Jump to content
กระดานทองคำ
admin

ประกาศเตือนอย่าหลงเชื่อลงทุนทองคำและฟิวเจอร์ส ตปท.

Recommended Posts

เนื่องจากปัจจุบันมีบริษัทที่เปิดขึ้นมาเพื่อหลอกลวง โดยการชักชวนซื้อขายทองspotในต่างประเทศหรือฟิวเจอร์สในต่างประเทศ ซึ่งมีผู้เสียหายร้องเรียนผ่านสมาคมฯ และ กลต. จำนวนมาก ซึ่งสมาคมค้าทองคำได้ดำเนินการประสานกับ กลต. และตำรวจเศรษฐกิจ เข้าจับกุมอยู่ตลอดเวลา แต่ทั้งนี้กลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว ยังได้มีการปิดบริษัทหนี และไปเปิดบริษัทใหม่ ดำเนินการหลอกลวงเหยื่ออย่างต่อเนื่อง จึงขอเตือนมายังนักลงทุนทุกท่าน ดังนี้

 

1.ผิดกฎหมาย บริษัท ที่ชักชวนทุนซื้อขายทองต่างประเทศ หรือฟิวเจอร์สทองคำ น้ำมั้นต่างประเทศ เป็นบริษัทที่หลอกลวง เพราะผิดกฎหมาย กลต.

2.พฤติกรรม จนท.จะโทรหาลูกค้าเพื่อชักชวนเปิดพอร์ทในต่างประเทศเป็นเงินขั้นต่ำ 10,000USD หรือประมาณ 350,000 บาท และแนะนำให้เล่นผิดทาง หรือหาลูกค้ามาเปิดพอร์ทเป็นจำนวนมากๆ แล้วปิดบริษัทหนีไปเปิดบริษัทใหม่ (คล้ายแชร์ลูกโซ่) โดยบริษัทเหล่านี้จะไม่ค่อยยอมเปิดเผยที่อยู่หรือข้อมูลบริษัท และเวลาโทรหาลูกค้าจะใช้โทรศัพท์มือถือ นัดเจอกันนอกสถานที่ เช่น ร้านกาแฟ เป็นต้น

3.ปัญหาการดำเนินคดี ผู้เสียหายจะเสียเปรียบมาก เพราะการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเรื่องยาก เนื่องจากบริษัทเหล่านี้ดำเนินการไม่ถูกกฎหมายมาตั้งแต่ต้น จึงมีโอกาสสูญเงินสูงมาก

4.วิธีตรวจสอบ บริษัท เหล่านี้ ท่านสามารถสอบถามมาที่ สมาคมค้าทองคำ 0-2675-8000 เนื่องจากบริษัทที่จะทำการซื้อขายหรือนำเข้าส่งออกทองคำ ต้องเป็นสมาชิกสมาคมฯ เพราะต้องขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเข้าส่งออกและเพื่อขอยกเว้นภาษี กับศุลการกรและสรรพากร ทั้งนี้ สมาคมฯ มีรายชื่อของบริษัท ที่เคยถูกดำเนินคดี หรือถูกขึ้นบัญชีต้องสงสัยไว้แล้ว

5.สรุป อย่าได้หลงเชื่อโดยเด็ดขาด หากมีข้อสงสัยกรุณาโทรปรึกษาสมาคมค้าทองคำก่อน และหากใครมีข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาแจ้งมาที่สมาคมเพื่อดำเนินการประสานจับกุมต่อไป

banner_risk_in_futures_forex.gif

Share this post


Link to post
Share on other sites

เนื่องจากปัจจุบันมีบริษัทที่เปิดขึ้นมาเพื่อหลอกลวง โดยการชักชวนซื้อขายทองspotในต่างประเทศหรือฟิวเจอร์สในต่างประเทศ ซึ่งมีผู้เสียหายร้องเรียนผ่านสมาคมฯ และ กลต. จำนวนมาก ซึ่งสมาคมค้าทองคำได้ดำเนินการประสานกับ กลต. และตำรวจเศรษฐกิจ เข้าจับกุมอยู่ตลอดเวลา แต่ทั้งนี้กลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว ยังได้มีการปิดบริษัทหนี และไปเปิดบริษัทใหม่ ดำเนินการหลอกลวงเหยื่ออย่างต่อเนื่อง จึงขอเตือนมายังนักลงทุนทุกท่าน ดังนี้

 

1.ผิดกฎหมาย บริษัท ที่ชักชวนทุนซื้อขายทองต่างประเทศ หรือฟิวเจอร์สทองคำ น้ำมั้นต่างประเทศ เป็นบริษัทที่หลอกลวง เพราะผิดกฎหมาย กลต.

2.พฤติกรรม จนท.จะโทรหาลูกค้าเพื่อชักชวนเปิดพอร์ทในต่างประเทศเป็นเงินขั้นต่ำ 10,000USD หรือประมาณ 350,000 บาท และแนะนำให้เล่นผิดทาง หรือหาลูกค้ามาเปิดพอร์ทเป็นจำนวนมากๆ แล้วปิดบริษัทหนีไปเปิดบริษัทใหม่ (คล้ายแชร์ลูกโซ่) โดยบริษัทเหล่านี้จะไม่ค่อยยอมเปิดเผยที่อยู่หรือข้อมูลบริษัท และเวลาโทรหาลูกค้าจะใช้โทรศัพท์มือถือ นัดเจอกันนอกสถานที่ เช่น ร้านกาแฟ เป็นต้น

3.ปัญหาการดำเนินคดี ผู้เสียหายจะเสียเปรียบมาก เพราะการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเรื่องยาก เนื่องจากบริษัทเหล่านี้ดำเนินการไม่ถูกกฎหมายมาตั้งแต่ต้น จึงมีโอกาสสูญเงินสูงมาก

4.วิธีตรวจสอบ บริษัท เหล่านี้ ท่านสามารถสอบถามมาที่ สมาคมค้าทองคำ 0-2623-2301-3 เนื่องจากบริษัทที่จะทำการซื้อขายหรือนำเข้าส่งออกทองคำ ต้องเป็นสมาชิกสมาคมฯ เพราะต้องขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเข้าส่งออกและเพื่อขอยกเว้นภาษี กับศุลการกรและสรรพากร ทั้งนี้ สมาคมฯ มีรายชื่อของบริษัท ที่เคยถูกดำเนินคดี หรือถูกขึ้นบัญชีต้องสงสัยไว้แล้ว

5.สรุป อย่าได้หลงเชื่อโดยเด็ดขาด หากมีข้อสงสัยกรุณาโทรปรึกษาสมาคมค้าทองคำก่อน และหากใครมีข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาแจ้งมาที่สมาคมเพื่อดำเนินการประสานจับกุมต่อไป

< ก่อนอื่น ผมมีควาามสนุกมาก ในการใช้แท่นพิมพ์ไทย ถึงแม้ว่าจะยากเย็นม๊ากมาก และยังยากเย็นกว่า skiing หิมะที่ aspen และ snowbird เสียอีกครับ.... LOL >

 

กฎหมายที่ท่านอ้างอิงเบื้องบน เป็นการริเริ่มที่ถูกทางแล้วครับ ผมเห็นด้วยทุกประการครับ และปิติยิ่งที่มิได้มีข้อใดที่เกี่ยวพันกับผมเลยครับ ท่านโล่้งอกได้นะครับ

 

ส่วนเรื่องอื่นๆที่มิได้เกี่ยวกับกระทู้การซื้อขายทอง เราคุยกันทางอีเมลต่อดีไม๊ครับ

Share this post


Link to post
Share on other sites

สวัสดีคะ หนูมีเรื่องที่อยากจะให้ทางสมาคมผู้ค้าทองคำตรวจสอบ

 

คือเรื่องมีอยู่ว่า หนูเพิ่งออกจากงานโดยที่ไม่มีความผิดใดใด จึงได้มีการทวงถามเงินเดือนและค่าสินไหมทดแทนตามกฎหมายกำหนดจากทางบริษัทแต่ ทางบริษัทปฏิเสธที่จะจ่ายเงินเดือนและค่าสินไหมทดแทนตามกฎหมายกำหนด จึงมีความสงสัยว่าบริษัทนี้เปิดบริษัทถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยก็มีคนแนะนำให้ไปตรวจสอบกับ กลต. ดู หลังจากที่ได้อ่านข้อมูล บริษัทที่หนูทำนั้น ชื่อบริษัท Navista Global Markets Limited ทำเกี่ยวกับ การซื้อขายล่วงหน้า (spot) ราคาทองคำ น้ำมัน สกุลเงิน ซิลเวอร์ ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต 24 ชั่วโมง มีคนไทยเป็นตัวแทนนำเข้ามา ซึ่งเข้าข่าย ทองคำเถื่อน(gold spot) และให้คำแนะนำมาว่าให้แจ้งไปที่ สมาคมค้าทองคำ หนูจึงแจ้งมายังสมาคมเพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย

 

ออฟฟิศตั้งอยู่ที่ อาคาร MEC ชั้น 15 (โดยหน้าห้องไม่มีชื่อบริษัทติด) ถนน บางนาตราด ซ.บางนาตราด 12/1 เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260 เบอร์โทรตึก 02-7493636 ต่อ 333

 

สถานที่รับลองลูกค้า สำหรับลูกค้าขึ้นตึก

เลขที่ 399 ตึก
Interchange
ชั้น 33 ซอย สุขุมวิท 21

คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ 10110

 

 

นอกจากนี้หนูได้แนบเอกสารเผื่อเป็นประโยชน์ในการตรวจสอบมาอีกด้วย

 

 

Share this post


Link to post
Share on other sites

เอกสารที่แนบมาไม่สามารถเปิดได้ครับ

 

รบกวนส่งข้อมูลมาทาง email : contact@goldtraders.or.th ด้วยครับ

 

ทางสมาคมฯ จะดำเนินการตรวจสอบ และประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปครับ

Share this post


Link to post
Share on other sites

รบกวนช่วยส่งข้อมูลทั้งหมดที่มี ให้สมาคมด้วยครับ contact@goldtraders.or.th เช่น ชื่อบริษัท ที่อยู่ เบอร์โทรออฟฟิต เบอร์โทรมือถือ นามบัตร บัตร ปชช.(ถ้าได้)

 

สมาคม จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบครับ

 

ขอบคุณครับ

Share this post


Link to post
Share on other sites

ข่าว ก.ล.ต.

 

ฉบับที่ 84/2555

วันอังคารที่ 11 กันยายน 2555

 

ก.ล.ต. กล่าวโทษบริษัท จี ไอ เอส พี จำกัด กับพวก และ Navista Global Markets Ltd. กรณีประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต

 

 

ก.ล.ต. กล่าวโทษบริษัท จี ไอ เอส พี จำกัด นายศุภวิทย์ สูติสงค์ และ Navista Global Markets Ltd. ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) กรณีประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต

 

สืบเนื่องจากมีผู้แจ้งเบาะแสว่า บริษัท จี ไอ เอส พี จำกัด ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 240/31 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร และ Navista Global Markets Ltd. ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งจากการตรวจสอบพยานหลักฐาน พบว่า บริษัท จี ไอ เอส พีฯ และ Navista Global Markets Ltd. ได้แสดงตนต่อบุคคลทั่วไปว่าเป็นตัวแทนซื้อขายทองคำล่วงหน้า โดยมีการติดต่อ ชักชวน ตลอดจนเผยแพร่เอกสารและข้อมูลการลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวบนเว็บไซต์ www.famarkets.com และ www.ngm-trading.com ตามลำดับ เพื่อให้บุคคลทั่วไปมาใช้บริการซื้อขายสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า

 

การกระทำของบริษัททั้งสองข้างต้นเข้าข่ายเป็นการประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 ก.ล.ต. จึงได้ดำเนินการกล่าวโทษบริษัท จี ไอ เอส พีฯ และนายศุภวิทย์ สูติสงค์ ในฐานะกรรมการบริษัท และ Navista Global Markets Ltd. ต่อ ปอศ. ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการลงทุนกับบริษัทดังกล่าว โปรดแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมไปยัง ปอศ. ที่โทรศัพท์หมายเลข 0-2237-1199 เพื่อให้ทำการสอบสวนดำเนินคดีจนถึงที่สุด

 

นายวสันต์ เทียนหอม รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ก.ล.ต. ขอย้ำเตือนให้ผู้ที่สนใจจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เลือกลงทุนเฉพาะกับบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตได้ที่เว็บไซต์ของ ก.ล.ต. www.sec.or.th และเพื่อช่วยในการตัดสินใจให้แก่ผู้ลงทุน ก.ล.ต. ได้รวบรวมรายชื่อนิติบุคคลที่มิใช่ผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ไว้ที่เว็บไซต์ของ ก.ล.ต. หัวข้อ Investor Alert List นอกจากนี้ หากผู้ลงทุนหรือประชาชนทั่วไปได้รับการติดต่อชักชวนให้ลงทุนจากบุคคลที่สงสัยว่าไม่ได้รับอนุญาต สามารถแจ้งเบาะแสไปยังศูนย์สนับสนุนผู้ลงทุนของ ก.ล.ต. โทร. 0-2263-6000 หรือ complain@sec.or.th เพื่อ ก.ล.ต. จะได้ดำเนินการตรวจสอบต่อไป”

Share this post


Link to post
Share on other sites

ข่าว ก.ล.ต.

 

ฉบับที่ 105/2554

วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2554

 

ก.ล.ต. กล่าวโทษ บริษัท อินเทรนด์ คอนซัลแตนท์ (ประเทศไทย) จำกัด กับพวก กรณีประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต

 

สืบเนื่องจากการที่ ก.ล.ต. ได้ตรวจสอบการประกอบธุรกิจของบริษัท อินเทรนด์ คอนซัลแตนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 889 ชั้น 12 ห้อง 124 ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 ตามที่มีผู้แจ้งเบาะแสว่าบริษัทดังกล่าวประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต

 

จากการตรวจสอบพยานหลักฐาน พบว่าในช่วงเดือนกรกฎาคม 2552 ถึงปัจจุบัน บริษัทอินเทรนด์ฯ ได้แสดงตนต่อบุคคลทั่วไป โดยลงโฆษณาบนเว็บบอร์ดที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน และเว็บไซต์ www.intrendgold.com ว่าเป็นตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าของบริษัทในฮ่องกง ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการซื้อขายสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า โดยมีเจ้าหน้าที่การตลาดโทรศัพท์ชักชวนผู้ลงทุน และเมื่อผู้ลงทุนสนใจ เจ้าหน้าที่การตลาดจะส่งเอกสารแนะนำบริษัทให้ทาง e-mail หรือโทรสาร ซึ่งประกอบด้วย (1) ข้อมูลการลงทุน (2) วิธีการคำนวณผลตอบแทนในรูปแบบต่าง ๆ และ (3) ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนที่ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ www.intrendgold.com เพื่อให้ผู้ลงทุนเข้าใจว่าการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดังกล่าวสามารถทำกำไรได้โดยง่าย ทำให้มีผู้ลงทุนหลายรายหลงเชื่อและตัดสินใจเปิดบัญชีซื้อขายสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้ากับบริษัทอินเทรนด์ฯ และชำระเงินลงทุนให้กับบริษัทเป็นเงินสดหรือโอนไปยังบัญชีของนิติบุคคลที่อ้างว่าเป็นบริษัทตัวแทนในฮ่องกง หรือใช้บริการโอนเงินผ่านบริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในประเทศไทย

 

โดยที่การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 ซึ่งมีระวางโทษตามมาตรา 125 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน ก.ล.ต. จึงได้ดำเนินการกล่าวโทษบริษัทอินเทรนด์ฯ นายชวนากร เทียรสวัสดิ์ กรรมการบริษัท และนางสาวสุพัตรา ศรีไพบูลย์ (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น นางสาวศุภธนิศร์ ศรีไพบูลย์) หรือนางสาวพลอย เจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัท ซึ่งร่วมกันหรือช่วยเหลือการประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาตของบริษัทอินเทรนด์ฯ ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) เพื่อสอบสวนดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวต่อไป และขอให้ผู้ลงทุนที่ได้รับความเสียหายจากการลงทุนกับบริษัทอินเทรนด์ฯ แจ้งข้อมูลไปยัง ปอศ. ที่โทรศัพท์หมายเลข 0-2237-1199

 

อนึ่ง ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ขอให้เลือกลงทุนเฉพาะกับบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ซึ่งรายชื่อตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. และตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่จำกัดเฉพาะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เกี่ยวกับโลหะมีค่า สามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ของ ก.ล.ต. - www.sec.or.th หรือหากเป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงสินค้าเกษตร ขอให้ตรวจสอบรายชื่อที่เว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) - www.aftc.or.th และหากได้รับการติดต่อชักชวนจากบุคคลที่สงสัยว่าไม่ได้รับอนุญาต โปรดแจ้งเบาะแสมายังศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ก.ล.ต. โทร. 0-2263-6000 หรือ complain@sec.or.th หรือ ก.ส.ล. ที่ enforcement@aftc.or.th เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป

Share this post


Link to post
Share on other sites

ข่าว ก.ล.ต.

 

ฉบับที่ 74/2554

วันพุธที่ 10 สิงหาคม 2554

 

ก.ล.ต. ร่วมกับ ปอศ. เข้าตรวจค้น และกล่าวโทษบริษัทที่ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งศาลมีคำพิพากษาลงโทษผู้ประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

 

ก.ล.ต. ร่วมกับ ปอศ. ตรวจค้นและกล่าวโทษบริษัท มาสเตอร์ บิซิเนส คอนซัล จำกัด กับพวกฐานประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งเป็นภารกิจหนึ่งของ ก.ล.ต. ในการปราบปรามการประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมาย พร้อมทั้งเตือนให้ผู้ลงทุนตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจกับ ก.ล.ต. ก่อนตัดสินใจลงทุน

 

ก.ล.ต. ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต. โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผู้บังคับการ ปอศ. นำโดย พ.ต.อ. กิตติ สะเภาทอง รอง ผบก.บก.ปอศ., พ.ต.ท. รัฐพล น้อยช่างคิด รอง ผกก. 5 บก. ปอศ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นสถานประกอบการของบริษัท มาสเตอร์ บิซิเนส คอนซัล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 48/7-8 ซอยรัชดาภิเษก 20 (รุ่งเรือง) แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2554

 

จากการตรวจค้น พบเอกสารและหลักฐานที่เชื่อได้ว่าบริษัท มาสเตอร์ บิซิเนสฯ ได้ชักชวนให้บุคคลทั่วไปเข้ามาลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงราคาทองคำ โดยอ้างว่าเป็นตัวแทนของโบรกเกอร์ต่างประเทศเป็นผลให้มีผู้หลงเชื่อได้โอนเงินแก่บริษัทจำนวนหนึ่ง และบริษัทได้รับผลตอบแทนส่วนหนึ่งจากค่าธรรมเนียมในการซื้อขายของลูกค้า ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการแสดงตนว่าประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยมิได้รับอนุญาตเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 ก.ล.ต. จึงได้กล่าวโทษบริษัท มาสเตอร์ บิซิเนสฯ นายวิทยา แผนรุ่งรัตน์ ในฐานะกรรมการบริษัท และนายพินิจ รัตนจารุรักษ์ ในฐานะผู้ดูแลบริษัท ต่อ ปอศ. ในความผิดฐานประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ. สัญญาซื้อขายล่วงหน้าฯ ซึ่งมีโทษตามมาตรา 125 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน และสำหรับผู้ลงทุนที่ได้รับความเสียหายจากการลงทุนกับบริษัท มาสเตอร์ บิซิเนสฯ ขอให้แจ้งข้อมูลไปยัง ปอศ. หมายเลขโทรศัพท์ 0-2237-1199

 

อนึ่ง นายพินิจ รัตนจารุรักษ์ เคยถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษเมื่อเดือนธันวาคม 2553 ในความผิดฐานประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาตและฉ้อโกงประชาชน ในฐานะผู้จัดการทั่วไปของบริษัท คิวมี คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ/หรือ บริษัท ที. เอ็ม. บี. ลิสซิ่ง จำกัด

 

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2554 ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้มีคำพิพากษาให้ (1) บริษัท โอ. แอล. ที เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด (2) นายกิตติกร สิริเลิศสุวรรณ และ (3) นางวรุณรัตน์ สิริเลิศสุวรรณ มีความผิดตาม พ.ร.บ. สัญญาซื้อขายล่วงหน้า มาตรา 16 และมาตรา 125 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ฐานร่วมกันประกอบกิจการในลักษณะเป็นการประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (น้ำมันดิบ)โดยไม่ได้รับอนุญาต และโดยที่จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่ง คงให้ปรับบริษัท โอ. แอล. ที เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด เป็นเงิน 20,000 บาท นายกิตติกร สิริเลิศสุวรรณ และนางวรุณรัตน์ สิริเลิศสุวรรณ จำคุกเป็นเวลา 6 เดือน และปรับเป็นเงินคนละ 20,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี

 

นายวสันต์ เทียนหอม รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ขณะนี้มีบริษัทที่ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. มาชักชวนให้ผู้ลงทุนลงทุนในสัญญาที่มีสินค้าอ้างอิงต่าง ๆ เช่น ทองคำ น้ำมันดิบ เป็นต้น โดยมักชักชวนให้ลงทุนเริ่มแรกประมาณ 300,000 บาท และเสนอผลตอบแทนที่สูง เพื่อโน้มน้าวและเร่งรัดให้ผู้ลงทุนตัดสินใจโดยเร็ว รวมถึงมักจะอ้างว่าเป็นตัวแทนของโบรกเกอร์ต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลต่างประเทศแล้ว โดยหลอกว่าไม่จำเป็นต้องได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. อีก

 

หากผู้ลงทุนหลงเชื่อและโอนเงินให้แก่บริษัทไป บริษัทก็จะแสดงให้เห็นผลตอบแทนที่สูงในระยะแรก แต่จะไม่ยอมให้ถอนกำไรออก และเมื่อลงทุนต่อมาอีกระยะหนึ่งบริษัทก็จะแจ้งว่าลูกค้าขาดทุนต้องใส่เงินเพิ่ม หากไม่ใส่เพิ่มจะถอนเงินเก่าออกมาไม่ได้ ที่ผ่านมามีผู้ลงทุนได้รับความเสียหายแล้วหลายรายบางรายเสียหายถึงหลักล้านบาท และที่สำคัญบริษัทเหล่านี้ยังหลีกเลี่ยงกฎหมายโดยการเปลี่ยนชื่อบริษัทหรือย้ายสถานที่ทำการภายหลังจากที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษหรือเข้าตรวจค้น ผู้ลงทุนจึงต้องระมัดระวังไม่ลงทุนกับบริษัทที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. เหล่านี้”

 

ก.ล.ต. ขอย้ำให้ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำ โดยหากผู้ลงทุนต้องการได้ทองคำไว้ในครอบครองจริง ก็ควรจะซื้อขายกับร้านทองตู้แดง หรือซื้อขายกับบริษัทที่มีการส่งมอบทองคำจริง และหากผู้ลงทุนต้องการลงทุนในทองคำที่เป็นสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า ผู้ลงทุนควรจะลงทุนกับบริษัทที่ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ได้รับใบอนุญาตจาก “คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์” เท่านั้น โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตได้ที่ www.sec.or.th และหากพบการให้บริการที่สงสัยว่าจะกระทำโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ผู้ลงทุนแจ้งเบาะแสมายังศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สำนักงาน ก.ล.ต. โทร. 0-2263-6000 หรือ complain@sec.or.th และกรณีที่เป็นสินค้าเกษตรล่วงหน้า ขอให้ตรวจสอบข้อมูลได้จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) www.aftc.or.th

Share this post


Link to post
Share on other sites

ข่าว ก.ล.ต.

 

ฉบับที่ 90/2553

วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม 2553

 

ก.ล.ต. กล่าวโทษบริษัท คิวมี คอร์ปอเรชั่น จำกัด กับพวก ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และฉ้อโกงประชาชน

 

ก.ล.ต. กล่าวโทษบริษัท คิวมี คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท ทีเอ็มบี ลิสซิ่ง จำกัด รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องอีก 6 ราย ได้แก่ (1) นายศันต์ศรุติ จันทร์ฉาย หรือนายเดี่ยว หรือนายศิรวิชญ์ เหมราช หรือนายสมนึก โพธิ์ศรี (2) นายพินิจ รัตนจารุรัตน์ (3) นายชัยรัตน์ ฉันทภักดี (4) นายอดิศักดิ์ แดงโกเมน (5) นางประวีณา โสดาวงศ์ และ (6) นายวราคม หอมทวนลม ต่อกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ในกรณีการประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และฉ้อโกงประชาชน จนทำให้ผู้ลงทุนได้รับความเสียหายประมาณในเบื้องต้นจำนวน 13 ล้านบาท ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของ ก.ล.ต. ไม่พบว่าบริษัทมีความเกี่ยวข้องกับธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)

 

สืบเนื่องจากการที่ ก.ล.ต. เข้าตรวจค้นสถานประกอบการของบริษัท คิวมี คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ บริษัท ทีเอ็มบี ลิสซิ่ง จำกัด ซึ่งประกอบการอยู่ ณ อาคาร 253 ถนนสุขุมวิท 21 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ตามที่มีผู้แจ้งเบาะแสว่าบริษัทดังกล่าวประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต

 

จากพยานหลักฐานที่พบจากการตรวจค้นและที่รวบรวมได้เพิ่มเติมพบว่า ในช่วงเดือนสิงหาคม 2552 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2553 บริษัท คิวมีฯ และบริษัท ทีเอ็มบี ลิสซิ่งฯ ได้แสดงตนต่อบุคคลทั่วไปว่าเป็นตัวแทนซื้อขายทองคำล่วงหน้า โดยมีการติดต่อ ชักชวน ตลอดจนเผยแพร่ข้อมูลการลงทุน และวิธีการคำนวณผลตอบแทน ในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวบนเว็บไซต์ www.tmbleasing.co.th เพื่อให้ผู้ลงทุนเข้าใจว่า การซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดังกล่าวสามารถทำกำไรได้โดยง่าย โดยได้ทำเป็นทางการค้าและได้รับผลตอบแทน ซึ่งมีผู้ลงทุนหลายรายหลงเชื่อและเปิดบัญชีซื้อขายสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้ากับบริษัท คิวมีฯ และ บริษัท ทีเอ็มบี ลิสซิ่งฯ โดยบางรายหลงเชื่อมอบอำนาจให้พนักงานของบริษัทส่งคำสั่งซื้อขายแทนด้วย

 

การกระทำดังกล่าวข้างต้นเข้าข่ายเป็นการประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 อีกทั้งการประกอบธุรกิจของ บ.คิวมีฯ และ บ.ทีเอ็มบีฯ ยังมีลักษณะที่เข้าข่ายเป็นการฉ้อโกงประชาชนตามมาตรา 343 แห่งประมวลกฎหมายอาญา กล่าวคือ มีการหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ และได้ไปซึ่งทรัพย์สินของผู้ลงทุนที่หลงเชื่อ โดยการอ้างว่าบริษัทเป็นตัวแทนของบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งซึ่งไม่ได้เป็นตัวแทนจริง และมีการสร้างภาพความเชื่อมั่นของบริษัทด้วยการใช้ชื่อที่คล้ายกับชื่อย่อของธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ซึ่งแท้ที่จริงไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย และแสดงทุนจดทะเบียนสูงถึง 20,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้บริหารรายหนึ่งของบริษัทดังกล่าวถือบัตรประจำตัวประชาชนหลายใบภายใต้ชื่อต่าง ๆ กัน และใช้ในการติดต่อธุรกิจหรือทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับกิจการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวด้วย ก.ล.ต. จึงได้ดำเนินการกล่าวโทษบริษัท คิวมีฯ และ บริษัท ทีเอ็มบี ลิสซิ่งฯ รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อ ปอศ. เพื่อสอบสวนดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ ผู้ลงทุนรายใดที่ได้รับความเสียหายจากการลงทุนกับบริษัท คิวมีฯ และบริษัท ทีเอ็มบี ลิสซิ่งฯ โปรดแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมไปยัง ปอศ. ที่โทรศัพท์หมายเลข 0-2237-1199

 

ก.ล.ต. ขอเตือนว่า ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ขอให้เลือกลงทุนเฉพาะกับบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตได้ที่เว็บไซต์ของ ก.ล.ต. “www.sec.or.th” หรือหากเป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงสินค้าเกษตร ขอให้ตรวจสอบรายชื่อที่เว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) www.aftc.or.th และหากได้รับการติดต่อชักชวนจากบุคคลที่สงสัยว่าไม่ได้รับอนุญาต โปรดแจ้งเบาะแสมายังศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ก.ล.ต. โทร. 0-2263-6000 หรือ complain@sec.or.th หรือ ก.ส.ล. ที่ enforcement@aftc.or.th เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป

Share this post


Link to post
Share on other sites

ข่าว ก.ล.ต.

 

ฉบับที่ 43/2553

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน 2553

 

ก.ล.ต. กล่าวโทษบริษัท 4 แห่ง และบุคคลที่เกี่ยวข้อง 13 ราย ฐานประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต

 

 

เมื่อวานนี้ (วันที่ 23 มิถุนายน 2553) ก.ล.ต. ได้ดำเนินการกล่าวโทษบริษัท ซี.เอ็น.บี.ซี. (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ที.เอ็น.เอ็น. (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท จี.แอล.อี. (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอ.แอล.ที.ไอ. จำกัด และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจของบริษัท รวม 13 ราย ได้แก่ นายศักดา ปันนิตามัย (หรือ ขวัญ/สา/แพท) นายชูเกียรติ ปันนิตามัย (หรือ ต๋อง/แคท) นางสาววรรัตน์ จันทร์โอกุล (หรือ รัตน์/รินทร์/แอ๊ด) นางสาวทัศนีย์ สมทอง (หรือ กี้/อิ่ม) นางสาวกนกวรรณ นาคบาตร์ (หรือ เพ็ญพัชมน/พัชมน พรรณาราย) นางสาวจันทร์จิรา แก่นแสนดี นางสาวณัฐฐา สินธุวานิช นางสาวพลอยนัชชา ทิพย์จิรโรจน์ นายณัฐพงษ์ เอกพันธุ์ นายพิษณุ บุญอาจ นางสาวมนัสนันท์ ปิยพงพันธุ์ นางสาวอินทิรา สืบสังข์ และนางสาวสุภารักษ์ รักษาศรี ในข้อหาประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากการติดต่อชักชวนของบุคคลเหล่านี้ ให้แจ้งไปยังกองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่โทรศัพท์ 0-2513-1273 เพื่อให้ดำเนินการกับผู้กระทำผิดต่อไป

 

สืบเนื่องจากมีประชาชนเข้าแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจว่า บริษัท ซี.เอ็น.บี.ซี. (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่อาคารกมลสุโกศล ชั้นที่ 13 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและทำการชักชวนประชาชนให้ซื้อขายสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า ทำให้ประชาชนที่หลงเชื่อได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวนมาก ซึ่งกรณีดังกล่าวตรงกับข้อร้องเรียนที่ ก.ล.ต. ได้รับ ดังนั้น เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2553 ก.ล.ต. จึงร่วมกับเจ้าพนักงานตำรวจกองบังคับการปราบปรามเข้าตรวจค้นบริษัทตามที่มีผู้แจ้งความ

 

จากการตรวจค้น พบเอกสารชักชวนให้ซื้อขายสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่ได้รับการติดต่อให้ซื้อขาย และเอกสารเกี่ยวกับการซื้อขายของลูกค้า ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน ประกอบกับข้อมูลการร้องเรียนและการสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องพบว่า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2552 เป็นต้นมา บริษัท ซี.เอ็น.บี.ซี. (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ที.เอ็น.เอ็น. (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท จี.แอล.อี. (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เอ.แอล.ที.ไอ. จำกัด ได้แสดงตนต่อประชาชนทั่วไปว่าเป็นตัวแทนซื้อขายทองคำล่วงหน้าของบริษัทโบรกเกอร์ต่างประเทศ และทำการติดต่อชักชวนประชาชนให้เข้าใจว่าการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดังกล่าวสามารถทำกำไรได้โดยง่าย โดยให้เปิดบัญชีผ่านทางเว็บไซต์ www.sunnybullion.com www.winwoodgroup.com www.thaipalmgold.com และ/หรือ www.bullionhk.com จนมีผู้หลงเชื่อหลายรายโอนเงินให้ ทำให้ผู้ที่หลงเชื่อได้รับความเสียหายรวมกว่า 100 ล้านบาท

 

การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดฐานประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 ซึ่งมีโทษตามมาตรา 125 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน ก.ล.ต. จึงได้กล่าวโทษบริษัททั้งสี่แห่งและบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้ง 13 ราย ต่อกองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

นอกจากนี้ ในการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนายชูเกียรติ ปันนิตามัย และนางสาวกนกวรรณ นาคบาตร์ ด้วย เนื่องจากบุคคลทั้งสองเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญารัชดา ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และนายศักดา ปันนิตามัย เคยถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษฐานประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกับบริษัทโกรว์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด

 

อนึ่ง ประชาชนที่สนใจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ขอให้เลือกลงทุนเฉพาะกับบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตได้ที่เว็บไซต์ของ ก.ล.ต. www.sec.or.th หรือกรณีที่อ้างอิงสินค้าเกษตร ขอให้ตรวจสอบรายชื่อที่เว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) www.aftc.or.th และหากได้รับการติดต่อชักชวนจากบุคคลที่สงสัยว่าไม่ได้รับใบอนุญาต โปรดแจ้งเบาะแสมายังศูนย์รับเรื่องร้องเรียนของ ก.ล.ต. ที่โทรศัพท์ 0-2263-6000 หรือ complain@sec.or.th หรือ ก.ส.ล. ที่ enforcement@aftc.or.th เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป

Share this post


Link to post
Share on other sites

ข่าว ก.ล.ต.

 

ฉบับที่ 108/2552

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม 2552

 

ก.ล.ต. กล่าวโทษเพิ่มเติมบริษัทและบุคคลที่ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

 

ก.ล.ต. กล่าวโทษบุคคลเพิ่มเติมที่ร่วมกับบริษัท หวาง ลี่ โกลบอล มาร์เก็ต จำกัด บริษัทกลอรี่ พรอสเพอริตี้ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เวิลด์ เทรดดิ้ง พรอสเพอริตี้ จำกัด บริษัท WSD Financial (NZ) Ltd., และบริษัท ดับเบิ้ลยู เอส ดี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และกล่าวโทษบริษัทกับพวกในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนด้วย

 

สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษบริษัท หวาง ลี่ โกลบอล มาร์เก็ต จำกัด บริษัทกลอรี่ พรอสเพอริตี้ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เวิลด์ เทรดดิ้ง พรอสเพอริตี้ จำกัด บริษัท WSD Financial (NZ) Ltd. บริษัท ดับเบิ้ลยู เอส ดี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด นางสาวเกศวรางค์ สวัสดิ์พันธ์ และนายสุวัฒน์ เอื้ออักษร ต่อกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ในความผิดฐานร่วมกันประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2552 นั้น

 

จากการตรวจสอบเพิ่มเติม ก.ล.ต. พบบุคคลอีกจำนวนหนึ่งที่ร่วมกับบริษัทที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษไปแล้วข้างต้น ในการประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และยังพบอีกว่าบริษัทและบุคคลดังกล่าว มีพฤติการณ์ในลักษณะหลอกลวงผู้อื่น โดยบริษัทได้แจ้งต่อผู้ลงทุนว่าเป็นตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเป็นข้อความอันเป็นเท็จและทำให้บริษัทได้ทรัพย์สินของผู้ถูกหลอกลวงไป เข้าข่ายเป็นการฉ้อโกงประชาชนตามมาตรา 343 แห่งประมวลกฎหมายอาญาด้วย

 

ก.ล.ต. จึงได้กล่าวโทษบุคคลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจของบริษัททั้งห้าบริษัท จำนวน 11 ราย ได้แก่ นายริอาซ พาเทล (สัญชาตินิวซีแลนด์) นายอับดุล ราชิด นายกฤษฏ์ ตะวังทัน นายชูเกียรติ แสนจิว นายจอห์น ลิว (สัญชาติสหรัฐอเมริกา) นายปีเตอร์ วู (ไม่ทราบสัญชาติ) นาย เอดัวร์ ทูริ (สัญชาติฝรั่งเศส) นายวุฒิชัย วิสูตรานุกูล นายศิริพงศ์ โสดา นายวสันต์ เขียวขาว และนายสุรพงษ์ จันทร์กระจ่าง ในความผิดฐานประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 โดยมีโทษตามมาตรา 125 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน กล่าวคือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับไม่เกินอีกวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน และฐานฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

นอกจากนี้ ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษบริษัท หวาง ลี่ โกลบอล มาร์เก็ต จำกัด บริษัทกลอรี่ พรอสเพอริตี้ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เวิลด์ เทรดดิ้ง พรอสเพอริตี้ จำกัด บริษัท WSD Financial (NZ) Ltd., บริษัท ดับเบิ้ลยู เอส ดี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด นางสาวเกศวรางค์ สวัสดิ์พันธ์ และนายสุวัฒน์ เอื้ออักษร เพิ่มเติมในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน พร้อมทั้งส่งมอบพยานหลักฐานให้แก่ ปอศ. ในวันที่ 14 ธันวาคม 2552 เพื่อสอบสวนดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวต่อไป และขอให้ผู้ลงทุนที่ได้รับความเสียหายจากการลงทุนกับบริษัทข้างต้น แจ้งข้อมูลไปยัง ปอศ. ด้วย ที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2237-1199

 

อนึ่ง ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ขอให้เลือกลงทุนเฉพาะกับบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. www.sec.or.th หรือกรณีที่อ้างอิงสินค้าเกษตร ขอให้ตรวจสอบรายชื่อที่เว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) www.aftc.or.th และหากได้รับการติดต่อชักชวนจากบุคคลที่สงสัยว่าไม่ได้รับอนุญาต โปรดแจ้งเบาะแสมายังศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สำนักงาน ก.ล.ต. โทร. 0-2263-6000 หรือ complain@sec.or.thหรือ ก.ส.ล. ที่ enforcement@aftc.or.th

Share this post


Link to post
Share on other sites

ข่าว ก.ล.ต.

 

ฉบับที่ 105/2552

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม 2552

 

ก.ล.ต. กล่าวโทษบริษัท โกรว์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ฐานประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และฉ้อโกงประชาชน

 

ก.ล.ต. กล่าวโทษบริษัทโกรว์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ผู้บริหาร รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้าทีมการตลาดขึ้นไป เมื่อวันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม 2552 รวม 4 ราย ได้แก่ นายกฤษณะ สุขประเสริฐ นายกรชัย ศิริพงษ์ไพโรจน์ นายศักดา ปันนิตามัย และนายสาโรจน์ กล่ำแสง ในการประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งมีน้ำมันดิบ และ/หรือ ทองคำ เป็นสินค้าอ้างอิง โดยที่ไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในประเทศไทย และทำให้ประชาชนที่หลงเชื่อได้รับความเสียหายรวมประมาณ 23.98 ล้านบาท

 

ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากประชาชนที่ได้รับการติดต่อชักชวนจากพนักงานของบริษัทดังกล่าว จึงตรวจสอบ เอกสารหลักฐานและสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้อง พบว่าในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ถึงเดือนสิงหาคม 2552 บริษัทโกรว์ฯ ได้แสดงตนต่อบุคคลทั่วไปว่า เป็นตัวแทนให้บริการส่งคำสั่งซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของบริษัทโบรกเกอร์ต่างประเทศ ซึ่งมีน้ำมันดิบและ/หรือทองคำเป็นสินค้าอ้างอิง โดยชักชวนผู้ลงทุนให้เข้าใจว่าการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดังกล่าวสามารถทำกำไรได้โดยง่าย จนมีผู้หลงเชื่อหลายรายที่ได้โอนเงินไปยังบริษัท แต่ไม่ปรากฏว่าบริษัทได้นำเงินไปลงทุนตามที่แจ้งไว้ต่อผู้ลงทุน นอกจากนี้ยังมีการชักชวนให้ผู้ลงทุนมอบอำนาจให้พนักงานของบริษัทสามารถส่งคำสั่งซื้อขายแทนผู้ลงทุนด้วย

 

การประกอบธุรกิจของบริษัทกับพวก เข้าข่ายเป็นความผิดฐานประกอบธุรกิจล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 และมีโทษตามมาตรา 125 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมในลักษณะเข้าข่ายเป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามมาตรา 343 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่ง ก.ล.ต. จะส่งมอบพยานหลักฐานให้แก่กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) เพื่อสอบสวนดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวต่อไป จึงขอให้ผู้ลงทุนที่ได้รับความเสียหายจากการลงทุนกับบริษัทโกรว์ฯ แจ้งข้อมูลไปยัง ปอศ. ด้วย (ติดต่อที่โทรศัพท์ 0-2237-1199 )

 

ประชาชนที่สนใจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ขอให้เลือกลงทุนเฉพาะกับบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตได้ที่เว็บไซต์ของ ก.ล.ต. www.sec.or.th หรือกรณีที่อ้างอิงสินค้าเกษตร ขอให้ตรวจสอบรายชื่อที่เว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.)www.aftc.or.th และหากได้รับการติดต่อชักชวนจากบุคคลที่สงสัยว่าไม่ได้รับอนุญาต โปรดแจ้งเบาะแส มายังศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ก.ล.ต. โทร. 0-2263-6000 หรือ complain@sec.or.th หรือ ก.ส.ล. ที่ enforcement@aftc.or.th เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป

Share this post


Link to post
Share on other sites

ข่าว ก.ล.ต.

 

ฉบับที่ 54/2552

วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน 2552

 

ก.ล.ต. กล่าวโทษบริษัทหวาง ลี่ โกลบอล มาร์เก็ต จำกัด บริษัทกลอรี่ พรอสเพอริตี้ (ประเทศไทย) จำกัดบริษัทเวิลด์ เทรดดิ้ง พรอสเพอริตี้ จำกัด บริษัท ดับเบิ้ลยู เอส ดี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท WSD Financial (NZ) Ltd. ฐานประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต

 

 

สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. ได้รับแจ้งเบาะแสว่า พนักงานของบริษัทหวาง ลี่ โกลบอล มาร์เก็ต จำกัด บริษัทกลอรี่ พรอสเพอริตี้ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทเวิลด์ เทรดดิ้ง พรอสเพอริตี้ จำกัด ร่วมกับพนักงานของบริษัทดับเบิ้ลยู เอส ดี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท WSD Financial (NZ) Ltd. ทำการติดต่อชักชวนบุคคลทั่วไปให้ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในน้ำมันดิบ ทองคำ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยอ้างว่าเป็นสาขาของโบรกเกอร์ในประเทศฮ่องกงและนิวซีแลนด์ ดังนั้น ในวันนี้ (วันที่ 25 มิถุนายน 2552) ก.ล.ต. จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (ปศท.) เข้าตรวจค้นสถานประกอบการของบริษัทดังกล่าว ดังนี้ (1) เลขที่ 33/107 ชั้น 21 อาคารวอลล์สตรีททาวเวอร์ ถ. สุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ (2) เลขที่ 33/54 ชั้น 12 อาคารวอลล์สตรีททาวเวอร์ ถ. สุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ (3) เลขที่ 33/56 ชั้น 12 อาคารวอลล์สตรีททาวเวอร์ ถ. สุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ (4) เลขที่ 87/2 ชั้น 36 อาคารซีอาร์ซี ออลซีซั่น เพลส ถ. วิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ และ (5) เลขที่ 125/13 ซ.ร่วมฤดี 4 ถ. เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

 

จากการตรวจค้น พบเอกสารและหลักฐานที่เชื่อได้ว่าบริษัทดังกล่าวได้ชักชวนให้บุคคลทั่วไปเข้ามาลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าซึ่งอ้างอิงกับน้ำมันดิบ ทองคำ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และบริษัทได้รับผลตอบแทนส่วนหนึ่งจากค่าธรรมเนียมในการซื้อขายของลูกค้า

 

การกระทำข้างต้นเข้าข่ายเป็นการประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นทางค้าปกติโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งฝ่าฝืนมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 และเป็นผลให้มีผู้หลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของบริษัทและบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวนหนึ่ง จนได้รับความเสียหายในเวลาต่อมา

 

อนึ่งการที่บริษัท ดับเบิ้ลยู เอส ดีฯ และบริษัท WSD Financial (NZ) Ltd. ได้กล่าวอ้างกับบุคคลทั่วไปว่าได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ให้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในประเทศไทยนั้น ในความเป็นจริงบริษัท WSD Financial (NZ) Ltd. ได้รับการจดทะเบียนเป็นผู้ค้าสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจาก ก.ล.ต. โดยจำกัดขอบเขตเฉพาะให้บริการแก่ลูกค้าสถาบันเท่านั้น ดังนั้นการติดต่อชักชวนบุคคลทั่วไปให้ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า จึงเป็นการกระทำการโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

ก.ล.ต. จึงได้กล่าวโทษบริษัททั้งห้าข้างต้นต่อ ปศท. รวมทั้งขอให้ ปศท. พิจารณาว่าการประกอบธุรกิจของบริษัทมีลักษณะเป็นการฉ้อโกงประชาชนด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ หากผู้ใดได้รับความเสียหายจากการลงทุนกับบริษัทเหล่านี้สามารถแจ้งข้อมูลความเสียหายให้แก่ ปศท. เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป (ติดต่อที่โทรศัพท์ 0-2237-1199)

 

ก.ล.ต. ขอย้ำเตือนผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าว่า ขอให้เลือกลงทุนเฉพาะกับบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตและขอบเขตการประกอบธุรกิจตามที่ได้รับใบอนุญาตหรือจดทะเบียนได้จากเว็บไซต์ของ ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และหากได้รับการติดต่อชักชวนจากบุคคลที่สงสัยว่าไม่ได้รับอนุญาต โปรดแจ้งเบาะแสมายังศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ก.ล.ต. โทร. 0-2263-6000 หรือ complain@sec.or.th

Share this post


Link to post
Share on other sites

ข่าว ก.ล.ต.

 

ฉบับที่ 43/2552

วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม 2552

 

ศาลพิพากษาลงโทษผู้กระทำผิด 7 ราย กรณีประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต

 

ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาจำคุกและปรับผู้กระทำผิดรวม 7 ราย กรณีประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ภายใต้ชื่อบริษัท กลอรี่ บูลเลี่ยน (ไทยแลนด์) จำกัด

 

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2551 สำนักงาน ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษผู้กระทำผิดจำนวน 7 ราย ได้แก่ (1) บริษัท กลอรี่ บูลเลี่ยน (ไทยแลนด์) จำกัด (2) นายธนพล แสงรังสี (3) นายธนิต เตยทอง (4) นายคัม ยู บุน หรือนายแจ๊ค หรือแจ๊คเคิล (5) นายธรรมรัตน์ ต่ายคำ (6) นายวัฒนะ ทรงธนศักดิ์ และ (7) นายอภิชัย เดชธนธรรม กรณีร่วมกันประกอบธุรกิจเป็นตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 (“พ.ร.บ. สัญญาซื้อขายล่วงหน้าฯ”) ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2552 ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้มีคำพิพากษาว่า จำเลยทั้งเจ็ดมีความผิดตาม พ.ร.บ. สัญญาซื้อขายล่วงหน้าฯ มาตรา 16 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 ฐานร่วมกันประกอบกิจการในลักษณะเป็นการประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และกรณีนายคัม ยู บุน มีความผิดตาม พ.ร.บ. การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 มาตรา 9 และ พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. 2552 มาตรา 37 และ 75 ด้วย และโดยที่จำเลยทั้งเจ็ดให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่ง คงให้ปรับ บริษัท กลอรี่ บูลเลี่ยน (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นเงิน 74,300 บาท นายธนพล แสงรังสี นายธนิต เตยทอง นายธรรมรัตน์ ต่ายคำ นายวัฒนะ ทรงธนศักดิ์ และนายอภิชัย เดชธนธรรม จำคุกเป็นเวลา 3 เดือน และปรับเป็นเงินคนละ 74,300 บาท ส่วนนายคัม ยู บุน จำคุกเป็นเวลา 6 เดือน และปรับเป็นเงิน 79,300 บาท โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี

Share this post


Link to post
Share on other sites

ข่าว ก.ล.ต.

 

ฉบับที่ 57/2551

วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม 2551

 

 

ก.ล.ต. ตรวจค้นบริษัท โอ.แอล.ที เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด ฐานประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นแห่งที่ 4 ของปีนี้

 

สำนักงาน ก.ล.ต. ตรวจค้นและกล่าวโทษบริษัท โอ.แอล.ที เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด ฐานประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับ

ใบอนุญาต ซึ่งเป็นภารกิจหนึ่งของสำนักงาน ก.ล.ต. ในการปราบปรามการประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมาย พร้อมทั้งเตือนให้ผู้ลงทุน

ตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจกับสำนักงาน ก.ล.ต. ก่อนตัดสินใจลงทุน

 

สืบเนื่องจากสำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับแจ้งเบาะแสว่า พนักงานของบริษัท โอ.แอล.ที เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด ทำการติดต่อชักชวนบุคคลทั่วไป

ให้ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในน้ำมันดิบ โดยที่บริษัท โอ.แอล.ทีฯ ไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าวในประเทศไทย ดังนั้น

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2551 สำนักงาน ก.ล.ต. จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (ปศท.)

เจ้าหน้าที่สำนักตรวจสอบภาษีกลาง กรมสรรพากร และเจ้าหน้าที่กลุ่มป้องปรามการเงินนอกระบบ กระทรวงการคลัง เข้าตรวจค้นที่ทำการ

ของบริษัทดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 31/74 ซอยรัชดาภิเษก 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พบเอกสารและหลักฐานการชักชวน

ผู้ลงทุน และข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่ได้รับการติดต่อให้ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยบริษัทไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังพบว่าเจ้าของบริษัท โอ.แอล.ทีฯ และพนักงานบางส่วน เคยทำงานในบริษัท เบสท์ พอยท์ แอซโซซิเอท จำกัด และบริษัท

วิคเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในลักษณะเดียวกันนี้และถูกสำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวโทษ

ต่อ ปศท. แล้ว

 

สำหรับกรณีบริษัท โอ.แอล.ที ฯ สำนักงาน ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษบริษัทและบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อ ปศท. เนื่องจากพบการประกอบธุรกิจสัญญา

ซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 โดยมีบทกำหนดโทษ

ตามมาตรา 125 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลา

ที่ยังฝ่าฝืน ทั้งนี้ ขอให้ผู้ลงทุนที่ได้รับความเสียหายจากการลงทุนกับบริษัท โอ.แอล.ทีฯ แจ้งข้อมูลมาที่สำนักงาน ก.ล.ต. ที่หมายเลขโทรศัพท์

0-2263-6000

 

อนึ่ง ที่ผ่านมาสำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการทำธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในน้ำมันดิบ ทองคำ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา

ต่างประเทศ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นจำนวนมาก และพบว่านักลงทุนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า บริษัทที่จัดตั้งเป็นนิติบุคคลและจดทะเบียนกับ

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เป็นบริษัทที่สามารถประกอบธุรกิจดังกล่าวได้อย่างถูกต้อง ทั้งที่การประกอบธุรกิจดังกล่าว

ต้องได้รับอนุญาตจาก สำนักงาน ก.ล.ต. ด้วย โดยบริษัทที่จะได้รับอนุญาตจะต้องมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด

 

สำนักงาน ก.ล.ต. จึงขอเตือนผู้ลงทุนที่มีความสนใจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือลงทุนในหลักทรัพย์อื่น ๆ ควรเลือกใช้บริการ

เฉพาะกับบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. เท่านั้นโดยสามารถตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตได้ที่ www.sec.or.th

และกรณีที่เป็นสินค้าเกษตรล่วงหน้า ผู้ลงทุนควรตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้า

เกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) ที่ www.aftc.or.th เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายภายใต้การกำกับดูแลของทางการ

และหากพบการให้บริการที่สงสัยว่าจะกระทำโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ผู้ลงทุนแจ้งเบาะแสมายังสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ complain@sec.or.th

หรือ ก.ส.ล. ที่ enforcement@aftc.or.th เพื่อการดำเนินการตรวจสอบต่อไป

Share this post


Link to post
Share on other sites

ข่าว ก.ล.ต.

ฉบับที่ 53/2551

วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน 2551

 

ก.ล.ต. เข้าตรวจค้นและกล่าวโทษบริษัท กลอรี่ บูลเลี่ยน (ไทยแลนด์) จำกัด ฐานประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต

ด้วยสำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับแจ้งเบาะแสว่า บริษัท กลอรี่ บูลเลี่ยน (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ชักชวนให้ประชาชนเข้าลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในน้ำมันดิบ ทองคำ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ล่วงหน้า กับบริษัท โดยบริษัทไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2551 สำนักงาน ก.ล.ต. จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (ปศท.) เข้าตรวจค้นสถานประกอบการของบริษัท กลอรี่ บูลเลี่ยน (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 889 อาคารไทย ซี ซี ทาวเวอร์ ชั้นที่ 12 ห้องเลขที่ 124 ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร พบเอกสารและหลักฐานที่เชื่อได้ว่า บริษัทได้ชักชวนให้บุคคลทั่วไป เข้ามาลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าซึ่งอ้างอิงกับน้ำมันดิบ ทองคำ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยอ้างว่าเป็นสาขาของโบรกเกอร์ในฮ่องกง และบริษัทได้รับผลตอบแทนส่วนหนึ่งจากค่าธรรมเนียมในการซื้อขายของลูกค้า

การกระทำข้างต้น เข้าข่ายเป็นการประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นทางค้าปกติ โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งฝ่าฝืนมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 และเป็นผลให้มีผู้ที่หลงเชื่อได้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของบริษัทจำนวนหนึ่ง จนได้รับความเสียหายในเวลาต่อมา

สำนักงาน ก.ล.ต. จึงได้กล่าวโทษบริษัทกลอรี่ บูลเลี่ยนฯ รวมทั้งผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่อ ปศท. รวมทั้งขอให้ ปศท. พิจารณาว่า การประกอบธุรกิจของบริษัท มีลักษณะเป็นการฉ้อโกงประชาชนด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ หากผู้ใดได้รับความเสียหายจากการเข้าลงทุนกับบริษัทนี้ สามารถแจ้งข้อมูลความเสียหายให้แก่ ปศท. เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป (ติดต่อที่โทรศัพท์ 0-2237-1199)

อนึ่ง ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ขอให้เลือกลงทุนเฉพาะกับบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. www.sec.or.th หรือกรณีที่อ้างอิงสินค้าเกษตร ขอให้ตรวจสอบรายชื่อที่เว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) www.aftc.or.th และหากได้รับการติดต่อชักชวนจากบุคคลที่สงสัยว่าไม่ได้รับอนุญาต โปรดแจ้งเบาะแสมายังศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สำนักงาน ก.ล.ต. โทร. 0-2263-6000 หรือ complain@sec.or.thหรือ ก.ส.ล. ที่ enforcement@aftc.or.th

Share this post


Link to post
Share on other sites

ข่าว ก.ล.ต.

 

ฉบับที่ 39/2551

 

 

วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน 2551

 

 

ก.ล.ต. กล่าวโทษ บริษัท ที เอช เค เทรดดิ้ง จำกัด กับพวก กรณีประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2551 สำนักงาน ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษต่อกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินคดีกับบริษัท ที เอช เค เทรดดิ้ง จำกัด และเจ้าของบริษัท ผู้บริหาร ตลอดจนเจ้าหน้าที่ในระดับหัวหน้าทีมการตลาดขึ้นไป รวม 10 ราย กรณีร่วมกันประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และมีพฤติกรรมฉ้อโกงประชาชน

 

สืบเนื่องจากสำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับการร้องเรียนจากผู้ลงทุนว่า ได้ถูกบริษัท ที เอช เค เทรดดิ้ง จำกัด (ชื่อเดิมว่า บริษัท ไทยพัฒนาโภคภัณฑ์ จำกัด)

ชักชวนให้ลงทุนในน้ำมันดิบล่วงหน้าในตลาดต่างประเทศ ทำให้ได้รับความเสียหาย พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจค้นสถานที่ประกอบการเลขที่ 3332 อาคารวิวัฒน์ชัย ชั้น 5 B ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ และตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ในช่วงเดือนกันยายน 2550 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2551 บริษัท ที เอช เค เทรดดิ้ง จำกัด ได้แสดงตนต่อบุคคลทั่วไปว่า เป็นตัวแทนซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าในตลาดต่างประเทศ และได้โทรศัพท์ไปชักชวนบุคคลทั่วไปให้ร่วมลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจนมีผู้หลงเชื่อหลายรายได้โอนเงินเข้าร่วมลงทุน แต่บริษัท ที เอช เค เทรดดิ้ง จำกัด มิได้นำเงินไปลงทุนตามที่แสดงไว้ต่อผู้ลงทุนแต่อย่างใด ซึ่งมีผลให้ผู้ที่หลงเชื่อได้รับความเสียหายรวมประมาณ 30 ล้านบาท

 

สำนักงาน ก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่า การแสดงตนว่าประกอบธุรกิจเป็นตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าข้างต้น กระทำโดยมิได้รับอนุญาต เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 นอกจากนั้น ยังปรากฏพฤติการณ์ในลักษณะเข้าข่ายเป็นการฉ้อโกงประชาชนตามมาตรา 343 แห่งประมวลกฎหมายอาญาด้วย

 

สำนักงาน ก.ล.ต. จึงได้ดำเนินการกล่าวโทษ บริษัท ที เอช เค เทรดดิ้ง จำกัด และเจ้าของบริษัท ผู้บริหาร ตลอดจนเจ้าหน้าที่ในระดับหัวหน้าทีมการตลาดขึ้นไป รวม 10 ราย ได้แก่ นายพุฒิธร วงศ์ปรากฏ นางสาวธัญรัศม์ กฤตย์ชัยวัฒน์ นายอนุศักดิ์ ทองอุบล (หรือนายวิษณุ รัตนหิรัญ) นายกิตติพงษ์ สุทธิผล นายชนิต เนื่องกันยา นายเลิศศักดิ์ ชูทรัพย์ นายสุรินทร์ พงษ์พันธ์ นายปรัชญา น้อยฤทธิ์ นายฐานันตร์ กิจสิริสัญชัย และนางนันท์นภัส พิพัฒน์นราพร ในข้อหาดังกล่าวต่อพนักงานสอบสวน เพื่อสอบสวนดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวต่อไป และขอให้ผู้ลงทุนที่ได้รับความเสียหายจากการลงทุนกับบริษัท ที เอช เค เทรดดิ้ง จำกัด แจ้งข้อมูลได้ที่กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย

 

อนึ่ง ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ขอให้เลือกลงทุนเฉพาะกับบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตได้ที่ www.sec.or.th ของสำนักงาน ก.ล.ต. หรือกรณีที่เป็นสินค้าเกษตรล่วงหน้า ให้ตรวจสอบที่ www.aftc.or.th ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) หากพบการให้บริการที่สงสัยว่าจะกระทำโดยไม่ได้รับอนุญาต โปรดแจ้งเบาะแสมายังสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน โทร. 0-2263-6000 หรือ complain@sec.or.th หรือ ก.ส.ล. ที่ enforcement@aftc.or.th เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป

Share this post


Link to post
Share on other sites

ข่าว ก.ล.ต.

 

ฉบับที่ 20/2551

วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม 2551

 

ก.ล.ต. ตรวจค้นบริษัทที่น่าสงสัยว่าประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต

สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. ได้รับแจ้งเบาะแสว่า พนักงานของบริษัทวิคเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ได้ติดต่อชักชวนประชาชนให้ซื้อขายสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า โดยที่บริษัทดังกล่าวไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในประเทศไทย

 

ก.ล.ต. จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร เข้าตรวจค้นที่ทำการของบริษัทวิคเตอร์ฯ ตั้งอยู่เลขที่ 53/3 ซอยวิภาวดี 20 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 19มีนาคม 2551 ซึ่งเป็นที่ตั้งเดียวกับบริษัทเบสท์ พอยท์ แอสโซซิแอท จำกัด ที่ ก.ล.ต. ได้เข้าตรวจค้นก่อนหน้านี้ และขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการทางกฎหมาย

 

จากการเข้าตรวจค้นบริษัทวิคเตอร์ฯ ก.ล.ต. พบเอกสารการชักชวนให้ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่ได้รับการติดต่อให้ซื้อขาย ซึ่ง ก.ล.ต. ได้รวบรวมไว้และจะทำการตรวจสอบ รวมทั้งสอบถ้อยคำบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

ทั้งนี้ การประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 มีบทกำหนดโทษตามมาตรา 125 กล่าวคือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่ง หมื่นบาทตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืน

Share this post


Link to post
Share on other sites

ข่าว ก.ล.ต.

ฉบับที่ 12/2551

วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551

 

ก.ล.ต. ตรวจค้นบริษัทที่น่าสงสัยว่าจะประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเถื่อน

 

ก.ล.ต. ตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยว่าอาจมีการประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต เพื่อปราบปรามการประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมาย พร้อมเตือนผู้ลงทุนตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจกับ ก.ล.ต. ก่อนตัดสินใจลงทุน

 

สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. ได้รับการร้องเรียนว่า พนักงานของบริษัท ที.เอช.เค. เทรดดิ้ง จำกัด (เดิมชื่อบริษัทไทยพัฒนาโภคภัณฑ์ จำกัด) ได้ติดต่อชักชวนบุคคลทั่วไปให้ซื้อขายสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า โดยที่บริษัทไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในประเทศไทย

 

ก.ล.ต. จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน เข้าตรวจค้นที่ทำการของบริษัทดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 3332 อาคารวิวัฒน์ชัย ชั้น 5B ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2551 ที่ผ่านมา

 

จากการเข้าตรวจค้น ก.ล.ต. พบเอกสารการชักชวนให้ซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่ได้รับการติดต่อให้ซื้อขาย ตลอดจนเอกสารเกี่ยวกับการซื้อขายของลูกค้า ซึ่ง ก.ล.ต. จะตรวจสอบเอกสารและข้อมูลดังกล่าว รวมทั้งสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

ทั้งนี้ การประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 มีบทกำหนดโทษตามมาตรา 125 กล่าวคือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน

 

นายประสงค์ วินัยแพทย์ รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ในระยะนี้ ก.ล.ต. ได้รับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการทำธุรกิจซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นจำนวนมาก และพบว่าบริษัทเหล่านี้

 

 

มักจะอ้างหลักฐานการจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ให้ผู้ลงทุนและพนักงานเข้าใจว่า บริษัทประกอบธุรกิจโดยถูกต้องตามกฎหมาย โดยลูกค้าและพนักงานไม่ทราบว่าลักษณะธุรกิจดังกล่าวเข้าข่ายเป็นธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ต้องได้รับใบอนุญาตต่างหากจากการจดทะเบียนบริษัทด้วย และในการชักชวนลูกค้า ก็มักอ้างอิงราคาน้ำมันกับเว็บไซต์ต่างประเทศ และอ้างตัวเองเป็นซับโบรกเกอร์ของโบรกเกอร์ต่างประเทศ ทั้งที่โดยข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่ามีการนำเงินไปลงทุนต่างประเทศแต่อย่างใด นอกจากนี้ ในบางกรณียังพบว่า เงินที่ผู้ลงทุนโอนไปให้จะถูกโยกย้ายไปยังบัญชีอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งในเวลาต่อมา ผู้ลงทุนเหล่านี้จะได้รับแจ้งว่าเงินที่โอนไปเพื่อลงทุนนั้นขาดทุนไปหมดแล้ว การกระทำในลักษณะดังกล่าวจึงอาจเข้าข่ายเป็นการฉ้อโกงประชาชนด้วย”

 

พร้อมนี้ นายประสงค์ ได้กล่าวเตือนประชาชนว่า “ก่อนที่จะเข้าไปลงทุนหรือเข้าทำงานกับบริษัทที่ประกอบธุรกิจประเภทตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ควรเลือกใช้บริการ หรือเข้าทำงานกับผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. เท่านั้น โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตได้ที่ www.sec.or.th และในกรณีที่เป็นสินค้าเกษตรล่วงหน้า ผู้ลงทุนควรตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) ทาง www.aftc.or.thและขอเตือนผู้ประกอบธุรกิจในลักษณะดังกล่าวให้มาขออนุญาตจาก ก.ล.ต. หรือ ก.ส.ล. ให้ถูกต้องด้วย”

Share this post


Link to post
Share on other sites

ข่าว ก.ล.ต.

 

ฉบับที่ 63/2550

วันอังคารที่ 7 สิงหาคม 2550

 

ก.ล.ต. กล่าวโทษบริษัท โอเวอร์ซีส์ บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล เทรดดิ้ง จำกัด และบุคคลที่เกี่ยวข้อง 2 ราย กรณีประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต

 

ในวันนี้ (7 สิงหาคม 2550) ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษต่อกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินคดีกับ บริษัท โอเวอร์ซีส์ บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล เทรดดิ้ง จำกัด และบุคคล 2 ราย ในฐานร่วมกันประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และฉ้อโกงประชาชน

 

 

สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. ได้รับการชี้เบาะแสว่า บริษัท โอเวอร์ซีส์ บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล เทรดดิ้ง จำกัดได้มีการชักชวนลูกค้าให้ลงทุนในน้ำมันดิบในต่างประเทศ ซึ่ง ก.ล.ต. ได้เข้าตรวจค้นสถานที่ประกอบการ เลขที่ 33/54 ชั้น 12 อาคารวอลล์สตรีททาวเวอร์ ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ และตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องแล้ว พบว่า ระหว่างเดือนตุลาคม 2549 ถึงเดือนธันวาคม 2549 บริษัท โอเวอร์ซีส์ บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล เทรดดิ้ง จำกัด กับพวกอีก 2 ราย ได้ร่วมกันประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าหรือตัวแทนในการซื้อหรือขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ภายใต้ชื่อ “บริษัท โอเวอร์ซีส์ บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล เทรดดิ้ง จำกัด” หรือ “OBIT” โดยมีสินค้าอ้างอิง ได้แก่ น้ำมันดิบ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 16 ซึ่งมีระวางโทษตามมาตรา 125 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 นอกจากนี้ ยังพบพฤติกรรมในการดำเนินธุรกิจที่อาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามมาตรา 343 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญาด้วย

 

ก.ล.ต. จึงได้ดำเนินการกล่าวโทษ บริษัท โอเวอร์ซีส์ บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล เทรดดิ้ง จำกัด กับพวกอีก 2 คน ได้แก่ นายทวี เอื้ออักษร และนายชัยพร พงษ์มงคลสาม ในฐานความผิดข้างต้น ต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินการสอบสวนดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าว ทั้งนี้ ก.ล.ต. ขอแจ้งให้ผู้ลงทุนที่ได้รับความเสียหายจากการลงทุนกับบริษัทที่กล่าว แจ้งข้อมูลได้ที่กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

อนึ่ง ก.ล.ต. ขอย้ำเตือนผู้ลงทุนให้ระมัดระวังในการเลือกใช้บริการด้านธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยบริษัทที่จะประกอบธุรกิจดังกล่าวในประเทศไทยได้ จะต้องได้รับใบอนุญาตจากทางการ ซึ่งผู้ลงทุนสามารถดูข้อมูลได้จากเว็บไซต์ของ ก.ล.ต. (www.sec.or.th) ภายใต้หัวข้อ “ตัวแทนสัญญาซื้อขายล่วงหน้า” และกรณีที่สินค้าอ้างอิงเป็นสินค้าเกษตรล่วงหน้า ผู้ลงทุนควรตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) ทาง www.aftc.or.th เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายภายใต้การกำกับดูแลของทางการ และหากพบการให้บริการที่สงสัยว่ากระทำโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ผู้ลงทุนแจ้งเบาะแสมายัง ก.ล.ต. ที่ complain@sec.or.th หรือ ก.ส.ล. ที่enforcement@aftc.or.th เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป

Share this post


Link to post
Share on other sites

ข่าว ก.ล.ต.

 

ฉบับที่ 61/2550

วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม 2550

 

ก.ล.ต. กล่าวโทษบุคคล 8 ราย กรณีประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต

 

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2550 ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษต่อกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินคดีกับนิติบุคคล 1 ราย และ บุคคล 7 ราย ในฐานร่วมกันประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และฉ้อโกงประชาชน พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ได้เตือนให้ผู้ลงทุนระมัดระวังในการลงทุน และควรตรวจสอบด้วยว่า บริษัทที่ให้บริการได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจากทางการหรือไม่

 

สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. ได้รับการร้องเรียนจากผู้ลงทุนว่า ได้ถูกบริษัท แฟคซิลิตี้ เอวิเอชั่น ซัพพอร์ท (ประเทศไทย) จำกัด ชักชวนให้ลงทุนในน้ำมันดิบในต่างประเทศ ทำให้ได้รับความเสียหาย ซึ่ง ก.ล.ต. ได้เข้าตรวจค้นสถานที่ประกอบการเลขที่ 170 ชั้น 11 อาคารโอเชี่ยนทาวเวอร์ 1 ห้องเลขที่ 170/31 ซอยสุขุมวิท 16 (สามมิตร) คลองเตย กรุงเทพฯ และตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องแล้ว พบว่า ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2549 ถึงปัจจุบัน บริษัท แฟคซิลิตี้ เอวิเอชั่น ซัพพอร์ท (ประเทศไทย) จำกัด กับพวกอีก 7 ราย ได้ร่วมกันประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าหรือตัวแทนในการซื้อหรือขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ภายใต้ชื่อ “บริษัท F.A.S.T Thailand จำกัด” โดยมีสินค้าอ้างอิง ได้แก่ น้ำมันดิบ ดัชนีดาวโจนส์ และดัชนีฮั่งเส็ง โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 นอกจากนี้ ยังพบพฤติกรรมในการดำเนินธุรกิจที่อาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามมาตรา 343 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญาด้วย

 

ก.ล.ต. จึงได้ดำเนินการกล่าวโทษ บริษัท แฟคซิลิตี้ เอวิเอชั่น ซัพพอร์ท (ประเทศไทย) จำกัด กับพวกอีก 7 คน ได้แก่ นายปฐม ศิริสิน นางสาวปราณี ศิริสิน นางสาวฤทัยรัตน์ คงชัยยุทธ นายณรงค์ฤทธิ์ เขียวหวาน นายวีระศักดิ์ อัศวฤทธิกุล นายแสงสูรย์ แก้วเสนีย์ และนายอนุศักดิ์ ทองอุบล ในฐานความผิดข้างต้นต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินการสอบสวนดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าว และขอให้ผู้ลงทุนที่ได้รับความเสียหายจากการลงทุนกับบริษัทที่กล่าว แจ้งข้อมูลได้ที่กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

อนึ่ง ก.ล.ต. ขอแจ้งเตือนผู้ลงทุนให้ระมัดระวังในการเลือกใช้บริการด้านธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าด้วย ทั้งนี้ บริษัทที่จะประกอบธุรกิจดังกล่าวในประเทศไทยได้ จะต้องได้รับใบอนุญาตจากทางการ ซึ่งผู้ลงทุนสามารถดูข้อมูลได้จากเว็บไซต์ของ ก.ล.ต. (www.sec.or.th) ภายใต้หัวข้อ “ตัวแทนสัญญาซื้อขายล่วงหน้า” และกรณีที่เป็นสินค้าเกษตรล่วงหน้า ผู้ลงทุนควรตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) ทาง www.aftc.or.th เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายภายใต้การกำกับดูแลของทางการ และหากพบการให้บริการที่สงสัยว่าจะกระทำโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ผู้ลงทุนแจ้งเบาะแสมายัง ก.ล.ต. ที่ complain@sec.or.th หรือ ก.ส.ล. ที่ enforcement@aftc.or.th เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป

Share this post


Link to post
Share on other sites

ข่าว ก.ล.ต.

 

ฉบับที่ 30/2550

วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน 2550

 

ก.ล.ต. ตรวจค้นบริษัทที่น่าสงสัยว่าจะประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเถื่อน

 

ก.ล.ต. ตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยว่าอาจมีการประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต เพื่อปราบปรามการประกอบธุรกิจ

ที่ผิดกฎหมาย พร้อมเตือนผู้ลงทุนตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจกับ ก.ล.ต. ก่อนตัดสินใจลงทุน

 

สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. ได้รับแจ้งเบาะแสว่า พนักงานของบริษัท เบสท์ พอยท์ แอสโซซิเอท จำกัด ได้ติดต่อชักชวนบุคคลทั่วไปให้ซื้อขายสัญญาซื้อขาย

ล่วงหน้าในน้ำมันดิบ ดัชนีหลักทรัพย์ต่างประเทศ และเงินปอนด์ โดยที่บริษัทไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในประเทศไทย

 

ก.ล.ต. จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร เข้าตรวจค้นที่ทำการของบริษัทดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 53/3 ซอยวิภาวดี 20 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2550 ที่ผ่านมา

 

จากการเข้าตรวจค้น ก.ล.ต. พบเอกสารการชักชวนให้ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่ได้รับการติดต่อให้ซื้อขายสัญญาซื้อขาย

ล่วงหน้า ซึ่ง ก.ล.ต. จะทำการตรวจสอบเอกสารและข้อมูลดังกล่าว รวมทั้งสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณา โดยหากพบว่ามีการกระทำผิดตามกฎหมาย ก็จะดำเนินการกับผู้กระทำความผิดต่อไป

 

การประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546

มีบทกำหนดโทษตามมาตรา 125 กล่าวคือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกิน

วันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน

 

อนึ่ง ระยะนี้ ก.ล.ต. ได้รับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการเปิดธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในน้ำมันดิบ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นจำนวนมาก และพบว่า

นักลงทุนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า บริษัทที่จัดตั้งเป็นนิติบุคคลและจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เป็นบริษัทที่สามารถประกอบธุรกิจดังกล่าวได้อย่างถูกต้อง ทั้งที่จริงแล้วการประกอบธุรกิจดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ด้วย โดยจะต้องมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ตามที่ ก.ล.ต. กำหนด

 

ก.ล.ต. จึงขอเตือนผู้ลงทุนที่มีความสนใจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือลงทุนในหลักทรัพย์อื่น ๆ ควรเลือกใช้บริการกับผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. เท่านั้น โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตได้ที่ www.sec.or.th และกรณีที่เป็นสินค้าเกษตรล่วงหน้า ผู้ลงทุนควรตรวจสอบ

รายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) ทาง www.aftc.or.th เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับ

ความคุ้มครองทางกฎหมายภายใต้การกำกับดูแลของทางการ และหากพบการให้บริการที่สงสัยว่าจะกระทำโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ผู้ลงทุนแจ้งเบาะแส

มายัง ก.ล.ต. ที่ complain@sec.or.th หรือ ก.ส.ล. ที่ enforcement@aftc.or.th เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป

Share this post


Link to post
Share on other sites

ข่าว ก.ล.ต.

 

ฉบับที่ 8/2550

วันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2550

 

ก.ล.ต. ตรวจค้นบริษัท 3 แห่งที่น่าสงสัยว่าจะประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเถื่อน

 

ก.ล.ต. ตรวจค้นบริษัท 3 แห่งที่ต้องสงสัยว่าชักชวนผู้ลงทุนซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อปราบปรามการประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมาย พร้อมเตือนผู้ลงทุนตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจกับ ก.ล.ต. ก่อนตัดสินใจลงทุน

 

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2550 ก.ล.ต. พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัย ว่าอาจมีการประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำนวน 3 แห่ง คือ

  • บริษัท ทริปเปิ้ล วี เซอร์วิส แอนด์ เทรดดิ้ง จำกัด เลขที่ 235/2-5 ชั้น 4 ถนนสุขุมวิท 21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
  • บริษัท แฟคซิลิตี้ เอวิเอชั่น ซัพพอร์ท (ประเทศไทย) จำกัด เลขที่ 170 ชั้น 11 อาคารชุดโอเชี่ยนทาวเวอร์ 1 ห้องเลขที่ 170/31 ซอยสุขุมวิท 16 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
  • บริษัท โอเวอร์ซีส์ บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล เทรดดิ้ง จำกัด เลขที่ 33/54 และ 33/56 ชั้น 12 อาคารวอลล์สตรีททาวเวอร์ ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ

การเข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก ก.ล.ต. ได้รับแจ้งเบาะแสว่า บริษัททั้ง 3 แห่ง ได้ติดต่อชักชวนผู้ลงทุนชาวไทยให้ซื้อขายสัญญาซื้อขายราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า โดยให้ผู้ลงทุนนำเงินสดหลายแสนบาทมาให้บริษัทเพื่อวางเป็นหลักประกัน ซึ่งบริษัทดังกล่าวไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในประเทศไทย

 

จากการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ ก.ล.ต. ได้พบเอกสารซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับการชักชวนให้มีการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่ถูกชักชวนให้ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในเบื้องต้นยังไม่พบว่าบริษัททั้ง 3 แห่ง มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน ซึ่ง ก.ล.ต. จะดำเนินการตรวจสอบเอกสารข้อมูลและสอบถ้อยคำผู้ที่เกี่ยวข้อง และหากพบว่าเป็นการกระทำความผิดก็จะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำความผิดดังกล่าวอย่างเคร่งครัด

 

ทั้งนี้ การประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 125 กล่าวคือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน

 

ก.ล.ต. ขอเตือนผู้ลงทุนที่มีความสนใจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือลงทุนในหลักทรัพย์อื่น ๆ ควรเลือกใช้บริการกับผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. หรือ ก.ส.ล. เท่านั้น เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายภายใต้การกำกับดูแลของทางการ โดยผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตได้ที่ เว็บไซต์ www.sec.or.th และ www.aftc.or.th และหากพบการให้บริการในลักษณะเช่นเดียวกันนี้ ขอความร่วมมือผู้ลงทุนชี้เบาะแสมายัง ก.ล.ต. ที่ complain@sec.or.th หรือที่ ก.ส.ล. ที่ enforcement@aftc.or.th เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป

Share this post


Link to post
Share on other sites

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

Guest
Reply to this topic...

×   Pasted as rich text.   Paste as plain text instead

  Only 75 emoji are allowed.

×   Your link has been automatically embedded.   Display as a link instead

×   Your previous content has been restored.   Clear editor

×   You cannot paste images directly. Upload or insert images from URL.

Loading...

×
×
  • Create New...