Jump to content
กระดานทองคำ
koeiop

ผู้เฒ่าเฝ้าทอง(เรื่องราคารับซื้อทองรูปพรรณ)

Recommended Posts

เขียนเรื่องนี้ถ้าไม่ถูกลบ ก็ อาจจะถูกด่าจากคนร้านทองนะ

 

วันนี้ร้านปิดเลยไม่มีใครมาคุย มีแต่คอมให้คุย เลยอยากจะคุยกับคนในคอม

เช้าวันหนึ่งมีนักศึกษาเอาทองมาขาย 1 บาท ก็อ่านชื่อดู คู้จิ้นไถ่....(แม่.....) ถามเด็กว่าใครให้มา เด็กบอกว่าแม่ซื้อให้

อยากขายหรืออยากจะจำนำ เด็กถามต่างกันยังไง

ถ้าขายก็จะเผาดู ถ้าแท้ก็ไม่เสียหายอะไร ขายแล้วก็จะส่งหลอมเลยนะ แม่ไม่ด่าแน่นะ

แล้วถ้าจำนำ หล่ะ เด็กถาม ถ้าจำนำก็ขอถ่ายบัตรประชาชนไว้ ดอกเดือนละบาท (ให้เด็กมัน)

 

เด็กยืนยันว่าจะขาย ก็เลยเอาไปเผาไฟ ok ผ่าน ไม่ดำ ไม่ฟอง เห็นอักษรยี้ห้อ 4 ตัวแล้ว ตกลง รับ ไม่ได้ตัดเพราะมั่นใจแล้วว่าของจริง

 

คราวนี้ก็เลยมาคุยกันเรื่องราคา เด็กเค้าเป็นนักศึกษา เค้ามีหัวคิดเรื่องตัวเลขเค้าซักเราละเอียดเลย ว่าราคาที่เค้าจะได้คิดมายังไงมั่วไม่ได้เลยนะ

 

ราคาทองแท่งจาก Spot gold คิดยังไงยังไม่อยากพูดถึง เอาราคารูปพรรณอย่างเดียว วันนั้นทองแท่งขายออก 23150

วิธีคิดคือ เอาราคาขายออกทองแท่ง +400 เท่ากับ 23550 เป็นราคาขายออกรูปพรรณ

เอา23550*0.964/15.16 = 1497.5066 ปัดเศษทศนิยมขึ้น ราคารับซื้อทอง 1498 บาท/กรัม

เอา 1498*15.16 = 22709.68 เป็นราคาตรงเป๊กับประกาศของสมาคม :rolleyes: :rolleyes: :rolleyes: :rolleyes: 5 เสือเค้าคำนวญแบบนี้ จะได้รู้ทั่วกัน

จะเห็นว่าวิธีคิดแบบสมาคมประกาศรับซื้อรูปพรรณนั้น +ราคาทองแท่งให้ 400 บาท/บาททอง ก่อนแล้วหักค่าเสื่อม 3.6 % เท่านั้น

ปัดเศษทศนิยมแล้วถึงจะคูณกับน้ำหนักย้อนกลับเป็นราคารับซื้อ ซึ่งเป็นราคาที่ดีมากแล้ว

ซึ่งปกติจะให้ราคานี้เฉพาะกรณีมาเปลี่ยน หรือมาเพิ่ม เส้นใหม่ เพราะจะได้คิดค่ากำเหน็ดเอากำไรนิดหน่อยตอนนั้น

 

ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่า ถ้ามันเป็นของที่เราขายไป มันก็รับเต็มตามนี้ได้ เพราะถือว่าได้กำไรจากค่ากำเหน็ดตอนขายไปแล้วครั้งนึงก็ควรจะต้องมีจรรยาบรรณบ้าง ไม่ควรจะไปเอากำไรอะไรซ้ำซ้อน แต่ถ้าไม่ใช่จะคิดอีกแบบ

1 ตัดประเด็นความเสี่ยงของปลอม อันนี้ของจริงรับได้แน่นอน

2 ถ้าคิดแบบ สคบ เรามีสิทธิหัก 5% เอาราคารับซื้อคืนทองแท่ง 23050*0.95/15.244 = 1436.4668 ตัดเศษออกเหลือราคารับซื้อ 1436 บาท/กรัม

เอา 1436*15.16 = 21769.76 ขาดทุน 939.92 จากประกาศของสมาคม ซึ่งท้ายประกาศยังบอกด้วยนะว่าคิดเฉพาะทองที่ออกจากร้านที่ซื้อไปด้วยซ้ำ

 

3 ร้านทองไม่อยากซื้อทองที่เราไม่ได้ขาย เพราะกำไรมันอยู่กับร้านอื่น ความเสี่ยงทองปลอมกับค่าที่ต้องส่งไปหลอมมันอยู่กับร้านเรา ถ้าไม่หักเลยก็ไม่ต้องกินข้าว ไม่ต้องเปิดไฟ ไม่ต้องเปิดแอร์ นั่งหลังลูกกรง พัดกระดาษพัดๆๆๆ รอตำรวจมาเยี่ยมไปวันๆ อันนี้ลูกค้าไม่เคยเข้าใจ ว่าเปิดร้านทองไปไม่ได้อะไรเลย เฝ้าไปวันๆ

ตกลงให้เท่ากับสมาคมแล้วกัน 22710 เห็นกับเพื่อนผู้หญิงที่เดินตามเข้ามาที่หลัง หลังจากที่ยืนคุยกับเด็กผู้ชายอยู่นาน

ถามว่าได้หรือยัง เด็กผู้ชายก็หันไปบอก ได้เท่านี้ เด็กผู้หญิงหันไปเห็นราคาสมาคมที่เขียนไว้หน้าร้าน ก็พยักหน้า บอกกับผู้ชายว่า อือ...ก้อดีร้านนี้ไม่หัก

 

ก็เลยเอาคีมบีบตรงรูปหัวใจ กับตัดตรงกลางเส้น รูปหัวใจบี้บุบ แต่ดูเหมือนหัวใจเด็กมันจะแตกสลายไปทั้งคู่ น่าสงสารแต่ก็ต้องทำ

เด็กถามไม่ทำไม่ได้หรือ ตอบแบบเลือดเย็นว่า ไม่ทำก็เท่ากับร้านทองฆ่าตัวตาย ก็ต้องจำใจทำ เหมือนกัน

 

 

สรุป

1 ลูกค้าควรทราบเรื่องข้างต้นนี้ จะได้ไม่รู้สึกแย่ว่าใครมาโกง เวลาต้องขายทองออก ร้านทองส่วนใหญ่จะให้ราคารับซื้อทองรูปพรรณที่ร้านเขาเป็นคนขายไปราคาสูงสุด แต่จะไม่เกินราคาประกาศสมาคม ดังนั้นซื้อร้านไหนขายร้านนั้นดีสุด

2 ถ้าทองเป็นของร้านนั้นเป็นผู้ขายไป ถ้าจะกด ก็ไม่ควรจะได้ต่ำกว่าวิธีคิดแบบ สคบ

3 ถ้าไม่ใช่ทองของร้านเรา เขามาขายก็เหมือนบังคับให้เราซื้อ ร้านก็ไม่อยากจะซื้อ แต่ก็ต้องจำใจรับ ก็เข้าใจ เด็กมันร้อน ไม่ร้อนมันคงไม่เอามาปล่อย

ก็อย่าให้ต่ำ เลย เห็นใจเด็กมัน

Share this post


Link to post
Share on other sites

ว่าจะไม่บอกแต่พอดีมีเพื่อนบอกมาว่า สมาคมเปลี่ยนตัวคูณลดค่าทองแล้วตั้งแต่วันที่ 3 เมษา จะไม่ไปแก้ที่เขียนไว้หน่อยหรือ ก็เลยมาแก้ไขค่าหักนิดหน่อย

จากวิธีคิดแบบข้างบนที่หัก 3.6% เปลี่ยนเป็นหัก 3.7% แล้วนะ เพราะฉะนั้นตัวที่คูณด้วย 0.964 ต้องเปลี่ยนเป็น 0.963 แล้วปัดเศษถึงจะตรง

เช่นราคาวันที่ 2-4-56 ขายออก รูปพรรณ ขายออก 22650*0.964/15.16 = 1440.277 ปัดเศษเหลือ 1440 บาท/กรัม เอา1440*15.16 = 21830.4 บาทตรงเป๊

พอราคาวันที่ 3-4-56 ครั้งที่ 1 ขายออก 22350*0.963/15.16 = 1419.7263 ปัดเศษเป็น 1420 บาท/กรัม เอา 1420*15.16 = 21527.2 บาท ตามประกาศสมาคม

เพราะฉะนั้นวิธีคิดเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนค่าหักจาก 3.6% เป็น 3.7% ตั้งแต่วันที่ 3-4-56 ไม่รู้ว่าจะหัก 3.7 ถึงเมื่อไหร่เหมือนกัน

ถามว่าหักเพิ่มแล้วช่วยอะไร ในเมื่อปกติร้านทั่วไปก็หักค่าเสื่อม 5 % ใช้คูณ 0.95 ไม่เกินกฏหมายแต่เกินประกาศสมาคมอยู่แล้ว ตอบสั้นๆ มันช่วยเรื่องภาษีครับ

ช่วยยังไงผมไม่ตอบ มันเป็นเรื่องหม้อข้าวหม้อแกง บอกได้แต่ว่า 1 สัปดาห์ ช่วงต้นเดือน พวกร้านทองที่ online ล๊อคราคาทองไว้ ขายออกไม่ทัน เจ้งกันเป็นแถบครับ

Share this post


Link to post
Share on other sites

เช้าวันนี้เป็นวันที่ร้านค้าทองกลัวที่สุดว่าคนจะแห่ไปซื้อหรือแห่กันไปขาย ทุกคนเกร็งกันให้วุ่นไปหมดหลังจากที่ราคาทองโลกมีการเทขายช่วงสงการณ์ที่ผ่านมา

ถามว่าร้านค้าทองเจ้งไหม เจ้งครับ เจ้งทางบัญชี มูลค่า stock คงค้างลดลง ถ้าตอนนี้คนแห่ไปซื้อทองร้านทองอันเนี๊ยเจ้งจริงเพราะราคาทองที่ได้มาสูงกว่า 20000 ซึ่งถ้ามีคนแห่ไปซื้อไม่เยอะก็ไม่ขาดทุนเท่าไหร่ มีลูกค้ามาซื้อ 10 บาทก็ต้องรีบ online ไว้ 10 บาทเพื่อรักษา Stock ไว้เท่านั้นเอง ยังพออยู่ได้ แถมยังเป็นจังหวะที่จะเพิ่ม Stock ด้วยซ้ำ

หนักสุดคือพวกฟิวเจอร์ บังคับปิดอย่างเดียว หายกันไปเป็นล้านเลยก็มี ได้เป็นล้านเลยก็มี ไม่ใช่หน้าที่ผู้เฒ่าต้องมาเล่าอะไรเกี่ยวกับราคาทองที่มันผันผวนคราวนี้ เพราะไม่มีใครเกร็งถูกเลยว่าเกิดอะไรขึ้น กับตลาดโลก

ร้านทองมักถูกมองว่ารวยอยู่แล้ว ทั้งที่ความจริงไม่ใช่ ลงทุนร้านทองเอาเงินไปเปิด seven ต้นทุนเท่ากันแต่กำไรมากกว่าครับ แถมยังไม่ต้องล่อลูกปืนอีก แล้วที่สำคัญ มันมีสินค้าอะไรในโลกนี้อีกหรือไม่ครับนอกจากทอง ที่ขายออกไปจากร้านแล้วยังอาจจะต้องรับซื้อคืนในราคาที่สูงกว่าราคาที่ขายไปเสียอีก แถมบางที ยังต้องไปรับซื้อของร้านอื่นอีกต่างหาก

เช้าวันนี้ 5 เสือ ปรับวิธีคิดเรื่องค่าหักราคารับซื้อทองรูปพรรณครับจากข้างบนที่เป็นราคา ทองแท่ง+ 400 เป็นราคาขายทองรูปพรรณ x 0.963/15.16 = ราคารับซื้อทองรูปพรรณ ปัดเศษแล้วx 15.16 กลับเป็นราคารับซื้อ คือหักค่าเสื่อม 3.6% 3.7% วันนี้เปลี่ยนเป็นหัก 4% ครับ เช่น เช้านี้ เริ่มต้นราคาขายทองแท่งที่ 19000 รูปพรรณ 19400 บาท x 0.96/15.16 = 1228.49 บาท/กรัม ปัดเศษเป็น 1229 x 15.16 = 18631.64 เป็นราคารับซื้อรูปพรรณตามประกาศสมาคม เพราะฉะนั้นตอนนี้หักค่าเสื่อมเพิ่มจาก 3.7 % เป็น 4% ครับ และยังอาจจะหักเพิ่มได้อีก เพราะอย่างที่เล่าให้ฟังแล้วว่า กฏหมายให้ได้ถึง 5 % ครับ

ส่วนที่ราคาจะลงหรือขึ้นผู้เฒ่าตอบเหมือนเดิม ไม่รู้ ครับ

Share this post


Link to post
Share on other sites

เวลาขายทองก็ไม่เกี่ยวกับลวดลาย แต่เวลาซื้อราคาต่างกันที่รูปแบบ อยากรู้ว่าราคาลวดลาย ถูกหรือแพง เอาอะไรมาวัด

Share this post


Link to post
Share on other sites

ไม่รู้จะตอบยังไงดีนะครับ เพราะมันไม่มีหลักการตายตัวชนิดที่ สคบ ยังยอมรับ จะไปตอบว่าแล้วแต่ความพอใจก็ดูเหมือนว่าคนอ่านคงเอือมระอาเพราะทุกวันนี้พวกลูกค้าก็ชอบด่าร้านทองอยู่แล้วว่าพวกร้านทองเป็นพวกไม่มีอะไรแน่นอน หลักลอยไปวันๆ ผมไม่อยากให้เราระแวงกันอย่างนั้นครับเราก็ร้านค้า คนไทยเหมือนกัน ค่าน้ำ ค่าไฟ กำไรก็ถือว่าช่วยธนาคารญาติสนิทเราเอง

อยากให้คิดว่า ร้านทองเป็นเหมือนธนาคารญาติสนิทเราเอง มีเงินเหลือเราก็เอาไปฝาก เค้าก็ให้สมุดบัญชีเราเป็นทองเอามาคล้องคอสวยๆ เราขาดเงินก็เอาทองไปถอนเงิน ถอนสาขาไหนก็ได้ มี 6000 สาขาทั่วประเทศ เท่ากับ 7-11 เลย เพราะทุกร้านทองทัวประเทศก็ขึ้นป้ายบอกว่าเป็นทองเยาวราช 100% ทั้งๆทีบางร้าน รับของมาจากขอนแก่นก็มีนะครับ

ร้านทองที่ดีของชุมชนจึงต้องทำตัวให้เป็นเหมือนธนาคารของชุมชน ถูกก็ยอมขายไป แพงก็ยอมรับซื้อคืน ลูกค้าจะแต่งงานก็ลดค่ากำเหน็ด ถือซะว่าเป็นเงินขวัญถุงให้ลูกหลาน มีงานศาลเจ้าแถวร้าน ก็ต้องข้าวต้ม 1 หม้อ หนัง 3 เรื่อง เป็นอย่างน้อย ทำอย่างนี้แล้ว ชาวบ้านจะเอาเงินมาฝากคุณ ขายของมีกำไรก็จะมาเปิดบัญชีไปคล้องคอ มีมากก็เปลี่ยนบัญชีเส้นใหม่ ยิ่งเปลี่ยนบ่อยยิงดีเนีาะ ร้านทองกำไร นอกเรื่องฉิบเป๋ง

 

 

คุณอ่านของผมได้แต่ห้ามเอาของผมไปอ้างอิงนะ เพราะยังไง ค่ากำเหน็ด อยู่ที่ความพอใจในลวดลายของผู้ซื้อกับกำไรของร้านค้าเค้าครับ แต่ของผมซื้อทองที่เยาวราชเป็นหลัก ค่ากำเหน็ดเลยถูกกว่ารอบนอกอยู่บ้าง ถ้าแบ่งตามค่ากำเหน็ดสามารถแบ่งได้กว้างๆดังนี้

 

ทองรูปพรรณ มี 4 ระดับที่เราเล่นกันในเมืองไทย

1 ชุดเซตมาสเตอร์ Gold 99.95-99.99 ประเภทนี้ ถือว่าเป็นพี่ใหญ่สุดในเหล่าบรรดาทองรูปพรรณ สีจะออกเป็นเหลืองเข้ม แบบดอกจำปา หรือมะม่วงสุกงอม เป็นลายทองที่สวยงามและทำลวดลายได้วิจิตรมาก ร้านที่ทำได้แก่ กลุ่มตระกูลวงค์ใหญ่ จากจังหวัดสุโขทัย เอกลักษณ์คือ การลงยาและการถักสานเส้นทอง ที่ประยุกค์มาจากการสานตะกร้า สานกระติ๊บแบบภาคเหนือ ทำด้วยมือที่ละเส้น ทำให้แต่ละเส้นน้ำหนักไม่เท่ากัน และลายก็อาจจะไม่เสมอกัน แต่นั่นคือความคลาสสิค ที่ทำให้ทองสโขทัยเป็นสุดยอดปรารถนาของนักสะสมชั้นสูง นอกนั้นยังมี พรีม่าโกลด์ มาสเตอร์โกลด์ ตั้งโต๊ะกัง บ้านช่างทอง จัดได้ว่าอยู่ในชั้นนี้เหมือนกัน พรีม่า มาสเตอร์ บ้านช่างทอง มีเวปไซค์สามารถดูของได้ ไปดูเองนะ สวยมากๆ ส่วนตั้งโต๊ะกัง อยู่ซอยวานิช1 หรือเข้าทางเล่งหงษ์ก็ได้ อยู่ตรงข้ามแบงค์กรุงเทพ ไม่มีเวปต้องไปดูเอง กลุ่มนี้ความสวยขนาดไหน เอางี้ดีกว่า "ผัวตายกู้เงินจัดงานศพ แต่ไม่ยอมขายทองพวกนี้เด็ดขาด" อันนี้เรื่องจริงนะ

เวลาคิดค่ากำเหน็ด ไม่คิดต่อบาท แต่คิดต่อชิ้น ถ้าให้เฉลี่ย ตกประมาณ 2800 -3500 ต่อบาทโดยประมาณ แล้วแต่ละชิ้นน้ำหนักไม่ลงพอดีบาท ต้องขายน้ำหนักทอง 99.99 เป็นกรัม แล้วบวกค่ากำเหน็ดประมาณ 7000 บาทอัพต่อชิ้น บางชิ้นซื้อทองได้อีกบาทก็มี

สำหรับแวดวงงานราตรี เคยมีคุณหญิงคนนึงกล่าวไว้ว่า "D E F บัญชาทั่วหล้าไร้ผู้เทียมทาน โฟร์นาย(99.99)ไม่มาใครหาญเทียมทัน"

แปลว่า สร้องเพชรเกรด D E F สูงสุดในด้านความเลอค่า อย่าไปยืนถ่านรูปใกล้ๆด้วยเด็ดขาด หมองเห็นๆ ต้องใส่ 99.99 เป็นทองเซ็ทมาสเตอร์ หรือไม่ก็ลายสานลงยา ครบชุดเท่านั้น ที่คุณนายทั้งหลายจะรู้กันว่า "งามอมตะ ฆ่าไม่ตายทั้งคู่"

 

2 ชุดเซ็ท Collection 96.5 ทองประเภทนี้ จะไม่อยู่ในถาด จะแยกออกไปขายเข้าชุดกัน ประกอบด้วย สร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน ต่างหู เข้าชุดลายแบบเดียวกันหมด บางร้านเรียกว่าชุดแต่งงาน ถ้าเป็นลูกค้าใหม่ๆ ไม่รู้จักความงามกลุ่มนี้หลอกครับซื้อเป็นแต่ทองตู้ เอาค่ากำเหน็ดถูกเข้าว่า ต้องชอบทองจริงๆหรือมีฐานะขึ้นชั้นมาอีกสักชั้น ถึงจะหันมาสะสมพวกนี้

ส่วนใหญ่ลายทองจะเป็นทองปั๊มบางๆ ลวดลายดอกไม้ หัวใจ แล้วเอามาต่อกันที่ละชิ้น สังเกตุตรงข้อต่อตรงปลายจะเป็นแบบเสียบเข้าหากันแล้วมีขอล๊อค ลวดลายสวยมาก ไม่เหมือนสร้อยทองทัวไป ยิ่งในยามที่ทุกชิ้นพร้อมกันครบเซ็ท จะสวยและดูมีพลังมาก ดูตัวอย่างที่ผมเอามาให้ดู ถ้าคุณผู้หญิงซื้อสักชุด คุณผู้หญิงจะรู้สึกเลยว่า ทองตู้เส้นละ 1 บาท 2 บาท เก็บไว้แจกลูกหลานตอนตรุษจีนเถอะ อย่าใส่เลย หายใจแรงไม่ได้มันจะขาด อารมณ์ประมาณนั้นจริงๆ เพราะทองเซ็ทชุดนึงไม่มีต่ำกว่า 6 บาท ค่ากำเหน็ดอย่างเดียวซื้อทองได้อีกบาทก็มีครับ

เรียกว่า "เกิดเป็นลูกผู้หญิงชาติหนึง ขอมีทองเซ็ทสักชุดก็ไม่ต้องซื้อทองอะไรเพิ่มอีกแล้ว"

ชุดเซ็ทเป็นทองน้ำหนักไม่ลงตัวพอดีบาท เหมือนกันกับกลุ่มมาสเตอร์ ขายราคาทอง 96.5 เป็นกรัม บวกค่ากำเหน็ดคิดเป็นชิ้น ถ้าเอาว่าเฉลี่ย สร้อยคอหนักอย่างต่ำ 4 บาท ค่ากำเหน็ด บาทละ 1600 ต่อบาทขึ้นไป

สร้อยข้อมือประมาณ 2 บาทขึ้นไป ค่ากำเหน็ดบาทละ 3200 ต่อบาทขึ้นไป ครบเซ็ทจะหนักไม่ต่ำกว่า 6 บาท เพราะยังต้องมีแหวนกับต่างหูอีก จริงๆแล้วผม เชียร์ให้คนซื้อทองนะ ถูกแพง กำไรขาดทุน เป็นเรื่องของภาครวม ยังไงทองก็มีค่าควรแก่การเก็บรักษา แต่ถ้าจะซื้อทองเซ็ท เฮียมักจะไม่เชียร์แต่มักจะถามก่อนว่า เอาเงินไปกินข้าวกินอาหารดีดี แพงๆ ให้อิ่มก่อนนะ แล้วค่อยมาซื้อทองเซ็ท เหลือกินแล้วจริงๆ ค่อยซื้อทองเซ็ท เพราะสวยแต่ค่ากำเหน็ดแพง ขาดทุนนะ กำไรยาก ต้องคนใจรักจริงๆถึงจะซื้อ แต่เลอค่า สวยข้ามกาลเวลาจริงๆ

มีงานแต่งงานนึง คุณนายใส่ทองไปออกงานแต่งงานสร้อยคอ เส้น 4 เสา 3 บาท 1 เส้น + ซีตรองห้อยหัวใจ 2 บาท 1 เส้น + ข้อมือ บิดแบน 3 บาท 1 เส้น ต่างหู หัวใจห้อยโคม 1 บาท แหวน สัก 3 วงรวมทั้งหมด 10 บาท ไปกันกับสามี สามีเอาทองลายก้านไม้ขีด 10 บาท เดินอยู่คู่กัน อย่างนี้เรียกว่าบ้าทอง อวดรวย แต่ไร้รสนิยม ทองมันคนละแบบ คนละลวดลายกัน ไม่เข้าชุดกันเลย อย่าไปใส่ให้มันดูรวยแล้วเลอะเทอะเลยครับ

แล้วมีใครสักคนใส่ทองชุดเซ็ท ครบชุด ใส่ชุดราตรีคอกว้าง สีเงินอมเทา แขนยาว แล้วใส่ถุงมือ มีผ้าพันคอไปด้านหลัง แล้วใส่ทองเซ็ทไปถ่ายคู่กับเจ้าสาว บอกได้เลยครับซีนเนี๊ย เจ้าสาวไม่สวยจริงจะดับอนาถเอาครับ เพราะมีวาสนาต่อกันมาเจ้าสาวผู้โชคดี จึงมีผู้ชายยกขันหมากมาขอแต่งงาน ก็ยังมิได้หมายความว่าจะมีวาสนาได้ใส่ทอง Set แต่งงานเลยครับ เอาทองแท่ง 10 ไปขอเจ้าสาว กับทอง set ครบชุดไปขอสาวแต่งงาน ต่อให้ขาดทุนตอนขายกลับ ผู้หญิงก็เอาทองเซ็ทอยู่ดี สำหรับเจ้าสาวแล้ว ทองเซ็ทแต่งงานถือว่าเป็นของสะสมที่มีไว้ชื่นชม เทียบค่าได้กับลูกสาวคนโตเลยทีเดียว " มิอาจแสวงหากำไร แต่จะกอดเธอไว้จนวันตาย "

post-3739-0-35670500-1368221771_thumb.jpg

 

3. ทองตูู้ อันเนี๊ยตัวประเด็นเลย ทองตู้ประเภทที่ 1 ชิ้นส่วนทำด้วยเครื่อง ประกอบด้วยมือ ระหว่างเส้นมีชิ้นส่วนผสมกัน 2 ลายขึ้นไป เช่นจูคั่นโซ่ หรือยินตันใหญ่เชื่อมโซ่ เวลาขายเค้าจะคิดคุณ ราคาขายออกทองแท่งวันนั้น บวกค่ากำเหน็ด 550 - 950 ต่อบาท เพราะเป็นลายไม่มาก

ทองตู้ประเภทที่ 2 ลายมาก ลักษณะ 2 ลายผสมกันมาก แทบจะแบ่งได้เป็น 2 เส้น เช่น ระย้าพิกุล ชิ้นส่วนทำเครื่องทั้งหมด แต่ประกอบมือยาก เอาประมาณว่าเห็นลายแล้วยังต้องคิดเลยว่าเครื่องจักรไม่น่าทำได้ ค่ากำเหน็ดรอบนอกร้านปลีกก็ 1100 - 1400 ต่อบาท เยาวราช 850 - 1150 ต่อบาท ครับ

มีข้อแนะนำนิดนิง ลายสวยบางทีใส่แล้วคันนะ พิกุลน่ะใส่แล้วนอนไม่ได้ มันเป็นปุ่มเล็กๆแทงคอเวลานอน ต้องถอด ลายโซ่ บางทีก็หนีบขนคอ แนะว่าถ้าเอาใส่ตลอดทั้งตอนนอนไม่ให้รู้สึกรำคาญ ให้ซื้อพวก ลายกลมๆ เป็นเม็ดๆ จะดีมาก ใส่แล้วลื่นคอ ไม่หนีบขนคอ ไม่บาดคอดี

 

 

4 ทองตู้ใส่เอามัน คือ ทั้งเส้นลายเดียวกันหมด ส่วนใหญ่เป็นพวกทำด้วยเครื่องจักรทอเส้นทอง เช่นลาย 4 เสา 6 เสา ห้อยหัวใจบ้างห้อยโน้นนี่นั้น ก้านไม้ขีด หรือ ก้านไม้ขีดตัดลาย พวกนี้ทำด้วยเครื่องทอทองนะ คล้ายๆกับสร้อยสเตนเลส ลองคิดถึงสร้อยสเตนเลสนะครับ เค้าทำด้วยเครื่อง ทองก็ทำด้วยเครื่องได้เหมือนกัน ค่ากำเหน็ดกว้างมากเอาไว้ให้คนขายโก่งราคาเล่น ส่วนใหญ่ก็ 400 - 800 ขอให้สังเกตุร้านทองเหมือนร้านขายเสื้อผ้าอย่างนึง คือไม่มีวันขายได้จนเส้นสุดท้าน ต้องมีของมาเพิ่มที่ขายไปวนเวียนทั้งชีวิต ย่อมจะมีทองบางลายที่เจ้าของร้านรู้ดีว่าขายไม่ออก แขวนเอาไว้ให้มันเกะกะเล่น ดูมันเยอะๆดี ลองไปถามดู เฮียครับ ลายไหนเส้นไหนขายไม่ค่อยดี แขวนมานาน ขายผมไหม ลดค่ากำเหน็ดหน่อย ถามดูดิ มีแน่นอน เช่น คตกฤษ ชอบเชียร์กันนัก ข้อแข็งแกร่งเท่ากันทั้งเส้น ใส่ทน ไม่ขาดง่าย ลายนี้ยอดนิยม ไม่ยอดนิยมยังไง มีกันทุกร้าน ใส่ทองซ้ำลายคนอื่น คนเค้านึกว่ายืมกันมาใส่ พวกนี้จะไม่แพงครับ 400 ยังปล่อยเลย ขายๆไปเถอะ เอาเงินมาจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ร้าน

 

เวลาคิดค่ากำเหน็ดมี 3 แบบนะ 1 ขายทองเป็นกรัม + ค่ากำเหน็ดคิดเป็นชิ้น

 

2 เอาราคาทองแท่งขายออก + ค่ากำเหน็ด อันเนี๊ยคือแบบที่ผมพูดถึง เป็นแบบประกาศ สคบ

 

3 เอาราคาทองรูปพรรณขายออกตามประกาศสมาคม + ค่ากำเหน็ดอีกต่อ อันเนี๊ยทีมีปัญหาว่าทำให้รู้สึกว่า แพงเกินไป แต่มันก็เป็นช่องที่เค้าเปิดให้เพราะเหตุผลอื่นครับ

 

 

เขียนยาวมากหล่ะ นานๆจะมีคนถามเรื่องที่น่าตอบ จะได้เข้าใจกันและเลิกระแวงกันระหว่างร้านกับคนซื้อ ก็เลยตอบซะยาวเลย

ผมไม่เคยตอบเรื่องการเก็งกำไรนะ แต่เคยไปเขียนตอบอยู่ในทีไหนสักแห่งของสมาคมเนี๊ยแหละ ว่าต้นทุนการผลิตทองที่แท้จริง ซึ่งเป็นพื้นฐานเดียวของทองที่คนส่วนใหญ่อยากรู้ กับ จังหวะที่ดีที่สุด ว่าคืนวันศุกร์ที่ ไทย เป็นเช้าที่ อังกฤษ กับ เมกา มักจะมีการเทขาย ลงมา ซึ่งตลาดเมืองไทยจะซื้อได้แค่ตอนก่อนเทียงคืน

แล้วหลังเทียงคืนเมืองไทย เที่ยงวันอเมริกา มักจะมีแรงซื้อดึงราคากลับไม่ให้ไหลลงไปต่ำสุดนั้น

คืนนี้เอาอีกแล้ว ทองไหลจาก 1460 ลงไปที่ 1422 ตอนช่วงเที่ยงวันที่ นิวยอร์ค เที่ยงคืนเมืองไทย หลังเทียงคืนเมืองไทย จะมีมือดีซื้อดึงราคา ช้อนขึ้นมาจนตอนนี้อยู่ที่ 1447 ต่ำกว่าที่เมืองไทยปิดเย็นวันศุกร์ 2 เหรียญ แน่ไหมเจ๋งหว่ะ ปิดตลาดแล้วด้วย เค้ารู้กันหมดแหละว่าฝรั่งไม่เอาทองกลับบ้าน-เสาร์-อาทิตย์ ราคามันเลยชอบตกตั้งแต่บ่าย 2 ที่เมืองไทย เพราะอังกฤษเปิดตลาด เริ่มทยอยขาย อเมริกา เททิ้ง 2 ทุ่ม ถึงเทียงคืน แล้วนิ่ง

หลังเที่ยงคืน เอเซีย พวกที่ต้องเปิดร้านขายทองวันเสาร์นี่แหละตัวดี ราคาคืนวันศุกร์ปิดตกหนักไม่ได้ ไม่งั้นเช้าวันเสาร์เดือดร้อน

เป็นยังนี้ประจำ

post-3739-0-35670500-1368221771_thumb.jpg

Share this post


Link to post
Share on other sites

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ผมไปเดินเล่นเยาวราชตลาดเก่าตามประสาผู้เฒ่า ก็เห็นบรรยากาศร้านทองดูเหมือนจะเงียบๆไม่ค่อยมีรายย่อยซื้อหน้าร้านสักเท่าไหร่ ก็คงคาดได้ว่า คนที่มีแรงซื้อก็ซื้อกันไปหมดแล้ว คนที่เกร็งว่าจะ18000 อีกรอบ ก็ผิดหวังไปตามกันแล้ว เพราะเงินเราอ่อนลงก็ทำให้ทองแพงขึ้น ก็คงไม่ใช่หน้าที่ของผู้เฒ่าที่จะมาวิเคราะห์ราคาทองอะไรเพราะเดาแข่งกับชาวบ้านไม่เคยตรงสักที

กลับมาเยาวราช ผมไปสะดุดกับร้านทอง 5 เสือเข้าให้ ตรงที่เขามีของใหม่มาขาย ก็ตามประสาคนชอบทองเลยแวะเข้าไปดูหน่อย เป็นลายมิ๊กกี้เม้าท์ น่ารักดี เลยขอดูหน่อย ฮิฮิ น่ารักจริงๆด้วย

ข้อน่ารักน่าซื้อคือตรงที่

1 เค้าทำมาให้เป็นของขวัญน่ารักๆ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะฉะนั้นผู้ซื้อไม่ต้องเลือกลายยาก ได้ทองก็ดีใจแล้วนะ แต่ถ้าได้อะไรที่มันเป็นเรื่องเป็นราว มีความต่างที่เป็นเอกลักษณ์ ผมว่าใครได้คงดีใจเป็น 2 เท่า

2 อันเนี๊ยเป็นลิขสิทธิแท้ เพราะฉะนั้นเค้าต้องทำมาจำนวนจำกัด หรือไม่ก็เป็นแค่ช่วงเวลาจำกัด เพราะฉะนั้น วันหน้าหาไม่ได้แน่

3 แต่ละชิ้นไม่แพง ถ้าทำชิ้นใหญ่ เกิน บาท ซื้อยาก แต่นี้ทำมา สลึง 2 สลึง หนักสุดก็ข้อเท้า 1 บาทซึ่งก็ไม่ซื้อทองไปใส่ข้อเท้าอยู่แล้ว คนเราถือทองเป็นของสูงที่มีค่าในตน ทองส่วนใหญ่ที่หมุนเวียนในโลกนี้เป็นทองที่หลอมมาแล้วครั้งแล้วครั้งเล่า ทองที่อยู่ที่คอเราครั้งหนึ่งอาจเคยเป็นทองที่อยู่บนยอด มงกุฏ แห่งกษัตริย์ ก็ได้ ทองจึงไม่ควรอยู่ต่ำนะครับ

4 ราคาค่ากำเหน็ด ของลิขสิทธิแท้จะสวยและลักษณะถูกต้องตามแบบลิขสิทธิ ราคาต้องแพงกว่าธรรมดาบ้างชิ้นละ 1000 บาท ผมว่าไม่แพงนะ เพราะ 2 สลึงซื้อในเยาวราชลายโซ่ทั้งเส้น ก็ 400 - 800 แล้วนะ แล้วนี้ถ้าได้ของลิขสิทธิแท้ เพิ่มอีก 200 เอาหน่ะ เกาลัดโลเดียว ให้ลูกให้หลานแล้วมันดีใจขอบคุณคนแก่อย่างเราก็คุ้มน่ะ ไม่แพงๆ แต่ให้เมียผมไม่ได้นะคราวก่อนมันแซวมาที อย่าจามแรงนะลูก เดี๋ยวขาด ฮิฮิ

5 เค้าไม่ได้มีแค่มิ๊กกี้นะ ยังมีมินนี่ พลูโต มากันครบอยู่หลายตัวน่ารักดี ยังไงตอนซื้อเช็คหน้าหน่อยนะเพราะบางอันอาจจะมีรอยนิดหน่อย เดี๋ยวซื้อไปแล้วเพิ่งเห็นรอยจะเสียอารมณ์เปล่าๆ

 

ข้อไม่น่ารักก็มีนะ

ตรงที่บางชิ้นเป็นรูปโครงหัวหรือลักษณะที่สื่อให้เห็นว่าเป็น มิ๊กกี้เม้าท์เท่านั้น แต่ไม่ได้มีรูปตรงๆของ หน้ามิ๊กกี้แต่อย่างใดเช่น ถุงมือ หมวก โครงหน้า

 

สำหรับผมเดี๋ยวหาว่า เขียนแล้วไม่ซื้อจริง ผมว่าอันที่ผมดูแล้วชอบ ก็คงเป็นอันที่เป็นรูปมิ๊กกี้ตรงๆนะชอบอยู่ น่ารักดี สุขใจผู้ซื้อ ถูกใจผู้ให้ดี ถ้าอยากซื้อทองแต่นึกไม่ออกว่าซื้ออย่างไหนดี ผมว่าชุดนี้ลงตัวครับ

เออสร้อยนั่นซื้อแยกนะครับ 2 สลึง ยินตันเล็กบิดเกลียว ใส่แล้วลื่นกลิ้งไปมาไม่หนีบคอดี ใสนอนสบายดี

post-3739-0-34439500-1371532906_thumb.jpg

Share this post


Link to post
Share on other sites

ขอบคุณมากค่ะที่ให้ความรู้นี้ แต่อยากถามต่ออีกหน่อยคะ ถ้าเป็นทองคำแท่งละค่ะจะมีการคิดค่าเสื่อมกันอย่างไงบ้าง รบกวนด้วยนะคะ คือว่าก็มีเงินอยู่นิดหน่อย อยากจะลงทุนในด้านนี้นะค่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะคุ้มมั้ย

Share this post


Link to post
Share on other sites

เรียน คุณ Por

  • หวังว่าคุณคงไม่ใช่เพื่อนผมแกล้งมาเขียนถามผมนะ ทองคำแท่งไม่มีการคิดค่าเสื่อม ที่เค้าคิดคุณเวลาขายเข้าขายออกนั้นเค้าขอกำไรคุณนิดหน่อยเป็นค่าดำเนินการของร้าน ซึ่งมากน้อยก็แล้วแต่เค้าจะโขกคุณ แล้วคุณยอมเขาไหม ถ้าคุณไม่ยอมก็เข้าเยาวราชไปขาย 5 เสือสมาคม ชัวร์สุด อันนี้คำตอบแรก
  • คำตอบที่ 2 เรื่องลงทุนตอนนี้คุ้มไหม ปกติผมไม่ตอบนะ เพราะเรื่องเงินเรื่องทองของเรา เราต้องวิเคราะห์เอง แต่ถ้าถามหาข้อมูลที่จะใช้วิเคราะห์ เอาภาพใหญ่ๆผมให้ได้เพราะเป็นเรื่องที่แบ่งปันกันได้และไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบังกัน แต่ผมบอกไว้ก่อนนะ ห้ามอ้างอิงมาที่ผมนะ และ เรื่องที่ผมเขียนผมไม่รับผิดชอบนะครับผมวิเคราะห์ตามข้อมูลที่ผมมี และเรื่องที่ผมเขียนก็ไม่เกี่ยวข้องกับสมาคมค้าทองคำนะครับ ห้ามอ้างอิง เค้ากรุณาไม่ลบเพราะความใจกว้างของสมาคม และผมก็ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนใดๆครับยืนยัน เรื่องเงินของเรา เราต้องคิดเอง ตัวใครตัวมันนะครับ
  • วันที่เขียนตอบ คือวันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน 56 ทองแท่งรับเข้า 19150 ขายออก 19250 บาท Spot gold ปิดตลาดวันศุกร์ 1297.9 ค่าเงินบาท 30.98 บาท/US$ อันนี้เป็นตัวเลขทั่วไปที่คนเล่นทองต้องรู้
  • คำอธิบายพื้นฐานของทองคงไม่มาอธิบายอะไรกันหาอ่านข้างบนเอาแล้วกัน เพราะมันไม่มีประโยชน์สำหรับนักเกร็งกำไร นักเกร็งกำไรต้องการเพียงจังหวะ ความผันผวน และดวงเท่านั้นเอง
  • ทองมีไว้สำหรับต้านเงินเฟ้อ ทองจะมีค่าสูงกว่าเงินเฟ้อเสมอ อันนี้ก็ยังเป็นความจริงเสมอเหมือนกัน เพราะเราใช้ทองในการออกบัตรธนาคาร แม้นเราจะเถียงว่า ไทยใช้เงิน ดอลล่าห์ในการค้ำเงินบาท แล้วเงินดอลใช้อะไรค้ำ ดอลล่าห์ก็ใช้ทองคำค้ำ มีพิเศษตรงที่เค้าใช้ ดอลล่าห์ค้ำตัวดอลล่าห์เอง(QE) ซึ่งเป็นประเทศเดียวในโลกที่ทำได้และประเทศอื่นก็ดันยอมรับเงินของเขา ก็คิดให้ดีมันถูกต้องแล้วหรือ ที่จะใช้กระดาษพิมพ์ลายค้ำตัวกระดาษพิมพ์ลายเอง เอ่อเอาดิ
  • เศรษฐกิจตกต่ำ รายได้ไม่พอรายจ่าย ต้องพิมพ์แบงค์เพิ่ม เพื่อมาจ่ายเงินเดือนข้าราชการตัวเองจนเต็มเพดานการคลัง (Fiscal cliff) เป็นเหตุหลักที่ทำให้ราคาทองเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าที่แท้จริงของตัวมันเอง เพราะตลาดโลกคาดเดาว่า เมื่อเงินดอลที่พิมพ์ออกมาล้นโลก เงินดอลจะมีค่าลดลง (เงินเฟ้อ) นักลงทุนจึงเลือกที่จะขอแลกเงิน ณ ขณะนั้น เป็นทองในปี 2009 แต่มาถึงวันนี้ 3 ปีที่รอคอยก็ไม่เกิดเงินเฟ้อล้นโลกสักที เงินดอลล่าห์ก็ยังคงซื้อของได้ทั่วโลก เอาเงินไปเกร็งกำไรในตลาดหุ้นและพันธบัตรได้ทั่วโลก ซื้อข้าวกินได้ทั่วโลกโดยไม่ได้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น ถ้างั้นก็คงไม่ต้องพิมพ์แบ้งค์ดอลล่าห์เพิ่มแล้วมั้ง( เลิก QE ดีกว่า)
  • ถ้างั้นก็ไม่ต้องซื้อทองเอาไว้ ป้องกันค่าเงินเฟ้อแล้ว ขายทิ้งดีกว่า ทองถึงได้ร่วงลงไปใกล้ถึงจุดที่เป็นมูลค่าที่แท้จริงของมันแล้ว คำถามเท่าไหร่ ????
  • 1.ทองคำในโลกนี้ที่หมุนเวียนกันอยู่ มีมาจาก 3 แหล่ง ทองคำที่อยู่ในแบงค์ชาติใช้สำหรับออกบัตร ตรงนี้เป็นทองที่ไม่สามารถขายได้หรือขายได้อย่างจำกัด เช่น ในกรณี ข้อตกลง CBGA ทำให้ธนาคารกลางของชาติ EU ซึ่งมีทองสะสมไว้มหาศาลและเป็นทองที่ต้นทุนทองต่ำมาก เพราะสะสมกันไว้ตั้งนานแล้ว ขายทองได้อย่างจำกัด ขายไปก็ไม่พอใช้หนี้ที่มีอยู่ เก็บไว้เพื่อลด Supply ของตลาดทำให้ราคาตลาดมันเพิ่มเล่นดีซะกว่า ดังนั้นทองในส่วนของแบ้งค์ชาติจะไม่ขายออกมาง่ายๆเด็ดขาด เพราะถ้าขายเท่ากับว่า เงินสกุลนั้นๆเป็นกระดาษเปล่าพิมพ์ลายโดยไม่มีค่าอะไรค้ำอีกต่อไป
  • 2.ทองคำมาจากทองคำเก่าที่อยู่ในมือของประชาชนอยู่แล้ว ซึ่งเชื่อว่ามีมากกว่าธนาคารชาติเสียอีก เช่น เมืองไทยใช้ทองเป็นทุนสำรองอยู่ประมาณ 150 ตัน เท่ากับ 150,000 kg เท่ากับ ทองแท่งหนัก 9,839,937 บาท เมื่อหารจำนวนร้านทองซึ่งเมืองไทยมีประมาณ 6,500 ร้านค้า เท่ากับแต่ละร้านมีทองเฉลี่ย 1513 บาท ถ้าตัวเลขแค่นี้บอกได้เลยแค่ร้านทองในเมืองไทยรวมทองกันทั้งหมด ก็มีทองมากกว่าแบงค์ชาติแล้วครับนี่ยังไม่นับรวมในมือประชาชน ,เศรษฐี , กองทุน และธนาคารต่างๆ ซึ่งทองกลุ่มนี้แหละที่หมุนเวียนให้เราใช้อยู่ทุกวันนี้
  • 3.ทองที่ผลิตขึ้นมาใหม่ WGC(world gold council) รายงานว่าทองคำที่ผลิตจากเหมืองขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ปี 2008 – 2012 เฉลี่ย 5 ปีอยู่ที่ 500 ตัน/ปี และเป็นทองเก่าที่อยู่ในระบบมีการหมุนเวียนโยกย้ายจริงอยู่ที่ 300 ตัน/ ปี
  • คำถาม ต้นทุนทองที่แท้จริงควรคิดจากราคาตรงส่วนไหน ถ้าเป็นทองกลุ่มที่ 1 ของแบงค์ชาติ ส่วนใหญ่ได้มาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเคยคงที่ อยู่ที่40 us$/oz. อยู่นานมาก ก็คงเอามาคิดเป็นต้นทุนปัจจุบันไม่ได้
  • ถ้าเอาของกลุ่มที่ 2 ทองในมือผู้บริโภคเป็นตัวคิดต้นทุน กลุ่มนี้จะตอบว่า ขึ้นอยู่กับราคาต่ำสุดของตลาดโลกในขณะนั้น ซึ่งคิดอย่างนี้ก็ถูกแล้ว (มีบางประเทศพยายามคิดต้นทุน Stock คงค้างจากราคาที่ซื้อ หรือที่รับจำนำมา และคิดขาดทุนเฉพาะจากที่ได้ขายไปแล้วจริงเท่านั้น ดีนะที่แบงค์ชาติไม่บ้าจี้ตาม เคยฟังเพลงนี้ไหมครับ ตอนเล็กๆไม่เรียนหนังสือ โตขึ้นมาต้องขัดรองเท้า แม่ของเราให้จำเอาไว้ อย่าไว้ใจพวกสัตว์สี่เท้า กากี่นั้ง กากี่นั้ง )
  • มาถึงกลุ่มที่ 3 กลุ่มผู้ผลิตจากเหมือง กลุ่มนี้แหละที่พอจะอ้างอิงเป็นต้นทุนที่แท้จริง ของทองปัจจุบัน ลองเข้าไปหาอ่านรายงานประจำปีของบริษัทที่เค้าทำเหมืองทองhttp://www.kingsgate.com.au/investors/annuals-quarterlies.htm เอาแค่ที่ทำเหมืองในไทยนี่แหละซึ่งเค้าว่ากันว่าราคาต่อหน่วยแพงกว่าชาวบ้านเยอะ รายงานของเจ้านี้ ปี 2012 เค้าผลิตได้ 121,372 OZ. ราคาทองคำในตลาดโลกเฉลี่ยอยู่ที่ 1663 ในขณะที่ต้นทุนผลิตอยู่ที่ 761 us$/OZ อึ่งไหมหล่ะ นี่ว่าตามรายงานประจำปีของเค้านะ คำถามคือ เค้าจะขายทองให้เราเหมือนขายมะพร้าว ขายทุเรียน หน้าสวนไหมหล่ะ เพราะฉะนั้นการที่จะไปหวังว่า ต้นทุนการผลิตทองถูกแล้วเค้าจะขายถูกก็เลิกหวังได้เลยครับ เพราะต้นทุนผลิตมันต่ำกว่าราคาตลาดโลกมาตลอด แต่ก็ไม่มีใครบ้าขายตามต้นทุนหรอกครับ เค้าขายตามราคาตลาดโลกกัน
  • และตัวเลขรายงานเฉลี่ยถึง Q1/2013 เหมืองเมืองไทยอยู่ที่ 923 Us$/Oz. ที่ south Australia อยู่ที่ 1278 Us$/Oz. รวมเฉลี่ยอยู่ที่ 1051Us$/Oz. เพราะฉะนั้น ถ้าคิดว่าราคาขายต่ำกว่าต้นทุนการผลิตก็เลิกผลิตดีกว่า แนวต้านที่เลิกทำเหมืองทองไปเลยดีกว่าน่าจะอยู่ที่ 1100Us$/Oz. นี่คือที่มาของตัวเลขที่ผมเคยเขียนใน ผู้เฒ่าเฝ้าทอง(เขียนในฐานะคนธรรดา) เมื่อ 15 มีนาคม 2556 ผมก็เอามาจากรายงานต้นทุนการผลิตของเขาเหมือนกัน ดังนั้นที่เกินกว่าต้นทุนคือ margin ของการเกร็งกำไรล้วนๆ ผมอ้างอิงมาจากตัวเลขที่พอจะหาได้ จริงไม่จริงอีกเรื่อง แต่ถ้ามันเป็นประเด็นที่น่าจะเกี่ยวข้องจริง ไม่ใช่ข่าวลือ และถูกต้องไม่เลื่อนลอยแบบ พวกข่าว Online ผมก็เลื่อกที่จะเชื่อตัวเลขพวกนี้ มากกว่า อ่านถึงตรงนี้แล้วคุณ PoRPoR ยังอยากเข้ามาอีกไหมครับ
  • ถ้าถามเรื่องการเกร็งกำไรระยะสั้น ผมถึงไม่เคยตอบเลยและไม่เคยเดาใจเจ้ามือถูกเลย ตอบผิดเพื่อนด่านะสิครับ

  • ถ้าถามระยะกลาง ร้านทองเพื่อนกันหลายร้านเริ่มเตรียมเงินไว้แล้ว หลัง 16 กรกฏาคมจะทยอยเข้าซื้อ Stock ทองแท่งเพิ่ม เพราะคนอินเดีย ชอบแต่งงานในราศี มิถุน ที่แปลว่าคนคู่ ซึ่งเค้าก็ซื้อกันไปก่อนแล้วแต่ก็ยังอยู่ในช่วงความต้องการสูงดังนั้นทุกปี หลังกลางเดือน กรกฏาคม จะเป็นช่วงที่ทองลดลงถูกสุดของปีเสมอ ถ้าค่าเงินบาทไม่ป่วน เรียกว่ามีนัดกันทุกปี ระยะเวลานานเท่าไหร่ กี่เดือน ไม่แน่
  • ถ้าถามระยะยาว เพื่อนฝูงส่วนใหญ่แน่ใจแล้วนะ ว่าราคาทองโดนทุบลงมาใกล้ถึงจุดตัดระหว่างราคาขายเท่ากับราคาต้นทุนแล้ว เหลืออีกประมาณ 100 – 150 us$ เท่านั้น ถ้าไม่มีการเกร็งกำไรอะไรบ้าบอกันอีก หรือมีการล่มสลายระยะยาวอะไรอีก แล้วแนวโน้มต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณเดิม มูลค่าที่แท้จริงที่ควรจะเป็นของปี 2013 คือ 1150 Us$/Oz. เป็นราคา Bottom ของปีนี้ ที่ถึงเมื่อไหร่ซื้อเกินโควต้าการนำเข้าของรัฐบาลแน่ หรือต้องข้ามไปซื้อทองเถื่อนเลยก็คงจะมีคนยอมเสี่ยง ประเด็นอยู่ตรงที่ว่าจะมีใครขายออกมามากขนาดกดราคาลงไปอยู่ที่ 1150 ไหม ซึ่งถ้าไม่มีใครขายราคามันก็ไม่ลงไปถึงตรงนั้น แต่ถ้าเป็นร้านทองต่อให้ราคาลงไม่ถึงตรงนั้น เค้าก็ต้องซื้อ เพราะเค้าต้องขายของขายทองเลี้ยงธุรกิจ ไม่ได้เกร็งกำไรอย่างเดียว เออต้องดูด้วยนะว่าค่าเงินบาทเอาไงแน่ นิ่งหรือขยับ เพราะยังไงเราก็ต้องซื้อทองคำในสกุลเงินบาทไทยอยู่ดี
  • ผมเขียนราคาจั่วหัวไปข้างบนเพราะต้องการจะบอกว่า ราคาวันนี้อยู่ที่ 1298 Us$/Oz. ส่วนราคาประมาณที่คุยกันว่าเท่าไหร่ก็ซื้ออยู่ที่ 1150 Us$/Oz. เพราะฉะนั้นถ้ามั่นใจว่าถือเกินกว่า 2 ปีได้ ก็เข้าได้แล้วนะ เพราะคาดกันว่าอีก 2 ปีต้นทุนการผลิตน่านะสูงกว่า 1300 Us$/Oz. แน่นอน แต่ถ้าถือไม่ได้ ไปหุ้นน่าจะดีกว่าครับ
  • ก็แปลกนะคนเรา ตอนเนี๊ยทองตกแล้วเห็นๆ บอกไม่มั่นใจเลยไม่เข้า กลัวยังไม่ต่ำสุดๆ ทองแพงบอกเข้าไม่ทันสงสัยไปได้ไม่ไกลหรอกเลยไม่กล้าเข้า ขึ้นดอยไปกับเพื่อนฝูงรอบก่อน บอกรอก่อนยังไม่สุดยอดดอยอย่าเพิ่งปล่อยใจเย็น ติดดอยบอกใจเย็นให้มากกว่าตอนขึ้นครับพวกเราเดี๋ยวมันก็กลับมา
  • ผมบอกตรงๆนะ ในช่วงนี้เท่านั้นนะ เตรียมเงินสดไว้เสมอ รอวันเวลาและตัวเลข ซื้อทองแท่งจริงเท่านั้น เข้าในจุดที่เป็น New low 1/4 ของหน้าตักเสมอ ห้ามเกินนี้ อย่าสนใจว่าอาจจะมี New low อีก และไม่ต้องคิดมากถ้ามันมี เพราะถ้ามันมีอีกก็เข้าอีก 1/4 ของที่เหลือพอ และหยุดเมื่อเหลือ 1/4 ของที่ตั้งใจจะเข้า ปล่อยของในจุดที่ไม่ขาดทุนในแต่ละ Lot ห้ามเฉลี่ยดอย คิดไว้เสมอว่าดีที่สุดในจุดที่ยืนแล้ว ขอบคุณครับ

Share this post


Link to post
Share on other sites

ขอบพระคุณอย่างยิ่งค่ะ คุณkoeiop จากที่ไม่รู้อะไรเลยแม้กระทั่งคำว่า QE แต่ตอนนี้ก็พอจะเข้าใจอธิบายได้ละเอียดมากขอบคุณจริงๆคะ ที่ให้ความรู้ตั้งแต่อ่านกระทู้มาไม่มีใครอธิบายได้เหมือนคุณ เหมือนกะว่ามีแต่จะกั๊กๆ อะไรประมาณนั้น หายาก(แน่มาก)

Share this post


Link to post
Share on other sites

เรียน คุณ Por

 

ขอบคุณสำหรับคำชม ผมรู้สึกยินดีมากกว่าที่ความตั้งใจในการเขียนอธิบายเหตุผล ความจริงของวงการทองคำ กฏกติกาการคิดคำนวญด้านราคาและความผันผวน มีคนอ่านแล้วเข้าใจ ถ้าอ่านแล้วเข้าใจทั้งหมดผมเชื่อว่าคนซื้อทองกับคนขายทองจะเลิกระแวงกันซะที ผมเรียนแล้วว่าผมไม่ใช่คนของสมาคม และผมน้อมรับเสมอถ้าสิ่งที่ผมตอบนั้นมีข้อผิดพลาดไป ทองมีขึ้นมีลง ผันผวน สิ่งที่ผมเขียนตอนนี้ อาจจะถูกอยู่ในปัจจุบัน แต่ก็อาจจะไม่ถูกในกาลหน้าก็ได้ ผมถึงเขียนเฉพาะหลักคิดว่า ถ้าจะคิดเรื่องทองคำมองเรื่องความเคลื่อนไหวของทองคำให้เข้าใจในกติกาเค้าคิดกันยังไง

ก็ได้แต่หวังว่า คุณ Por จะประสบความสำเร็จในการลงทุน อย่างที่ตั้งใจนะครับ เคารพ

Share this post


Link to post
Share on other sites

มาอัพเดทจากที่เคยบอกให้ไปดูราคาต้นทุน ซึ่งQuarter september ขึ้นมาอยู่ที่ี 1044 Us$/Oz จาก Quarter june 824 Us$/Oz ดังนั้นเชื่อว่าทองไม่น่าลงต่ำกว่า 1200 Us$/Oz แล้วครับและยิ่งสภาพเงินดอลล์ที่ตลาดมั่นใจแล้วว่า ไม่ฟื้น จากการที่ FED ไม่ลด QE อย่างที่พูดไว้

ยิ่งยุโรป กับ จีน ไม่ไว้ใจอเมริกาเรื่องดักฟังแล้วด้วย อย่าลืมว่าเยอรมัน มีทองฝากไว้ที่อเมริกาขอคืนแล้วยังไม่ได้คืน จะละเลยเรื่องนี้ไม่ได้ คนจีนมองว่าเศรษกิจของตนแย่ลง ธนาคารอาจจะมีปัญหาเมื่อไหร่ก็ได้ ทองมันไม่ระบุชื่อว่าเป็นของใครยังไงก็ยึดไม่ได้เก็บทองไว้กับตัวดีกว่าปัญชีเงินฝาก จึงมีเงินบางส่วนออกไปซื้อทองเก็บไว้ในธนาคารต่างประเทศ เอาที่ไหนดี ประเทศไหนดี ที่คนขายทองส่วนใหญ่พูดภาษาเดียวกันกับคนที่อยากซื้อ ส่วนราคาทองในประเทศ ยังคงต้องผูกกับเงินบาทต่อไป ซึ่งก็น่าจะยังอ่อนอยู่อย่างนี้ต่อไปจนถึงปลายปี

ส่วนเรื่องที่ธนาคารแห่งประเทศไทยส่งสัญญาณมาให้ควบคุมธุรกรรมทองและล่าสุดเมื่อวานนี้นาย ยรรยง พวงราช พูดแบบมีนัยเรื่องอยากให้ร้านทองรายงานธุรกรรมวันต่อวัน ทุนจดทะเบียนร้านทองนิติบุคคลแค่ 1 ล้านแต่ทำการซื้อขายเป็น ร้อยล้าน และ ทองคำนำเข้าในประเทศอยู่ที่ สามแสนล้าน แต่ธุรกรรมค้าขายทองในประเทศอยู่ที่ ล้านล้านบาทเป็นเรื่องที่มีนัยสำคัญมากครับ ขอให้ลองตีความกันเอง

แต่เพื่อนผมหลายคนเริ่มที่จะเลิกระบบบัญชีซื้อแล้วฝากไว้ก่อน และทยอยขอเปลี่ยนทองกระดาษเป็นทองแท่งแล้ว แต่พวกเล่น margin ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้นะครับเพราะมันไม่มีตัวทองคำที่พวกคุณเล่นตั้งแต่แรกแล้ว ปกติแล้วปลายปีต่อต้นปีราคาทองมักจะขึ้นครับ บอกได้เท่านี้

http://www.kingsgate...quarterlies.htm

Share this post


Link to post
Share on other sites

วันนี้มีประกาศ เรื่องราคาต้นทุนการผลิตทองของ kingsgate ซึ่งผมชอบเอามาดูเป็นพื้นฐานแนวโน้มที่ควรจะเป็นของราคาทองที่ควรจะเป็น ซึ่งใน Q2 ปรากฏว่า ต้นทุนอยู่ที่ 857 us/ounce ซึ่งลดลงจาก Q1 957 us/ounce ผมจึงเชื่อว่าแนวโน้มจริงๆของราคาทองในปี 57 ปัจจุบันไม่ควรเกิน 1200 - 1250 us/ounce

ประเด็นที่ทองยังทรงตัว เพราะข่าวเรื่องความวุ่นวายใน หลายประเทศ ซึ่งเกี่ยวพันกับ จีน รัสเซีย และ อเมริกา

หลายสำนักให้เหตุผล อยู่ที่ รัสเซียกับจีน จะใช้เงินทำ swop เงินสกุล ruble กับ renminbi ได้หรือไม่ เพราะถ้าทำได้จะทำให้เงิน us dollars ล้นออกมาจาตลาดทั้ง 2 ประเทศทันที นั้นอาจจะทำให้ทองเพิ่มมูลค่าขึ้นจาก 2 เหตุผลคือ

 

 1 การทำ swop ปกติต้องมีค่าเงินกลางเป็นตัวเทียบเช่น us dollar index ที่ใช้เงินสกุลหลัก 6 สกุลเป็นตัวเทียบ แล้วทำการกำหนดค่าเงินระหว่างกันขึ้นมา คราวนี้ถ้าจะทำ swop กันระหว่าง จีน กับ รัสเซีย ผลที่ตามมาทำให้เงินทั้ง 2 สกุลแข็งค่าขึ้นทันที เมื่อเทียบกับ เงินสกุลอื่น แล้วมีประโยชน์อะไร ในเมื่อการเกินดุลทางเศรษกิจของจีนมาจาก อเมริกา รัสเซียมาจากยุโรป ค่าเงินที่แข็งขึ้นอาจจะทำให้จีนกับรัสเซียส่งออกได้น้อยลง ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ อเมริกาต้องการอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นความต้องการที่จะถ่วงดุลอเมริกาเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ อาจจะยังไม่เกิดขึ้นเร็วนัก

2  ถ้าการแลกเปลี่ยนโดยตรงเกิดขึ้นจริง เงิน us dollar ที่อยู่ในตลาดการซื้อขายระหว่าง จีน กับ รัสเซียจะออกมาจากระบบทันทีเพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้อีกต่อไป ทองจะขึ้นเพราะเงิน us dollar เฟ้อทันที และเงินจีนกับรัสเซียที่ แข็งค่าขึ้นก็เป็นเหตุให้ทองถูกลงเมื่อเทียบกับเงินอีก 2 สกุลดังกล่าว

ขอให้จับตามองเรื่องนี้ให้ดีครับ มันไม่แน่ว่าจะเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่ แต่ถ้าเกิดขึ้นจริง ราคาทองไปยาวแน่นอนครับ

อ้างอิง http://kingsgateconsolidated.com.au/wp-content/uploads/2014/07/14021kcn-Quarterly-JUN-2014-jul14-v8.pdf

Share this post


Link to post
Share on other sites

                              FOMC เดือน ตุลาคม ขณะที่เขียนนี้ ยุติ QE แล้วครับ นั่นหมายความว่า ยกเลิกกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ไป 1 เรื่อง ทอง ลงทันที่ 25 เหรียญ ดอกเบี้ยยังไม่ขึ้น นั่นหมายความว่า เงินที่อยู่ในตลาดหุ้นทั่วโลกจะยังไม่ไหลกับ แต่อาจจะไหลข้ามประเทศได้

                            ต้นทุนการผลิตทองจากรายงาน ที่ผมตามอยู่ประจำ ซึ่งเป็น 1 ในดัชชนีที่ควรตาม ย้ำนะครับว่าเป็นแค่ส่วนประกอบ ระบุว่า ต้นทุนการผลิตทองเพิ่มขึ้น 50 เหรียญ อยู่ที่ 906 เหรียญ และผลผลิตลดลง 4 % ดังนั้นทองใหม่ที่จะเข้าตลาดควรจะอยู่ที่ 1225 ขึ้นไป

                             ประเด็นที่ทองยังไม่ไปไหน ขึ้นไปได้ช่วงเดียวและตกลงมาในช่วงนี้ เพราะ อินเดียได้ผ่านเทศกาล ดีปาวรี ไปแล้วนั่นหมายความว่า อินเดียจะลดการซื้อลงบางส่วนในช่วงนี้  และ ประเทศจีนเริ่มเข้มงวดเรื่อง การให้ของขวัญเจ้าหน้าที่ เพื่อเหตุผลที่คาดเดาได้ ทำให้คาดว่า ในระยะนี้ ก่อนถึงตรุษจีน จีนน่าจะไม่คึกคักเหมือนที่ผ่านมา

            1 ช่วงนี้ทองในตลาดโลกลงต่ำกว่า 1200 แล้ว

            2 ต้นทุนที่แท้จริงของทองใหม่ เพิ่มขึ้น และ ยอดผลิตลดลง น่าจะอยู่ที่ 1250  

            นั่นหมายความว่า ซื้อตอนนี้เท่ากับได้ต่ำกว่าราคาที่ควรจะเป็น

            ถ้าพวกที่เล่น Future Series V ซึ่งสัญญาเหลืออีก 1 วัน ได้ฮึดมาสู้อะไรบ้าๆในคืนวันศุกร์

            วันเสาร์นี้ เจอกันที่เยาวราช ครับ

http://www.kingsgateconsolidated.com.au/wp-content/uploads/2014/10/141030KCN_Sep14_QR.pdf 

Share this post


Link to post
Share on other sites

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

Guest
Reply to this topic...

×   Pasted as rich text.   Paste as plain text instead

  Only 75 emoji are allowed.

×   Your link has been automatically embedded.   Display as a link instead

×   Your previous content has been restored.   Clear editor

×   You cannot paste images directly. Upload or insert images from URL.

Loading...

×
×
  • Create New...