคนิคออกมา ทำให้น้ำหนักการกลับตัวขึ้นนั้นน้อย ลงไป ในมุมมองวันนี้ ทิศทางยังคงเป็นไปในทิศทางที่ Sideway อีกครั้งหนึ่ง จึงควรชะลอการลงทุนออกไปก่อน หากปรับตัวลดลงอาจจะเสี่ยงเข้าซื้อ แนะแนวทางการลงทุน ราคาน่าจะออกลักษณะ Sideway Down อาจจะชะลอการลงทุนออกไปก่อน สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.)หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลด้านแรงงานที่สดใส ซึ่งช่วยหนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในกรอบที่จำากัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านการคลังของสหรัฐ เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.33/35 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.30/32 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค โดยเช้านี้เงินบาทไปทำไฮสุดในรอบเดือนที่ระดับ 31.46 บาท/ดอลลาร์ ทิศทางค่าเงินในเอเซียยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่องจากการไหลออกของเงินทุน จากต่างประเทศกลับไปยังสหรัฐ และสหภาพยุโรป และยังคงจับตาดูมาตรการ QE ที่ยังไม่มีความชัดเจน โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 31.30-31.50 บาท/ดอลลาร์