Jump to content
กระดานทองคำ
Sign in to follow this  
Gcap GuRu

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ Gcap Gold

Recommended Posts

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 21/8/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1367 1359 1343

แนวต้าน (Resistance) 1395 1403 1415

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ส.ค.) โดยดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับต่ำ สุดในรอบ 6 เดือนเมื่อเทียบกับยูโร ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำ วันที่ 30-31 ก.ค.ในเช้าวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาไทย ขณะที่นักลงทุนต่างก็จับตาสัญญาณบ่งชี้ว่าเมื่อใดที่เฟดจะเริ่มชะลอแผนการซื้อพันธบัตรวงเงิน8 .5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของสหรัฐจะมีการประชุมกันที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในระหว่างวันที่ 22-24 ส.ค.นี้ เพื่อหารือสถานการณ์เศรษฐกิจและนโยบายการเงิน

 

สัญญาทองคำ ได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นมาตรวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 10 สกุลเงินหลักๆ ปรับตัวลดลง 0.4% เมื่อวานนี้ ทำสถิติลดลงครั้งแรกในรอบ 3 วันทำการ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูยอดนำเข้าทองคำของอินเดีย ในช่วงเทศกาลของฮินดู ซึ่งโดยปกติแล้วอินเดียจะนำเข้าทองคำเป็นจำนวนมากสำหรับเทศกาลนี้ ด้านราคาทองคำยังคงรักษาฐานแนวรับ ได้อย่างแข็งแกร่ง ยังคงมีแรงซื้อจากสัญญาณทางเทคนิคทำให้มีมุมมองว่าราคาอาจจะมีการทำ New High อีกครั้ง

 

แนะแนวทางการลงทุน

เช้านี้ยังมีมุมมองที่เป็นบวกขึ้น ราคาอาจจะปรับตัวขึ้นได้อีก ฝั่ง Long ถือสถานะต่อไป ทำกำไรบริเวณแนวต้าน ถ้าจะเปิดเล่นฝั่ง Shot แนะเปิดบริเวณแนวต้าน

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

USD/THB ดอลล่าร์สหรัฐฯเทียบกับเงินบาท ค่าเงินบาทเมื่อ วานนี้มีการเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน โดยปรับตัวอ่อนค่าลงกว่า 10 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ ทะลุระดับ 31.50 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ หลังจากที่ข้อมูล GDP ออกมาน่าผิดหวัง ทำให้นักลงทุนต่างชาติหวั่นภาวะเศรษฐกิจไทยเข้าสู่สภาวะถดถอย นอกจากนี้ สภาพัฒน์ฯ ยังปรับลดแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของปี 2556 ลงอยู่ระหว่าง 3.8-4.3% ทั้งนี้ การอ่อนค่าขึ้นของเงินบาทยังได้รับแรงหนุนจากความวิตกกังวลของนักลงทุนที่ สหรัฐฯอาจปรับเปลี่ยนมาตรการ QE ด้วย ส่วนเช้านี้ (8.00น.) ค่าเงินบาทยังทรงตัวอยู่ระดับ 31.60-31.75 บาท

ต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ

EUR/USD ค่าเงินยูโรเทียบดอลล่าร์สหรัฐฯ ค่าเงินยูโรมีการปรับตัวแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.34 โดยเช้านี้ (8.00น.) อยู่ที่ระดับ 1.342 เนื่องมาจากดอลล่าร์สหรัฐฯ มีการปรับตัวอ่อนค่าลง ก่อนการรายงานผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯที่จะมีขึ้นในคืนวันนี้ ตามเวลาไทย (ประมาณช่วงเช้าของวันพฤหัสบดี)

US Dollar Index ดอลล่าร์สหรัฐฯเทียบกับสกุลเงินอื่นค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ปรับตัวอ่อนค่าลงเทียบกับเมื่อวานนี้ โดยมีการปรับตัวลงแตะระดับ 80.75 ก่อนที่จะขยับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 80.96 ในเช้าวันนี้ (8.00น.) คาดว่า นักลงทุนลดการถือครองดอลล่าร์ก่อนการรายงานการประชุม FED ที่จะออกมาในคืนนี้ (ช่วงเช้าวันพฤหัสบดี)

 

http://www.youtube.com/watch?v=6AqV7uslHc8

Share this post


Link to post
Share on other sites

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 22/8/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,360 1,348 1,340

แนวต้าน(Resistance) 1,384 1,395 1,403

 

สกุลเงินดอลล่าร์ ยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนในรายงานการประชุมครั้งล่าสุดว่า เฟดจะเริ่มชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เมื่อใดซึ่งก่อนหน้านี้รายงานการประชุมประจำวันที่ 30-31 ก.ค.ของเฟดซึ่งได้มีการเผยแพร่ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทยระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดยังคงมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับกรอบเวลาในการชะลอมาตรการ QE สัญญาทองคำ ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้(21 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะส่งสัญญาณการปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในรายงานการประชุมซึ่งจะมีการเผยแพร่หลังจากตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการแล้วเป็นเหตุให้ทองคำปรับตัวลดลงก่อนปิดตลาดเมื่อคืนนี้โดยเฉพาะเช้าวันนี้ราคาได้ปรับตัวลดลงอีกครั้ง แต่ราคายังคงกลับมายืนอยู่บนเทรนด์ขาขี้นได้อย่างแข็งแกร่ง ทำให้มีมุมมองว่าราคาอาจจะแกว่งตัวออกด้านข้างไปก่อน

 

แนะแนวทางการลงทุน

ราคายังอยู่ในช่วงของการพักตัว อาจจะSideway ออกด้านข้างอีก 1- 2 วัน อาจจะรอเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาที่แนวรับอีกครั้ง

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

USD/THB ดอลล่าร์สหรัฐฯเทียบกับเงินบาท ค่าเงินบาทเมื่อวานนี้ยังคงมีการเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน โดยทิศทางยังคงอ่อนค่าลงต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ โดยเช้านี้ (7.30น.) ค่าเงินบาทได้อ่อนค่าขึ้นทะลุระดับ 32 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ โดยอยู่ที่ระดับ 32.00-32.15 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ คาดว่าเป็นผลจากการหวั่นเกรงภาวะเศรษฐกิจถดถอยของนักลงทุนต่างชาติที่มาก่อนหน้านี้ ประกอบกับการที่ดอลล่าร์สหรัฐฯ ได้ปรับตัวแข็งค่าขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายจากรายงานการประชุมที่ออกมาช่วงคืนที่ผ่านมา

EUR/USD ค่าเงินยูโรเทียบดอลล่าร์สหรัฐฯ ค่าเงินยูโรปรับตัวอ่อนค่าลง โดยเช้านี้ (7.30น.) อยู่ที่ระดับ 1.334 เนื่องมาจากดอลล่าร์สหรัฐฯ มีการปรับตัวแข็งค่าขึ้น

US Dollar Index ดอลล่าร์สหรัฐฯเทียบกับสกุลเงินอื่นค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นโดยเช้านี้ (7.30น.) อยู่ที่ระดับ 81.42 หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนกรกฎาคมที่ออกมา 5.39 ล้านยูนิตดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 5.15 ล้านยูนิต นอกจากนี้ รายงานผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายทางด้านการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯทอี่ อกมา ยังคงไม่ชัดเจนว่าจะมีการชะลอโครงการซื้อพันธบัตร หรือ QE เมื่อใด

 

 

http://www.youtube.com/watch?v=jsxPSjm7Fz4

Share this post


Link to post
Share on other sites

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 23/8/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,370 1,365 1,358

แนวต้าน(Resistance) 1,384 1,393 1,400

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(22 ส.ค.) หลังจากมีรายงานบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวดีขึ้น สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยรายงานของมาร์กติระบุว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตในเบื้องต้นของสหรัฐปรับตัวขึ้นมาแตะที่ 53.9 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. หลังจากที่แตะที่ 53.7ในเดือนก.ค. โดยค่าดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวของกิจกรรมในภาคการผลิต ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาแต่ยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับตัวเลขต่ำสุดในรอบปี และมีสัญญาณบ่งชี้ว่าการจ้างงานได้ปรับตัวดีขึ้นในเดือนนี้

 

ด้านราคาทองคำ ปรับตัวขึ้น 10.8 เหรียญ หลังจากข้อมูลการขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นกว่าที่คาดการณ์ทำ ให้ระดับราคามีการปรับตัวขึ้นไปทดสอบบริเวณแนวต้าน ก่อนจะมีแรงเทขายทำกำไรระยะสั้น ๆ ออกมาก่อนปิดตลาดเมื่อคืนนี้ในเช้าวันนี้ราคามีการดีดตัวขึ้นเล็กน้อยลักษณะของการเด้งรีบาวน์ทำให้มีมุมมองว่าราคาอาจจะมีการแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบ ๆ อีกระยะหนึ่ง

 

แนะแนวทางการลงทุน

ราคาปรับตัวสูงแล้วอาจจะชะลอการเข้าซื้อในระยะนี้ก่อน จนว่าราคาจะย่อลงมาทดสอบบริเวณแนวรับ

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

USD/THB ดอลล่าร์สหรัฐฯเทียบกับเงินบาท ค่าเงินบาทเมื่อวานนี้มีการเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนอยุ่ที่ช่วง 32.00 -32.20 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ โดยเมื่อวานนี้ ยังคงมีกระแสเงินทุนไหลออกจากนักลงทุนต่างชาติ ส่วนค่าเงินบาทในเช้าวันนี้ (7.30 น.) ยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับ 32.00-32.15 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ

EUR/USD ค่าเงินยูโรเทียบดอลล่าร์สหรัฐฯ ค่าเงินยูโรปรับตัวแข็งค่าขึ้นหลังจากที่ปรับตัวอ่อนค่าลงก่อนหน้านี้ โดยเช้านี้ (7.30น.) ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1.334 ใกล้เคียงกับช่วงเช้าเมื่อวานนี้ ทั้งนี้ ตัวเลขดัชนีภาคการผลิต (PMI) ของเยอรมนี และสหภาพยุโรปที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์ได้ประมาณการณ์ไว้ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่หนุนค่าเงินยูโรให้ปรับตัวสูงขึ้นแม้ว่า ตัวเลขดังกล่าวของประเทศฝรั่งเศสจะออกมาไม่ดีนักก็ตาม

US Dollar Index ดอลล่าร์สหรัฐฯเทียบกับสกุลเงินอื่นค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ยังคงทรงตัว โดยเช้านี้ (7.30น.) อยู่ที่ระดับ 81.55 หลังจากที่เมื่อคืน สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์ที่ออกมา 336,000 ราย มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 329,000 ราย อย่างไรก็ตาม The Conference Board Inc. ได้เปิดเผยตัวเลข ดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ประจำเดือนกรกฎาคม ที่ออกมาเพิ่มขึ้น 0.6% มากกว่าตัวเลขประมาณการณ์ การปรับขึ้นของดัชนีชี้นำนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการขยายตัวที่รวดเร็วของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงครึ่งปีแรก

 

http://www.youtube.com/watch?v=k77PiQMDewI

Share this post


Link to post
Share on other sites

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 26/8/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1387 1380 1371

แนวต้าน (Resistance) 1407 1410 1415

 

สกุลเงินดอลล่าร์อ่อนค่ามีรายงานของกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐจะระบุว่า ยอดขายบ้านใหม่ในเดือนก .ค. 2556 ร่วงลง 13.4% แตะระดับ 394,000 หลัง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน และยังต่ำกว่าระดับที่ได้มีการประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้มีแรงขายออกมา

 

ด้านราคาทองคำ เมื่อคืนวันศุกร์ ที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวลดลง หลังจากได้รับรายงานการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ จากข้อมูลยอดขายบ้านใหม่ที่ปรับตัวลดลง และเป็นการปรับตัวลดลง ต่ำสุดในรอบ 9 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขที่นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้

 

ด้านเทคนิค ราคายังคงมีโอกาส ปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง หลังจากที่ราคาได้ได้ผ่านจุด ที่เป็นแนวต้านสำคัญ ๆ โดยเฉพาะ เส้น MA 100 วันซึ่งเป็นเส้นเปลี่ยนแปลง สำหรับเทรนด์ ระยะกลาง ทาให้มีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้น

 

แนะแนวทางการลงทุน

รอเข้าซื้อบริเวณแนวรับ เมื่อราคาอ่อนตัว หากราคายังไม่หลุด $ 1,380 Us ยังมีมุมมองที่เป็นบวก

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

USD/THB ดอลล่าร์สหรัฐฯเทียบกับเงินบาท ค่าเงินบาทเช้าวันนี้ (7.30น.) มีการปรับตัวแข็งค่าต่อเนื่องจากวันศุกร์ หลังจากที่ภาวะเงินทุนไหลออกเริ่มที่จะทรงตัว ประกอบกับ การอ่อนค่าลงของดอลล่าร์สหรัฐฯ หลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือน กรกฎาคมที่เริ่มจะชะลอตัว โดยเช้าวันนี้ (7.30น.) ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 31.80-31.90 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ

EUR/USD ค่าเงินยูโรเทียบดอลล่าร์สหรัฐฯ ค่าเงินยูโรปรับตัวแข็งค่าขึ้นหลังจากที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจของยูโรโซนมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย วันศุกร์ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรป เผยรายงานเบื้องต้นว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซนในเดือนกรกฎาคมนั้น ปรับตัวสูงขึ้นกว่าที่ประเมินไว้ โดยดัชนีความเชื่อมั่นภาคครัวเรือนปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ -15.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือน กรกฎาคม 2554 จากระดับเดือนก่อนหน้าที่ -17.4 นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของสกุลเงินยูโรยังได้แรงหนุนจาก ดอลล่าร์สหรัฐฯ ที่ปรับตัวอ่อนค่าลงด้วย โดยเช้านี้ (7.30น.) สกุลเงินยูโรเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ 1.338

US Dollar Index ดอลล่าร์สหรัฐฯเทียบกับสกุลเงินอื่นค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ มีการปรับตัวอ่อนค่าลง หลังจากที่คืนวันศุกร์ สหรัฐฯ ได้เปิดเผยตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 9 เดือน โดยยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 394,000 ยูนิต จากตัวเลขประเมินที่ 487,000 ยูนิต และตัวเลขเดือนก่อนหน้าที่ 455,000 ยูนิต โดยเช้านี้ (7.30น.) ดอลล่าร์สหรัฐฯ เทียบสกุลเงินอื่นอยู่ที่ระดับ 81.35

 

 

http://www.youtube.com/watch?v=dbethv4psQ4

Share this post


Link to post
Share on other sites

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 27/8/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,391 1,382 1,378

แนวต้าน (Resistance) 1,415 1,427 1,441

 

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐในเดือนก.ค.ร่วงลง 7.3% จากเดือนมิ.ย. สู่ระดับ 2.266 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดในรอบเกือบ 1 ปี และหดตัวรุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะปรับตัวลง 4%ประกอบกับเมื่อคืนวันศุกร์ รายงานยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐในเดือนก.ค. 2556 ร่วงลง 13.4% แตะระดับ 394,000 หลัง แตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนซึ่งข้อมูลดังกล่าวหนุนราคาทองคำจากกระแสคาดการณ์ว่าด้วยข้อมูลดังกล่าวจะทำให้เฟดเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรที่เดือนละ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อไปส่วนในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะจับตาดูข้อมลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงราคาบ้านเดือนมิ.ย.จากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จาก Conference Board ที่จะมีการเปิดเผยในวันอังคารนี้ รวมทั้งประมาณการครั้งที่ 2 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐในช่วงไตรมาส 2/2556 ที่มีกำหนดรายงานในวันพฤหัสบดีด้านราคาทองคำในเช้าวันนี้ หลังจากราคาดีดขึ้นทดสอบบริเวณแนวต้านได้อีกครั้ง แต่สัญญาณอินดิเคเตอร์ ไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นตาม ทำให้มีสัญญาณ Bearish Divergence ก่อนที่จะมีแรงเทขายทำกำไรออกมา ทำให้มีมุมมองว่าการที่จะเข้าซื้อทองคำในระยะนี้อาจจะมีความเสี่ยง หากโดนแรงเทขายออกมาอีกครั้ง

 

แนะแนวทางการลงทุน

ฝั่งซื้ออาจจะชะลอการลงทุนออกไปก่อนหรือรอราคาอ่อนตัวลงมาที่ กรอบราคา $ 1,380 Us/Oz- $ 1,370 Us/Oz อาจจะพิจารณาเข้าซื้อเพียงบางส่วน หากราคาดีดทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แนะเปิด Shot

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

USD/THB บาทแตะระดับที่ 32.02 ในวันเช้าวันนี้ โดย เงินบาทแตะระดับที่อ่อนค่ามากสุดในรอบ 3 ปี ในสัปดาห์ก่อน ตามการขายหุ้นและพันธบัตรโดยนักลงทุนต่างชาติ USDTHB ยังคงห่างไกลจากทั้งค่าเฉลี่ย 30 วัน และ 50 วัน ที่ 31.30 และ 31.22 ตามลา ดับ ซึ่งดูเหมือนว่า USDTHB จะอยู่ในระดับสูงต่อไปจนกว่าเราจะเห็นการปรับปรุงในภาคเศรษฐกิจมากกว่านี้ วันนี้ คาดว่าตลาดจะรอดูข้อมูลการค้าจากกระทรวงพาณิชย ์

สกุลเงินเอเชีย ปิดผสม โดยหลายสกุลเงินดีดตัวขึ้น หลังผู้ค้าเงินลดความเสี่ยงโดยการลดการถือโพสิชั่น ซื้อ-ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ยังคงเผชิญแรงกดดัน ทั้งจากความกังวลเรื่อง QE และจากความต้องการ USD ของผู้นาเข้าในช่วงสิ้นเดือน สาหรับเงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียที่อ่อนค่ามากสุดในสัปดาห์ หรือ 4.4% รัฐบาลได้จะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและดูแลค่าเงินในวันศุกร์ ซึ่งรวมทั้งมาตรการลดการนำเข้ารถหรูและพลังงาน เช่นเดียวกับการขยายระยะเวลาในการฝากเงินดอลลาร์ พร้อมยังขยายวงเงินการฝากเงินดอลลาร์ในธนาคารพาณิชย์ จากมากที่สุด 30 วันไปที่ 12 เดือน

EUR/USD ปิดสูงขึ้น 0.20% สู่ระดับ 1.3383 เงินยูโรปรับขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่ข้อมูลยอดขายบ้านใหม่ สหรัฐออกมาน่าผิดหวังในวันศุกร์ ทั้งนี้ ในสัมมนาวิชาการของเฟดสาขาแคนซัสที่เมืองแจ็คสันโฮล สมาชิกของคณะกรรมการนโยบายการเงินของ ECB ชี้ให้เห็นมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยมีสมาชิกบางคนเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและบอกว่าไม่มีความจำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยอีก ในขณะที่บางคนกล่าวว่าอาจจะต้องมีการผ่อนคลายนโยบายมากขึ้นในช่วงต่อไป เงินยูโรอาจอ่อนค่าลงได้หาก ECB บ่งชี้ว่าอาจจะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มโดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางการคาดหมายการลด Q.E.

Share this post


Link to post
Share on other sites

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 28/8/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1412 1404 1390

แนวต้าน (Resistance) 1420 1424 1440

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในซีเรียได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย เช่นเงินเยนและเงินฟรังค์ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ซีเรียมีขึ้นหลังจากนายชัค ฮาเกล รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ กล่าวกับบีบีซีเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐพร้อมเปิดฉากโจมตีซีเรีย หากประธานาธิบดีบารัค โอบามา เลือกใช้มาตรการดังกล่าวและได้สั่งการลงมา สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น หลังจากสถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีเพิ่มขึ้น แตะ 107.5 ในเดือนส.ค. จากระดับ 106.2 ในเดือนก.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจเยอรมนียังคงมีความแข็งแกร่งต่อเนื่อง

 

ด้านราคาทองคำหลังจากเมื่อคืนวานนี้ ราคาสามารถทำ New High ได้อีกครั้ง จากแรงซื้อเก็งกำไร ระยะสั้น ๆ โดยราคาได้ขึ้นทำ High ที่ $ 1,424 Us/Oz ก่อนที่จะมีแรงเทขายทำกำไรระยะสั้น ๆ ออกมา จากความวิตกกังวลที่ว่า สหรัฐฯ อาจจะใช้การปฎิบัติการทางทหารกับซีเรีย ซึ่งหวั่นว่าจะทำให้ราคาน้ามันปรับตัวสูงขึ้น อีกครั้ง ซึ่งสาเหตุของการปฎิบัติการครั้งนี้ เนื่องมาจากการที่ซีเรียใช้อาวุธเคมี ตอบโต้กลุ่มกบฏ

 

แนะแนวทางการลงทุน

อาจจะพิจารณาเข้าซื้อที่แนวรับบางส่วนหากราคาหลุด $ 1,390 Us/Oz อาจจะชะลอการเข้าซื้อและตัดขาดทุนออกไปก่อน

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

USD/THB เพิ่มขึ้น 0.41% มาสู่ 32.04 หลังจากที่ตัวเลขการส่งออกออกมาอ่อนแอมากกว่าคาดและการขาดดุลการค้าในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของค่าเงินบาท การขาดดุลการค้าในช่วง 7 เดือนแรกของปี อยู่ในระดับที่สูงที่สุดตั้งแต่ปี 1992 (เป็นอย่างน้อย) และถ้าอุปสงค์ของคู่ค้าหลักไม่ปรับดีขึ้น การฟื้นตัวของการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี อาจจะอ่อนแอมาก เรายังคงแนะนำให้ผู้นำเข้าป้องกันความเสี่ยงในระยะสั้นก่อนการประชุมเฟดช่วงกลางเดือนกันยายน

สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ปิดลดลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ยกเว้นเงินวอนเกาหลีใต้และเงินดอลลาร์ไต้หวัน เงินวอนเกาหลีใต้ถูกมองว่าเป็นสกุลเงินที่"ปลอดภัย" ท่ามกลางแรงขายสกุลเงินเอเชียโดยนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงเห็นการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในปีนี้ แม้ว่าจะเติบโตในระดับต่ำ

ส่วนเงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียทำ สถิติแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี อีกครั้ง นำโดยความต้องการดอลลาร์สหรัฐฯจากภาคธุรกิจท้องถิ่น ผู้เล่นในตลาดยังคงไม่มั่นใจว่ามาตรการการหนุนค่าเงินและกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ประกาศเมื่อวันศุกร์จะป้องกันไม่ให้รูเปียห์อ่อนค่าลงอีก EUR/USD ปิดลดลง 0.11% ไปที่ระดับ 1.3368 ค่าเงินยูโรขยับลงเล็กน้อยในตอนท้ายของวัน แม้ว่าจะได้ปรับไปที่ 1.34 หลังจากที่สหรัฐเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาแย่กว่าที่คาดไว้ 2 วันติดต่อกัน ผู้เล่นในตลาดยังคงมองว่าเป็นสกุลเงินยูโรได้แข็งค่าขึ้นมากเกินไปในช่วง 7 สัปดาห์ผ่านมา และพื้นฐานเศรษฐกิจยังอ่อนแอบวกกับความกังวลเรื่อง QE จะนำไปสู่การอ่อนค่าของเงินยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในช่วงต่อไป ในขณะที่ การเมืองอิตาลีอาจส่งผลกระทบบางส่วนต่อความเชื่อมั่นในภูมิภาค

 

 

 

http://www.youtube.com/watch?v=Z7zOFhiTZnA

Share this post


Link to post
Share on other sites

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 29/8/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1396 1390 1387

แนวต้าน (Resistance) 1422 1428 1434

 

สกุลเงินดอลล่าร์ ยังคงมีความผันผวน จากกระแสข่าว แรงกดดันต่อสถานการณ์ในซีเรียว่าสหรัฐฯจะมีการโจมตีหรือตอบโต้ทางการทหารต่อซีเรีย แม้จะมีแรงซื้อจากการคาดการณว่า FED กำลังถกเถียงกันว่าเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งพอที่เฟดจะเริ่มชะลอโครงการซื้อพันธบัตรวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนหรือยัง ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่าเฟดจะเริ่มชะลอโครงการดังกล่าวในการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 17-18 ก.ย.นี้

 

ราคาทองคำปรับตัวลดลง ทางเทคนิค หลังจาที่ปรับตัวสูงขึ้นตลอด สองสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการปรับตัว อย่างต่อเนื่องดังกล่าวจากความไม่แน่นอนต่อ เฟด ที่ไม่มีสัญญาณว่าจะปรับลดมาตราการการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ ส่งผลให้ตลาดขาดความชัดเจน จนสกุลเงินดอลล่าร์อ่อนค่าอย่างต่อเนื่องมาตลอด และจากการที่ราคาได้ปรับตัวสูงขึ้นนั้นเทรนด์ระยะกลางได้กลับตัวเป็นขาขึ้น นั้น แต่เนื่องจากราคาเข้าเขตแรงซื้อมากเกินไปทาให้มีแรงเทขาย ลักษณะของการพักตัว เพื่อเตรียมตัวขึ้นทดสอบในครั้งถัดไป

 

แนะแนวทางการลงทุน

ราคาน่าจะเป็นการปรับฐานอีกครั้ง อาจจะใช้เวลาปรับฐาน 2-3 วัน ให้รอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาที่แนวรับ

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

USD/THB เพมิ่ ขนึ้ 0.41% มาสู่ 31.99 หลังจากที่ตัวเลขการส่งออกออกมาอ่อนแอมากกว่าคาดและการขาดดุลการค้าในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของค่าเงินบาท การขาดดุลการค้าในช่วง 7 เดือนแรกของปี อยู่ในระดับที่สูงที่สุดตั้งแต่ปี 1992 (เป็นอย่างน้อย) และถ้าอุปสงค์ของคู่ค้าหลักไม่ปรับดีขึ้นการฟื้นตัวของการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี อาจจะอ่อนแอมาก เรายังคงแนะนำให้ผู้นำเข้าป้องกันความเสี่ยงในระยะสั้นก่อนการประชุมเฟดช่วงกลางเดือนกันยายน

Dollar เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วันเมื่อเทียบเงินเยน เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนหน้า เมื่อเวลา 8.12 น.ตามเวลานิวยอร์ก เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งขึ้น 0.55% แตะ 97.47 เยน/ดอลลาร์ ขณะเดียวกันดอลลาร์ก็แข็งค่า 0.4% ที่ระดับ 1.3345 ดอลลาร์/ยูโร ส่วนเงินเยนอ่อนค่าลง 0.1% สู่ระดับ 130.09 เยน/ยูโร เจ้าหน้าที่ของเฟดกำลังถกเถียงกันว่าเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งพอที่เฟดจะเริ่มชะลอโครงการซื้อพันธบัตรวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนหรือยัง ขณะที่นกเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่าเฟดจะเริ่มชะลอโครงการดังกล่าวในการประชุมครั้งต่อไปในวันที่17-18 ก.ย.นี้

 

 

http://www.youtube.com/watch?v=vGYv8YCN7n8

Share this post


Link to post
Share on other sites

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 30/8/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1398 1390 1385

แนวต้าน (Resistance) 1416 1422 1434

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขประมาณการครั้งที่สองของจีดีพีที่แท้จริงประจาไตรมาส 2/2556 ขยายตัว 2.5% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เพราะได้แรงหนุนจากยอดส่งออกที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และจากการที่บริษัทเอกชนปรับเพิ่มสต็อกสินค้าคงคลัง ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 ส.ค. ร่วงลง 6,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 331,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 332,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 336,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐมีความแข็งแกร่งในเดือนส.ค.

 

ด้านราคาทองคาปรับตัวลดลงทางเทคนิค หลังจากตัวเลข เศรษฐกิจที่ออกมาเมื่อคืนนี้ ส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัว อาจจะส่งผลให้ FED พิจารณาปรับลดโครงการซื้อพันธบัตรลง โดยเมื่อวานนี้มีแรงเทขายออกมาเล็กน้อย แต่ราคายังคงญืนอยู่บนแนวรับได้อย่างแข็งแกร่อาจจะทาให้มีการรีบาวน์ ขึ้นไปทดสอบแนวต้านบนอีกรอบ

 

แนะแนวทางการลงทุน

การปรับฐานคงยังไม่จบ ให้เข้าซื้อที่บริเวณแนวรับ เมื่อราคาอ่อนตัวลงมา

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

USD/THB เพิ่มขึ้น 0.5% ไปปิดที่ 32.16 เงินบาทอ่อนค่าลงไปสู่ระดับที่อ่อนค่าสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2010 จากการที่ผู้นำเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐฯมากขึ้น และชาวต่างชาติยังคงขายหุ้นและพันธบัตรไทยออกมา ในขณะที่ตลาดสงสัยว่า ธปท.อาจจะมีการแทรกแซงวานนี้ ทำให้ USDTHB ยังไม่ได้ทะลุแนวต้านที่ 32.20

 

วานนี้ ธปท. กล่าวว่ากำลังทบทวนแผนการผ่อนคลายกฎระเบียบของการลงทุนในต่างประเทศ หลังมีเงินทุนไหลออกมากจากความกังวลด้านมาตรการ QE (ธปท. เริ่มการผ่อนคลายตั้งแต่ในปี 2010 เพื่อลดแรงกดดันต่อการแข็งค่าของเงินบาท) ในเวลาเดียวกัน ธปท. ยังบอกว่ากำลังศึกษาวิธีที่จะเพิ่มผลตอบแทนเงินสำรองต่างประเทศ หรือการลงทุนในรูปแบบ Sovereign wealth fund โดยรองผู้ว่าฯ ผ่องเพ็ญ กล่าวว่า ประมาณ 50%-60% ของการขาดทุนของงบธปท. เป็นผลมาจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (negative carry) และการแข็งค่าของเงินบาทในอดีต จึงมีความจำเป็นต้องทำอะไรซักอย่าง โดยได้ส่งแผนให้บอร์ดธปท.แล้วในเดือนมิถุนายน แต่คงต้องมีการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายก่อนดำเนินการดังกล่าวได้

 

Dollar เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการคาดการณ์ที่ว่าสหรัฐและ ประเทศพันธมิตรอาจจะใช้กำลังทางทหารโจมตีซีเรีย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

 

 

http://www.youtube.com/watch?v=qt2Y253hqKA

Share this post


Link to post
Share on other sites

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 2/9/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1379 1373 1365

แนวต้าน (Resistance) 1395 1402 1412

 

สกุลเงินดอลล่าร์ผันผวน เนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่า ความเป็นไปได้ที่สหรัฐอาจจะใช้กาลังทางทหารเข้าแทรกแซงซีเรียอาจจะส่งผล กระทบต่ออุปสงค์ของสกุลเงินดอลล่าร์

 

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายจอห์น เคอร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐได้เปิดเผยกรณีที่สหรัฐอาจจะเข้าแทรกแซงซีเรีย ถึงแม้ว่าประเทศพันธมิตรอย่างอังกฤษและเยอรมนีจะระบุว่าอาจจะไม่เข้าร่วม ปฏิบัติการก็ตาม เนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่า ความเป็นไปได้ที่สหรัฐอาจจะใช้กาลังทางทหารเข้าแทรกแซงซีเรียอาจจะส่งผล กระทบต่ออุปสงค์ของราคาทองคา โดยเช้าวันนี้ ราคาทองคาได้ปรับตัวลดลง ก่อนที่จะมีแรงไล่ซื้อกลับขึ้นมา เรามองเป็นเพียงลักษณะของการเด้งรีบาวน์ แต่การรีบาวน์ในรอบนี้ อาจจะปรับตัวได้สูงพอสมควร ดังนั้นจึงควรจะทะยยอยเข้าซื้อเพื่อเก็งกาไร ระยะสั้น ๆ ทากาไรในช่วงเด้งรีบาวน์

 

แนะแนวทางการลงทุน

ราคาปรับตัวลดลงแนะทยอยเข้าซื้อ สะสมแล้วไปทากาไรบริเวณแนวต้านของวัน

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

USD/THB ลดลง 0.2 % ไปอยู่ที่ 32.03 เงินบาทดีดตัวขึ้นเทียบดอลลาร์ พร้อมกับสกุลเงินเอเชียอื่นๆ หลังดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวดีขึ้น และนักลงทุนทำการซื้อคืนสกุลเงินเอเชียหลังจากที่มองว่าการเทขายในสัปดาห์ นี้อาจจะมากไปสำหรับช่วงสั้นๆ และรอดูตัวเลขเศรษฐกิจต่อไป ทั้งนี้ ในตลาดคาดว่าธปท.ได้เข้ามาช่วยหนุนค่าเงินบาทเล็กน้อยในสัปดาห์นี้ รวมถึงเมื่อวาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผันผวนที่มากเกินไป คาดว่าสกุลเงินเอเชีย รวมถึงเงินบาท จะยังคงทรงตัวอยู่ในกรอบตามความต้องการดอลลาร์ที่ ลดลงหลังความกังวลเกี่ยวกับการโจมตีในซีเรียได้เพลาลง อย่างน้อยก็สำหรับสุดสัปดาห์นี้

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (31 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับดูว่าสหรัฐและประเทศพันธมิตจะตัดสินใจโจมตีซีเรียหรือไม่ หลังจากอังกฤษได้แสดงท่าทีว่าจะไม่เข้าร่วมด้วย และล่าสุดรัฐสภาสหรัฐฯ ได้ลงความเห็นว่าควรจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือประชาชนชาวซีเรีย หลังจากโดนสารเคมีจากการสู้กับกลุ่มต่อต้านรัฐบาล

 

http://www.youtube.com/watch?v=HCPFPDUBCyk

Share this post


Link to post
Share on other sites

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 3/9/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,379 1,373 1,365

แนวต้าน (Resistance) 1,398 1,412 1,434

 

ราคาทองได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอแผนการซื้อพันธบัตรในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินครั้งต่อไป หลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐหลายตัวออกมาในทิศทางที่สดใส โดยเฟดจะมีการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 17-18 ก.ย.นี้

ปธน.โอบามากล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่าเขาจะเปิดโอกาสให้สมาชิกสภา นิติบัญญัติได้อภิปรายและลงมติเกี่ยวกับแผนการตอบโต้ทางทหารต่อซีเรีย อันเนื่องมาจากข้อกล่าวหาในการใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชนใกล้กับกรุง ดามัสกัส ขณะที่บรรดาผู้นำคองเกรสเห็นพ้องกันที่จะนำประเด็นดังกล่าวขึ้นพิจารณาทันที ที่มีการเปิดสมัยประชุมสภาอีกครั้งในวันที่ 9 ก.ย.นี้ นักวิเคราะห์กล่าวว่า การชะลอการแทรกแซงทางทหารในซีเรีย ขณะที่สหรัฐรอขอความเห็นชอบจากคองเกรส

ด้านราคาทองคำ ยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบ ๆ เนื่องจากเป็นวันหยุดสหรัฐ ฯ ทำให้ Volume การซื้อ-ขายมีน้อย ทำให้กราฟออกแนว Sideway อาจจะชะลอการลงทุนออกไปก่อน

 

แนะแนวทางการลงทุน

ราคาเข้ากรอบสามเหลี่ยมรอการ Break Out อาจจะชะลอการลงทุนหรือ หากราคาอ่อนตัวทำ New Low อาจจะเข้าซื้อเพิ่มเติม

 

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

ประเมินแนวโน้มค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ (2-6 ก.ย.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 31.90-32.30 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยคงต้องจับตาสถานการณ์ในซีเรีย และกระแสการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มของมาตรการ QE ของเฟด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ดัชนี ISM ภาคการผลิต-ภาคบริการ ข้อมูลการจ้างงาน และอัตราการว่างงานเดือน ส.ค. ยอดสั่งซื้อของโรงงาน ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ รายจ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.ค. รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) ของเฟด จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดอาจจับตาตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค.ของไทยอีกด้วย อนึ่ง ตลาดการเงินสหรัฐฯ จะปิดทาการในวันจันทร์เนื่องในวันแรงงาน

 

ทั้งนี้ เงินบาทฟื้นตัวขึ้น หลังร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีครั้งใหม่ โดยเงินบาทร่วงลงอย่างหนักในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ สวนทางความแข็งแกร่งของเงินเหรียญสหรัฐ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์เกี่ยวกับการชะลอมาตรการ QE ของเฟด และแรงซื้อเงินเหรียญสหรัฐ ในฐานะที่เป็นสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางสถานการณ์ไม่แน่นอนในซีเรีย นอกจากนี้ เงินบาทยังเผชิญแรงขายเช่นเดียวกับสกุลเงินเอเชียอื่นๆ ที่ได้รับแรงกดดันจากสัญญาณการไหลออกของเงินทุนอีกด้วย อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับมาฟื้นตัวขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์จากปัญหาในซีเรียที่คลายความ กังวลลง (เพื่อรอดูความชัดเจน) และแรงขายเงินดอลลาร์ฯ จากผู้ส่งออก/นักลงทุนเพื่อทำกำไร รวมถึงแรงขายเงินดอลลาร์ฯ บางส่วน ที่อาจจะเกี่ยวกับการดูแลเสถียรภาพค่าเงินของ ธปท. ซึ่งเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับธนาคารกลางชาติเอเชียอื่นๆ

Share this post


Link to post
Share on other sites

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 4/9/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,403 1,391 1,384

แนวต้าน (Resistance) 1,424 1,434 1,444

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งทาให้เกิดการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะใช้เป็นเหตุผลในการปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

 

สัญญาทองคาตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นวันแรกในรอบ 4 วันทาการ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคาซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าวิกฤตการณ์ซีเรียอาจทวีความรุนแรงมากขึ้น

 

ด้านสัญญาณทางเทคนิค ราคาได้ปรับตัวสูงขึ้นแล้ว ทาให้เข้าใกล้ เขตสภาวะซื้อเกินไป Over Bough แต่ราคาอาจจะมีการย่อระหว่างวันดังนั้น หากราคาอ่อนตัวอาจจะเข้าซื้อเพิ่มเติม แล้วทากาไรบริเวณแนวต้านของวัน

 

แนะแนวทางการลงทุน

ฝั่งซื้อทยอยขายทากาไรบริเวณแนวต้าน หากราคาอ่อนตัวระหว่างวันแนะเข้าซื้อบริเวณแนวรับ

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

USD/THB ปิดลดลง 0.4% ที่ 32.05 (Reuters = 31.95 ) เงินบาทได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นในเชิงบวก ต่อเศรษฐกิจเอเชียและตลาดการเงินเอเชียวานนี้ หลังจากที่ข้อมูลการผลิตจากประเทศจีนและยุโรปทำให้ ตลาดรู้สึกมีความหวังว่าเศรษฐกิจขนาดใหญ่มีความแข็งแกร่งขึ้นซึ่งน่าจะเป็น ปัจจัยบวกต่อการส่งออกในเอเชียและ การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงในภูมิภาค

 

สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้นในวันจันทร์ ยกเว้น รูเปียห์และ รูปีที่ยังคงร่วงลงตามภาวะเศรษฐกิจที่น่าเป็นห่วง ทั้งนี้ เงินวอนเกาหลีใต้แข็งค่าขึ้นแตะ ระดับ 1,100 ใกล้กับจุดสูงสุดในรอบ 4 เดือน โดยได้แรงหนุน จากดัชนีภาคการผลิตของจีน และแรงขายดอลลาร์ของผู้ส่งออก ส่วนเงินดอลลาร์ไต้หวันได้แรงหนุนจากการซื้อสินทรัพย์ในประเทศโดยนักลงทุน ต่างชาติและผู้ส่งออกมีขายเงินดอลลาร์ออกมาต่อเนื่อง จึงปรับขึ้นไปที่ระดับ 28.78 แข็งค่าสุดในรอบ 1.5 เดือน เงินรูเปียห์ร่วงลงไปที่ 10,970 หลังจากที่อินโดนีเซียรายงานว่าการขาดดุลการค้าในเดือนกรกฎาคมเพิ่มสูงขึ้น สู่ระดับ $2.3bn จาก

$0.88bn ในเดือนมิถุนายน เนื่องจากการนำเข้าพลังงาน นอกจากนั้น อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นไปที่8.79% จาก 8.61% ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก และอาจชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจ ทั้งนี้ IDR ปิดลดลง 2.3% ไปอยู่ที่ 11,184 ขณะที่ เงินริงกิตมาเลเซียปรับขึ้นเล็กน้อยหลังรัฐบาลประกาศ มาตรการลดการขาดดุลการคลัง รวมถึงการปรับขึ้นราคาน้ำมันค้าปลีกประมาณ 10% โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจ

 

 

http://www.youtube.com/watch?v=h2rxdYKgnt8

Share this post


Link to post
Share on other sites

แนวโน้มช่วงเช้า 5/9/2556 By Gcap Gold

 

แนวต้าน ( Resistance) 1,399 1,405 1,416

แนวรับ (Support) 1,384 1,388 1,377

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดนำเข้าสินค้ามายังสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.6%ในเดือน ก.ค.เมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย.สู่ ระดับ2.2859แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดส่งออกหดตัวลง 0.6% แตะ 1.894แสนล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐขยายตัว 13.3%สู่ ระดับ 3.915หมื่นล้านดอลลาร์ รายงานระบุว่า ยอดนำเข้าขยายตัวเพราะชาวอเมริกันซื้อรถยนต์ของเล่น และเครื่องใช้ไฟฟ้าจากต่างประเทศมากขึ้นในเดือน ก.ค.แสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายผู้บริโภคฟื้นตัวขึ้นปานกลางเมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย. ส่วนยอดส่งออกที่ลดลงจากเดือน มิ.ย.แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกยังคงอ่อนแอ ซึ่งกระทบต่อความต้องการสินค้าจากสหรัฐ

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4ก.ย.) หลังจากมีรายงานว่ารัสเซียได้ออกมาแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยที่สหรัฐจะใช้กำลังทางทหารโจมตีซีเรีย ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

ด้านสัญญาณทางเทคนิค ราคาทองคำยังคงอยู่ในแดนลบ เนื่องจากโดนแรงเทขายทางเทคนิคออกมา หลังจากราคาได้หลุดแนวรับ$1,400 Us/Oz ลงมาทำให้ทิศทางการกลับตัวดีดขึ้นนั้น ดูไม่ค่อยดีนัก หากราคาจะกลับตัวดีดขึ้นอีกนั้นควรจะยืน$1,400 Us/Oz ให้ได้ในระยะ1-2วันนี้ อาจจะชะลอการลงทุนออกไปก่อนจนกว่าราคาจะกลับมายืน$ 1,400 Us/Oz ให้ได้

 

 

กลยุทธ์ช่วงเช้า

หากราคายังไม่สามารถกลับมายืน $ 1,400 Us/Oz ได้

ยังมีความเสี่ยงโดนแรงเทขาย อาจจะชะลอการลงทุนออกไปก่อน

 

 

สรุปสภาวะตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

USD/THB ปิดสูงขึ้น 0.25%ไปที่ 32.13 (Reuters = 32.22) เงินบาทอ่อนค่าไปในทิศทางเดียวกับสกุลเงินอื่นในเอเชียจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยในตลาดการเงินโลก วานนี้ รองผู้ว่าฯ ธปท. นาง ผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ กล่าวว่าธปท. ได้เตรียมมาตรการรองรับสำหรับกรณีที่เฟดจะประกาศเลิกมาตรการ QE ไว้แล้ว แต่ไม่ได้เผยรายละเอียด

 

สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ปิดอ่อนค่าลง หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับขึ้น สะท้อนว่าต้นทุนของการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงได้เพิ่มขึ้นสำหรับนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ตาม วอนเกาหลีใต้รักษาระดับแข็งค่าได้จากความต้องการของนักลงทุนต่างประเทศ ในขณะที่เงินรูปีของอินเดียร่วงลงอีก 3.1%เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ไปที่ระดับ 68.12 แต่ประธานสภาที่ปรึกษาของนายกอินเดียกล่าวว่าการอ่อนค่าของค่าเงินเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะอัตราเงินเฟ้อสูงเกินไปเมื่อเทียบกับประเทศอื่น โดยรูปีอ่อนค่าลงจะก่อให้เกิดผลกระทบทางลบในระยะใกล้ แต่จะช่วยปรับการขาดดุลการค้าให้ลดลงในวันข้างหน้าหลังเศรษฐกิจชะลอตัวลงมา ทั้งนี้เงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียอ่อนค่าลงมาที่ระดับ 11,000 ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญจากความต้องการดอลลาร์ของภาคธุรกิจในประเทศ ซึ่งไม่น่าแปลกใจเมื่อดูจากการขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้น

 

EUR/USD ปิดลดลง 0.34% สู่ระดับ 1.3175 เงินดอลลาร์ สหรัฐได้ รับแรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากความตึงเครียดทาง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศยังคงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะหลังจากที่มีรายงานการทดสอบระบบขีปนาวุธโดยประเทศอิสราเอลในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน นอกจากนี้ตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐฯออกมาดีมากวานนี้ด้วย

Share this post


Link to post
Share on other sites

แนวโน้มช่วงบ่าย 5/9/2556 By Gcap Gold

 

แนวต้าน ( Resistance) 1,400 1,412 1,424

แนวรับ (Support) 1,370 1,365 1,357

 

สกุลเงินดอลล่าร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากเมื่อช่วงเช้าของวัน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยในรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีการขยายตัว “เล็กน้อยถึงปานกลาง" ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.ค.ไปจนถึงปลายเดือนส.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคที่อยู่อาศัยและการเติบโตด้านการบริโภคและการผลิต “มีการขยายตัวปานกลางใน 8 เขต ส่วนอีก 4 เขตที่เหลือนั้น บอสตัน แอตแลนตา และซานฟรานซิสโกรายงานถึงการขยายตัวเล็กน้อย และชิคาโกระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ปรับตัวดีขึ้น"

 

ด้านราคาทองคำ ในช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากที่ไม่สามารถผ่านด่านแนวต้านขึ้นไปยืนเหนือ $ 1,400 Us/Oz ได้สำเร็จ เป็นผลจากแรงเข้าซื้อเริ่มมีเข้ามาน้อย เนื่องจากแรงเทขายทางเทคนิค เมื่อคืนนี้ ทำให้ราคาได้หลุดเส้นแนวรับระยะสั้น ลงมาแล้วไม่สามารถกลับไปยืนด้านบนได้สำเร็จ ประกอบกับกราฟแท่งเทียนรายวันส่งสัญญาณ Bearish อาจจะต้องรอการสร้างฐานแนวรับใหม่ให้ได้ก่อน จึงจะพิจารณาเข้าตลาด

 

 

กลยุทธ์ช่วงบ่าย

อาจจะเป็นการปรับตัวระยะสั้น หากราคายังไม่สามารถยืน $ 1,400 Us/Oz ได้ เสี่ยงโดนแรงเทขาย

ไปรอซื้อที่กรอบ $ 1,370 Us/Oz - $ 1,360 Us/Oz

 

 

สรุปสภาวะตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา

USD/THB ปิดสูงขึ้น 0.25% ไปที่ 32.13 (Reuters = 32.22) เงินบาทอ่อนค่าไปในทิศทางเดียวกับสกุลเงินอื่นในเอเชียจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยในตลาดการเงินโลก วานนี้ รองผู้ว่าฯ ธปท. นาง ผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ กล่าวว่าธปท.ได้เตรียมมาตรการรองรับสำหรับกรณีที่เฟดจะประกาศเลิกมาตรการ QE ไว้แล้ว แต่ไม่ได้เผยรายละเอียด

 

สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ปิดอ่อนค่าลง หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับขึ้น สะท้อนว่าต้นทุนของการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงได้เพิ่มขึ้นสำหรับนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ตาม วอนเกาหลีใต้รักษาระดับแข็งค่าได้จากความต้องการของนักลงทุนต่างประเทศ ในขณะที่เงินรูปีของอินเดียร่วงลงอีก 3.1% เมื่อเทียบกับ ดอลลาร์ไปที่ระดับ 68.12 แต่ประธานสภาที่ปรึกษาของนายกอินเดียกล่าวว่าการอ่อนค่าของค่าเงินเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะอัตราเงินเฟ้อสูงเกินไปเมื่อเทียบกับประเทศอื่น โดยรูปีอ่อนค่าลงจะก่อให้เกิดผลกระทบทางลบ ในระยะใกล้ แต่จะช่วยปรับการขาดดุลการค้าให้ลดลงในวันข้างหน้าหลังเศรษฐกิจชะลอตัวลงมา ทั้งนี้เงิน รูเปียห์ของอินโดนีเซียอ่อนค่าลงมาที่ระดับ 11,000 ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญจากความต้องการดอลลาร์ของภาคธุรกิจในประเทศ ซึ่งไม่น่าแปลกใจเมื่อดูจากการขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้น

 

EUR/USD ปิดลดลง 0.34% สู่ระดับ 1.3175 เงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากความตึงเครียดทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศยังคงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะหลังจากที่มีรายงานการทดสอบระบบขีปนาวุธโดยประเทศอิสราเอลในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน นอกจากนี้ตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐฯออกมาดีมากวานนี้ด้วย

Share this post


Link to post
Share on other sites

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 6/9/2556

 

แนวรับ 1,360 1,351 1,338

แนวต้าน 1,379 1,386 1,393

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(5..) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ส่วนสกุลเงินยูโรร่วงลงหลังจากนายมาริโอ ดรากิประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำต่อไปขณะเดียวกันตลาดหุ้นนิวยอร์กลดช่ วงบวกในระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสเหล่านี้อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจลดการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าสหรัฐอาจจะโจมตีซีเรียสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (5 ..) ทำสถิติปิดลบเป็นเวลา 5 วันจากระยะเวลา 6 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจลดการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)ในขณะที่สัญญาณทางเทคนิคการปรับตัวขึ้นนั้นยังมีอยู่ในวงจำกัด แรงเทขายยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามราคาเริ่มเข้าเขตขายเกินไป ดังนั้นอาจจะพิจารณาเข้าซื้อเพียงบางส่วน

 

แนะแนวการลงทุน

แนะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาที่แนวรับของวัน พิจารณาขายทำกำไรที่แนวต้าน

 

http://www.youtube.com/watch?v=s5wNyPKI4YQ

Share this post


Link to post
Share on other sites

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 9/9/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ : 1383 1376 1352

แนวต้าน 1401 1412 1420

 

 

สกุลเงินดอลล่าร์อ่อนค่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เนื่องจากเทรดเดอร์เชื่อว่า ข้อมูลด้านแรงงานที่ซบเซาจะทาให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) นานกว่าที่คาดการณ์ไว้ในก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานเมื่อคืนวันศุกร์ ที่ผ่านมามีการปรับตัวลดลงจากที่นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (6 ก.ย.) หลังจากสหรัฐรายงานข้อมูลจ้างงานที่เพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาด ซึ่งช่วยหนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ในขณะเดียวกัน ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อวันศุกร์) หลังการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่นักลงทุนพยายามปรับตัวรับรายงานตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่ออกมาต่ากว่า คาด และประเมินความเป็นไปได้เกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐในซีเรีย

 

ด้านเทคนิคราคาทองคำ หลังจากมีแรงซื้อ กลับเข้ามาในตลาดอีกครั้ง ทำให้ราคาสามารถกลับไปยืน ฝั่ง Bullish ได้อีกครั้ง ทำให้มีมุมมองที่เป็นบวกเพิ่มมากขึ้น จึงมีความเป็นไปได้ว่าราคาอาจจะปรับตัวขึ้นอีกครั้งดังนั้นอาจจะพิจารณาเข้า ซื้อที่บริเวณแนวรับของวัน

 

 

แนะแนวทางการลงทุน

แนวโน้มเริ่มเป็นบวก แต่อาจจะมีการย่อตัวระหว่างวัน แนะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาที่บริเวณแนวรับ กรณีย่อตัวต่ากว่า $1,370 Us/Oz ให้ชะลอการเข้าซื้อ

 

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

แนวโน้มค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (9-13 ก.ย.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.20-32.50 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยคงต้องจับตากระแสการ คาดการณ์ต่อสัญญาณชะลอมาตรการ QE ของเฟด รวมถึงผลการลงมติของสภาคองเกรสสหรัฐฯ ต่อข้อเสนอของประธานาธิบดีบารัก โอบามาในการใช้กำลัง ทางทหารโจมตีซีเรีย ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนก.ย. ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคานำเข้า-ส่งออก งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือน ส.ค. สต็อกสินค้าภาคค้าส่ง-ภาคธุรกิจเดือน ก.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดอาจจับตาตัวเลขเศรษฐกิจเดือน ส.ค. ของจีนอีกด้วย ทั้งนี้ สัปดาห์ที่ ผ่านมา เงินบาทร่วงแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 3 ปี ครั้งใหม่ที่ 32.48 บาทต่อเหรียญสหรัฐ หลังจากที่ ได้รับแรงหนุนช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์จากแรงขายทำกำไรเงินเหรียญสหรัฐของนักลงทุน ทั้งนี้ เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงเกือบตลอดทั้งสัปดาห์ ตามสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชียที่ เผชิญแรง กดดันจากกระแสเงินทุนไหลออก และความกังวลต่อสถานการณ์ในซีเรีย นอกจากนี้ เงินเหรียญสหรัฐ ยังได้รับแรงหนุนจากสัญญาณแข็งแกร่งของตัวเลข เศรษฐกิจสหรัฐฯ (เช่น ดัชนี ISM ภาคการผลิตและภาคบริการ) ซึ่งหนุนการคาดการณ์การชะลอมาตรการ QE ในการประชุมเฟดวันที่ 17-18 ก.ย.

 

http://www.youtube.com/watch?v=loGaakNvfxk

Share this post


Link to post
Share on other sites

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 10/9/2556

 

แนวรับ 1,378 1,370 1,352

แนวต้าน 1,401 1,412 1,420

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า ตัวเลขจ้างงานที่น้อยเกินคาดของสหรัฐอาจจะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงาน

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าสหรัฐอาจจะใช้กกำลังทางทหารโจมตีซีเรีย อย่างไรก็ตามสัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะลดขนาดโครงการ QE หลังจากตัวเลขจ้างงานของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด

ด้านเทคนิคราคาทองคำราคาแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบ ๆ ยังขาดความชัดเจนในทิศทาง อาจจะต้องรอปัจจัยมาสนับสนุน แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมีแรงซื้อเข้ามาบ้างจากสภานะการณ์ความตรึงเครียดในตะวันออกกลางที่ยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคาและน้ำมัน

 

แนะแนวทางการลงทุน

ราคาออก Sideway อาจจะรอเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาที่แนวรับ

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

USD/THB ปิดลดลง 0.19% ที่ระดับ 32.24 เงินบาทอยู่ในภาวะถูกกดดัน เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในช่วงเซสชั่นการซื้อขายเอเชีย ก่อนการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร โดยปรับอ่อนค่าไปแตะระดับ 32.46 บาท อย่างไรก็ตาม ช่วงข้ามคืนปรับแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากตัวเลขสหรัฐฯ ออกมาแสดงความน่าผิดหวัง

สกุลเงินเอเชีย ปิดแบบผสมผสาน โดยมีเงินรูเปียห์ (2.09%) ริงกิต (0.67%) และเปโซ (0.28%) ที่ปรับอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เงินรูเปียห์ของอินโดนีเซีย ปิดที่ระดับต่ำสุดรอบ 4 ปี ต่ำตามการปรับลดลงของตลาดหุ้นและความต้องการ เงินดอลลาร์ของบริษัทในอินโดนีเซีย สำหรับเงินริงกิตของมาเลเซียอ่อนค่าลง หลังจากข้อมูลการค้าบ่งชี้ว่า การค้าเกินดุลน้อยกว่าที่คาดไว้ ในเวลาเดียวกัน เงินวอนยังสามารปรับแข็งค่าขึ้นได้ 0.51% ตามเงินทุนไหลเข้าและความต้องการเงินวอนของผู้ส่งออก ขณะที่เงินรูปีรีบาวด์ 1.33% หลังจากผู้ว่าการฯ ธนาคารกลางคนใหม่ประกาศมาตรการผ่อนคลายการเข้ามาลงทุนในอินเดียเพิ่มเติม

EUR/USD ปิดลดลง 0.26% สู่ระดับ 1.3178 เงินยูโรปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สหรัฐฯ รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสำหรับเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาด โดยเพิ่มขึ้นเพียง 169,000 ตำแหน่ง (ตลาด 180,000) ขณะที่ตัวเลขเดือนก.ค. ถูกปรับลดลงค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขที่ออกมาจะดูไม่ดีเท่าใดนัก แต่ตลาดยังคาดการณ์เรื่องการปรับขนาดของ QE อยู่ในการประชุม FOMC ครั้งต่อไปในสัปดาห์หน้า (วันที่ 17-18 ก.ค.)

Share this post


Link to post
Share on other sites

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 12/9/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,348 1,340 1,334

แนวต้าน (Resistance) 1,368 1,374 1,380

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ซีเรียเริ่มลดน้อยลง ซึ่งทำให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เนื่องจากสถานการณ์ซีเรียเริ่มคลี่คลายลงหลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐได้ขอให้สภาคองเกรสเลื่อนการลงมติในประเด็นการโจมตีทางทหารต่อซีเรีย ซึ่งบ่งชี้ว่าฝ่ายบริหารจะพยายามใช้วิธีการทางการทูตในการคลี่คลายวิกฤตซีเรียในขณะนี้

 

นอกจากนี้ โอบามากล่าวว่าสหรัฐจะทำงานร่วมกับรัสเซียและประเทศพันธมิตรอื่นๆ เพื่อดำเนินการตามญัตติของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่จะทำให้ซีเรียยกเลิกอาวุธเคมี โดยจะส่งนายจอห์น แคร์รี รมว.ต่างประเทศสหรัฐพบปะกับเจ้าหน้าที่รัสเซีย

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) ทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ซีเรียเริ่มลดน้อยลง หลังจากมีสัญญาณว่าสหรัฐอาจจะใช้ช่องทาง ทางการทูตในการคลี่คลายวิกฤตซีเรีย นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้าอย่างใกล้ชิด

 

แนะแนวทางการลงทุน

ราคาแกว่งตัวลักษณะ Sideway Down อาจจะชะลอการลงทุนออกไปก่อน รอปัจจัยมาสนับสนุนราคา ให้ปรับตัวไปด้านใดด้านหนึ่ง

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

USD/THB ปิดลดลงต่อเนื่องอีก 0.19% ไปอยู่ที่ระดับ 32.18 (รอยเตอร์ = 32.08) เงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นหลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ออกมาน่าผิดหวัง ในขณะเดียวกันการส่งออกของจีนทปี่ รับเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ช่วยยกแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคให้ดูดีขึ้น นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก 3.6% วานนี้ สร้างความเชื่อมั่นที่โดยรวมเกี่ยวกับสินทรัพย์ไทย ทั้งนี้ เรามองว่า การปรับแข็งค่าของเงินบาทอาจเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ และยังคงแนะนำให้ผู้ประกอบการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนท่ามกลางความไม่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 17-18 ก.ย. นี้

 

EUR/USD ปิดสูงขึ้น 0.11% มาอยู่ที่ระดับ 1.3193 เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันจันทร์ หลังจากที่ความกังวลเรื่อง QE เรียวเริ่มคลี่คลายลงบ้าง ขณะที่เ งินยูโรได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่ปรับตัวดีขึ้นข้อมูลจาก Sentix แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนมีความเชื่อมั่นกลับมาเป็นบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี หลังจากที่ดัชนีความเชื่อมั่นจาก Sentix อยู่ที่ระดับ 6.5 ในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น จาก -4.9 ในเดือนส.ค. ในขณะที่นักลงทุนยังแสดงความระมัดระวังประเด็นทางการเมืองในประเทศอิตาลี หลังจากที่วุฒิสภาเตรียมจะหารือและอาจลงลงคะแนนให้อดีตนายกรัฐมนตรี นาย Silvio Berlusconi ออกจากรัฐสภา หากเป็นไปตามกรณีนั้นจริง อาจทำให้อิตาลีต้องมีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง

 

 

http://www.youtube.com/watch?v=RUwefh03X90

Share this post


Link to post
Share on other sites

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 13/9/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,305 1,294 1,280

แนวต้าน (Resistance) 1,337 1,346 1,355

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ซีเรียเริ่มลดน้อยลง ซึ่งทำให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เนื่องจากสถานการณ์ซีเรียเริ่มคลี่คลายลงหลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐได้ขอให้สภาคองเกรสเลื่อนการลงมติในประเด็นการโจมตีทางทหารต่อ ซีเรีย ซึ่งบ่งชี้ว่าฝ่ายบริหารจะพยายามใช้วิธีการทางการทูตในการคลี่คลายวิกฤต ซีเรียในขณะนี้

 

นอกจากนี้ โอบามากล่าวว่าสหรัฐจะทำงานร่วมกับรัสเซียและประเทศพันธมิตรอื่นๆ เพื่อดำเนินการตามญัตติของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่จะทำให้ซีเรียยกเลิกอาวุธเคมี โดยจะส่งนายจอห์น แคร์รี รมว.ต่างประเทศสหรัฐพบปะกับเจ้าหน้าที่รัสเซีย

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) หลังจากสถานการณ์ซีเรียคลี่คลายลง นอกจากนี้ ข้อมูลด้านแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

 

แนะแนวทางการลงทุน

รีบาวน์ทดสอบแนวต้านระหว่างวันให้หาจังหวะเปิด Shot ทำกำไรระยะสั้น ๆ

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

USD/THB ปิดลดลงต่อเนื่องอีก 0.19% ไปอยู่ที่ระดับ 32.18 (รอยเตอร์ = 32.08) เงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นหลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ออกมาน่าผิดหวัง ในขณะเดียวกันการส่งออกของจีนที่ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ช่วยยกแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคให้ดูดีขึ้นนอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก 3.6% วานนี้ สร้างความเชื่อมั่นที่ดีโดยรวม เกี่ยวกับสินทรัพย์ไทย ทั้งนี้ เรามองว่า การปรับแข็งค่าของเงินบาทอาจเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆและยังคงแนะนำให้ผู้ประกอบการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลยี่ น ท่ามกลางความไม่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 17-18 ก.ย. นี้

 

EUR/USD ปิดสูงขึ้น 0.11% มาอยู่ที่ระดับ 1.3193 เงินยูโรแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันจันทร์ หลังจากที่ความกังวลเรื่อง QE เรียวเริ่มคลี่คลายลงบ้าง ขณะที่เงินยูโรได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่ปรับตัวดีขึ้น ข้อมูลจาก Sentix แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนมีความเชื่อมั่นกลับมาเป็นบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี หลังจากที่ดัชนีความเชื่อมั่นจาก Sentix อยู่ที่ระดับ 6.5 ในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น จาก -4.9 ในเดือนส.ค. ในขณะที่นักลงทุนยังแสดงความระมัดระวังประเด็นทางการเมืองในประเทศอิตาลี หลังจากที่วุฒิสภาเตรียมจะหารือและอาจลงลงคะแนนให้อดีตนายกรัฐมนตรี นาย Silvio Berlusconi ออกจากรัฐสภา หากเป็นไปตามกรณีนั้นจริง อาจทำให้อิตาลีต้องมีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง

 

Share this post


Link to post
Share on other sites

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 16/9/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,315 1,300 1,288

แนวต้าน(Resistance) 1,346 1,358 1,363

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (13 ก.ย.) ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลาง สหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้าสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (13 ก.ย.) หลังจากสถานการณ์ซีเรียผ่อนคลายความตึงเครียดลง ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 22 ดอลลาร์ หรือ 1.65% ปิดที่ 1,308.6 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาณทางเทคนิค ราคาได้ปรับขึ้นมาทดสอบแนวต้านแล้ว แต่กี่สร้างฐานการปรับตัวขึ้นอาจจะใช้เวลา 1-2 วัน โดยแนะนำว่าหากราคามีการปรับตัวลดลงอาจจะต้องทยอยซื้อบางส่วน

 

แนะแนวทางการลงทุน

ราคาอาจจะมีการปรับตัวลดลงอีกครั้ง ทยอยเข้าซื้อตามแนวรับ

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

USD/THB ยังคงปิดลดลงมาอยู่ที่ 31.75 (รอยเตอร์ = 31.73) ขณะที่ในช่วงระหว่างวัน USD/THB สามารถปรับลงไปแตะ 31.61 เงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศ ทั้งในตลาดหุ้นและพันธบัตร อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าการแข็งค่าจะเป็นเพียงระยะสั้น ๆ เนื่องจากตลาดจะระมัดระวังในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงก่อนการประชุม FOMC

 

สกุลเงินเอเชีย ปิดแบบผสมผสานเทียบกับเงินดอลลาร์ เงินรูเปียห์เปิดตลาดอ่อนค่าใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดในรอบ 4 ½ ปี ตามที่ความต้องการเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้นของบริษัทในอินโดนีเซีย แต่ค่าเงินปรับแข็งค่าขึ้น 0.99% หลังจากธนาคารกลางสร้างความประหลาดใจให้ตลาดด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นโยบายอีก 25bps มาอยู่ที่ 7.25% นอกจากนี้ ยังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากข้ามคืน หรือ FASBI มาอยู่ที่ระดับ 5.50 % เพื่อลดแรงกดดันต่อเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของค่าเงิน การสำรวจของรอยเตอร์ รายงานว่า แรงขายของเงินรูปีของอินเดีย ปรับลดลดลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ตามความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นต่อตลาดเกิดใหม่ ในขณะที่วานนี้ เงินเปโซ วอน และดอลลาร์สิงคโปร์ปรับแข็งค่าขึ้น

 

 

Share this post


Link to post
Share on other sites

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 17/9/2556

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1300 1287 1277

แนวต้าน (Resistance) 1322 1335 1353

 

นักลงทุนขานรับข่าวนายซัมเมอร์สถอนตัวจากการชิงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ สืบต่อจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดคนปัจจุบัน ที่กำลังจะครบวาระในต้นปีหน้า ซึ่งการถอนตัวของนายซัมเมอร์สอาจจะส่งผลให้นางเจเน็ต เยลเลน รองประธานเฟด มีโอกาสมากขึ้นที่จะได้ดำรงตำแหน่งสูงสุดของเฟด ทั้งนี้ตลาดการเงินคาดการณ์ในวงกว้างว่า นางเยลเลน ซึ่งมีท่าทีสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงินนั้น จะยังคงสานต่อนโยบายผ่อนคลายของนายเบอร์นันเก้ต่อไป

ข่าวความเคลื่อนไหวของนายซัมเมอร์สมีขึ้นก่อนการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันอังคารและพุธนี้ โดยนัก

เศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะเริ่มชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นการลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรลง 1.0-1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ จากวงเงินในปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) ทำสถิติปิดบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วันทำการ ขานรับข่าวที่ว่านายลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส อดีตรัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้ถอนตัวจากการชิงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ ซึ่งนายซัมเมอร์สไม่สนับสนุนการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน

 

แนะแนวทางการลงทุน

ทยอยเข้าซื้อสะสม บริเวณแนวรับ เริ่มมีสัญญาณ Bullish Divergence ให้เห็นแล้ว

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

USD/THB ปิดสูงขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 31.85 (รอยเตอร์=31.88) เงินบาทปรับย่อลงมาในวันศุกร์ หลังจากที่ค่าเงินบาทปรับขึ้นได้ตลอดทั้งสัปดาห์ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และถือเป็นการปรับแข็งค่าขึ้นมากสุดในรอบ 5 เดือน ในวันศุกร์ ตลาดเริ่มระมัดระวังการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ก่อนการประชุม FOMC ระหว่างวันที่ 17-18 ก.ย. เช้านี้ เงินบาทเปิดแข็งค่าขึ้น หลังจากนาย Summers ประกาศถอนตัว

 

สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ยกเว้นเงินดอลลาร์ไต้หวัน และเงินหยวน สกุลเงิน เอเชียปรับย่อลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ หลังจากที่ปรับแข็งค่าขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์อย่างรวดเร็วโดยการปรับย่อลงถือเป็นการขายทำกำไรก่อนการประชุม FOMC ในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ค่าเงินสกุลเอเชียถูกกดดันด้วยการคาดเดาของตลาดว่า นาย Summers จะได้รับเลือกเป็นประธานเฟดคนต่อไป ทั้งนี้ เขาได้ออกมาถอนตัวภายหลัง

 

EUR/USD ปิดเกือบไม่เปลี่ยนแปลงที่ระดับ 1.3294 เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในวงกว้างเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในวันศุกร์ หลังจากข้อมูลสหรัฐฯออกมาไม่ได้ดีตามที่ตลาดคาดไว้ และลดการสนับสนุนการปรับลดมาตรการ QE ลง โดยยอดค้าปลีกขยายตัวน้อยกว่าการคาดการณ์ ขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับลดลงอย่างมากในเดือนก.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังแสดงความผิดหวังเกี่ยวกับข่าวลือที่ว่าจะมีการแต่งตั้งนาย Larry Summers (ซึ่งตลาดมองว่าเป็นผู้ที่มีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายการเงินในระดับที่น้อยกว่า Janet Yellen) ให้เป็นประธานเฟดคนต่อไป อย่างไรก็ตาม ภายหลังนาย Summers ออกมาประกาศถอนตัวจากการเป็นผู้เ ข้าชิงตำแหน่ง ทำให้เห็นค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลอื่น ๆ ในเช้านี้ วันนี้ ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.3366

Share this post


Link to post
Share on other sites

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 18/9/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,285 1,276 1,270

แนวต้าน(Resistance) 1,308 1,1314 1,326

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมของธนาคารกลาง สหรัฐ (เฟด) นักลงทุนจับตาดูการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟด ซึ่งจะทราบผลในวันพุธนี้ โดยนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะเริ่มชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการ ประชุมครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นการลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรลง 1.0-1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ จากวงเงินในปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) ทำสถิติปรับตัวลงเป็นเวลา 5 ในวันในรอบ 6 วันทำการ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ขยายตัวน้อยกว่าการคาดการณ์ ซึ่งทำให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองทองทำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ด้านเทคนิค ราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงของการปรับฐาน ระยะสั้น โดยมีแนวรับสำคัญ ที่ บริเวณ $ 1,270 Us/Oz หากปรับตัวลงมาที่บริเวณดังกล่าวอาจจะพิจารณาเข้าซื้อสะสม

 

แนะแนวทางการลงทุน

ราคาอยู่ในช่วงของการปรับฐานให้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน หรือให้รอซื้อที่กรอบ $ 1,270 Us/Oz

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

USD/THB ปิดเซสชั่นการซื้อขายลดลง 0.41% มาอยู่ที่ระดับ 31.70 (รอยเตอร์=31.69) เงินบาทแข็งค่าขึ้นเป็นไปในทิศทางเดียวกับสกุลเงินอื่น ๆ ในภูมิภาค หลังจากข่าวการถอนตัวของนาย Summers ตลาดหุ้นไทยนำการปรับขึ้นในเอเชีย ซึ่งช่วยผลักดันความต้องการค่าเงินบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น เป็นผู้ซื้อสุทธิ จำนวน 3.03 พันล้านบาท

 

สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ต้อนรับการถอนตัวของนาย Summers ซึ่งช่วยเพิ่มความต้องการสินทรัพย์ของตลาดเกิดใหม่เงินรูปีปรับขึ้นไปแข็ง ค่ามากสุดในรอบ 1 เดือนก่อนที่จะปรับอ่อนค่าลงเล็กน้อยหลังจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสะท้อนจาก ดัชนีราคาขายส่ง) ที่ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ ที่ 6.1%YoY (ตลาดคาด 5.70%) เงินริงกิตแข็งค่าขึ้น 1.68 % ในขณะที่ดอลลาร์สิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอยู่ระดับสูงสุดรอบ 5 สัปดาห์ รายงานของ EFPR บ่งชี้ว่า เงินทุนไหลเข้ามาสู่ตลาดหุ้นของประเทศตลาดเกิดใหม่ดีดตัวเพิ่มขึ้นสำหรับ สัปดาห์ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 11 ก.ย. สูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. ขณะที่การลงทุนในพันธบัตรยังคงเห็นการไหลออกของเงินทุน เป็นสัปดาห์ที่ 16 ติดต่อกัน

 

EUR/USD ปิดเซสชั่นการซื้อขายด้วยการปรับเพิ่มขึ้น 0.38% มาอยู่ที่ระดับ 1.3344 เงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ทั้งเงินสกุลหลักและค่าเงินของประเทศตลาดเกิดใหม่ หลังจากที่อดีตรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ นาย Lawrence Summers ประกาศถอนตัวจากการเข้าชิงตำแหน่งการเป็นประธานเฟดคนต่อไป โดยการตัดสินใจของเขาถือเป็นการกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงและผลัก ดันให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นโดยเงินยูโรปรับขึ้น ไปแตะระดับสูงสุดรอบ 3 สัปดาห์ที่ 1.3383 ก่อนที่ปิดตลาดปรับลดลงมาเล็กน้อย

 

 

Share this post


Link to post
Share on other sites

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 19/9/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1341 1332 1326

แนวต้าน (Resistance) 1376 1390 1403

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป เพื่อหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงาน สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากเฟดได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดวอลล์สตรีท ด้วยการประกาศว่าจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดอาจจะลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือ QE ลงประมาณ 1-1.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกจากวันก่อน (18 ก.ย.) เนื่องจากแรงซื้อ หลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก ภายหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับตัวลงมาปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร แต่ถึงกระนั้นสัญญาทองคำก็ยังสามารถเคลื่อนไหวที่เหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากที่ร่วงลงราว 0.64% เมื่อวัน

พุธที่ผ่านมา

 

สัญญาณทางเทคนิค ราคาได้มีการปรับตัวขึ้นสูงมาก อาจจะทำให้มีแรงเทขายระหว่างวัน อาจจะเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ เพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ๆ ดังนั้นการปรับตัวขึ้นในครั้งนี้ ทำให้สัญญาณทางเทคนิคเกิดการกลับตัวได้แล้ว

 

แนะแนวทางการลงทุน

แนะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว มีมุมมองว่าราคาได้กลับตัวขึ้นอีกครั้ง อาจจะทำ New High อีกครั้ง

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

USD/THB ปิดสูงขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 31.73 (รอยเตอร์=31.70) เงินบาทปรับย่อลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ตามสกุลเงินอื่น ๆ ในภูมิภาค ผู้เล่นในตลาดขายทำกำไรระยะสั้นสินทรัพย์เสี่ยง

 

สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ต้อนรับการถอนตัวของนาย Summers ซึ่งช่วยเพิ่มความต้องการสินทรัพย์ของตลาดเกิดใหม่ เงินรูปีปรับขึ้นไปแข็งค่ามากสุดในรอบ 1 เดือนก่อนที่จะปรับอ่อนค่าลงเล็กน้อยหลังจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ สะท้อนจากดัชนีราคาขายส่ง) ที่ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ที่ 6.1%YoY (ตลาดคาด 5.70%) เงินริงกิตแข็งค่าขึ้น 1.68 % ในขณะที่ดอลลาร์สิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอยู่ระดับสูงสุดรอบ 5 สัปดาห์ รายงานของ EFPR บ่งชี้ว่า เงินทุนไหลเข้ามาสู่ตลาดหุ้นของประเทศตลาดเกิดใหม่ดีดตัวเพิ่มขึ้นสำหรับสัปดาห์ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 11 ก.ย. สูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. ขณะที่การลงทุนในพันธบัตรยังคงเห็นการไหลออกของเงินทุน เป็นสัปดาห์ที่ 16 ติดต่อกัน

 

EUR/USD ปิดสูงขึ้นเล็กน้อย 0.10% มาอยู่ที่ระดับ 1.3358 เงินยูโรยังสามารถปรับแข็งค่าขึ้นเทียบกับดอลลาร์ได้ เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนหลังดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอรมัน จากการสำรวจของสถาบัน Zew ออกมาปรับเพิ่มขึ้นมากว่าคาด โดยถือเป็นระดับที่สูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. ปี 2553 โดยความเชื่อมั่นที่สูงขึ้นของนักลงทุนเยอรมัน ถือเป็นการบ่งชี้อย่างหนึ่งว่า การเลือกตั้งทั่วไปของเยอรมนี ช่วงสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ อาจหมายถึงชัยชนะของนาง Angela Merkel ในฐานะผู้นำประเทศเป็นสมัยที่ 3 ก็ได้ ทั้งนี้ เงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นได้อย่างจำกัด

 

 

Share this post


Link to post
Share on other sites

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 20/9/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1359 1347 1339

แนวต้าน (Resistance) 1377 1390 1403

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.)เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากที่ดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) ทำสถิติพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดนับตั้งปี 2552 หลังจาก

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานให้ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน

 

ด้านเทคนิคราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อช่วงเช้าวานนี้ จากการทำกำไรระยะสั้นของนักลงทุน คาดว่า หากราคายังคงรักษาฐานแนวรับ เหนือบริเวณ $ 1,360 Us/Oz ได้อย่างแข็งแกร่ง ก็จะทำให้ราคาทีการดีดกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านใหม่ได้อีกครั้ง

 

 

แนะแนวทางการลงทุน

 

อาจจะพิจารณาเข้าซื้อที่บริเวณแนวรับของวัน

 

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

USD/THB สิ้นสุดการซื้อขายวานนี้ลดลง 0.22% มาอยู่ที่ระดับ 31.66 (รอยเตอร์ = 31.62) ก่อนการประชุม FOMC เงินบาทแข็งค่าขึ้นในเซสชั่นการซื้อขายที่เอเชีย เมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากนักลงทุนลดความกังวลเรื่องการลดขนาดการเข้าซื้อสินทรัพย์ของเฟดลง ขณะที่การไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศเข้ามาในตลาด พันธบัตรช่วยเพิ่มความต้องการเงินบาท เช้านี้ เงินบาทยังปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง โดยเปิดตลาดที่ระดับ 31.18

 

สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ตามการคาดการณ์ของตลาดที่มองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะลดขนาดการเข้าซื้อสินทรัพย์ แต่เป็นในขนาดที่น้อยกว่าการคาดการณ์ โดยค่าเงินที่แข็งค่าขึ้นวานนี้ ได้แก่ เงินรูเปียห์ (+1.74%) เงินริงกิต (+0.49%) และเงินวอน (+0.26%) โดยเช้านี้ เงินสกุลเอเชียทุกสกุลปรับแข็งค่าขึ้นเป็นการตอบรับมติการตัดสินใจของเฟด

 

EUR/USD ปิดเกือบไม่เปลี่ยนแปลงที่ระดับ 1.3352 ในวันพุธ แต่เงินยูโรปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในวันนี้ โดยเปิดตลาดที่ระดับ 1.3526 เงินยูโรปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ตัดสินใจที่จะไม่ลดขนาดการเข้าซื้อสินทรัพย์รายเดือน และคงไว้ที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน เงินยูโรซื้อขายในกรอบแคบก่อนมติดังกล่าว แต่ปรับแข็งค่าขึ้นหลังการประกาศ นอกจากนี้ เฟดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจลง โดยคาดว่า จะเห็นการขยายตัวของเศรษฐกิจระหว่าง 2.0-2.3% ในปีนี้ ลดลงจาก 2.3-2.6% ในการประมาณการครั้งก่อนเมื่อเดือนมิ.ย.

 

Share this post


Link to post
Share on other sites

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 23/9/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,289 1,275 1,270

แนวต้าน (Resistance) 1,324 1,334 1,341

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นปานกลางเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรา นิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (20 ก.ย.) หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงในการประชุมเดือนต.ค.

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (20 ก.ย.) หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงในการประชุมเดือนต.ค.

 

ด้านราคาทองคำ ในเช้าวันนี้ ทิศทางระยะสั้นได้ปรับตัวเป็นขาลงอีกครั้ง หลังจาก ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงในการประชุมเดือนต.ค. ทำให้มีแรงเทขายจากความกังวลในเรื่องของค่าเงินดอลล่าร์ จะกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง จึงมีความเห็นว่านักลงทุนอาจจะชะลอการลงทุนออกไปก่อน เพื่อรอความชัดเจนของตลาด

 

แนะแนวทางการลงทุน

เช้านี้อาจจะชะลอการลงทุนออกไปก่อน รอความชัดเจนในเรื่องทิศทาง และปัจจัยตัวเลขเศรษฐกิจ

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากที่ดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนัก ผ่านมา หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป

 

สัญญาทองคำปรับตัวลดลงในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่ทะยานขึ้นเกือบ 5% จากการที่เฟดเซอร์ไพรส์ตลาดด้วยการคงมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ต่อไป นักลงทุนชะลอการเข้าซื้อทองคำ หลังจากที่สัญญาทองคำพุ่งขึ้นขานรับเฟดที่ยังคงเดินหน้าโครงการซื้อ สินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจและการจ้างงาน ขณะเดียวกันเฟดยืนยันว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกบี้ยระยะสั้น จนกว่าอัตราว่างงานจะลดลงแตะ 6.5% และอัตราเงินเฟ้อไม่เคลื่อนไหวสูงกว่า 2.5

 

ด้านเทคนิคราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อช่วงเช้าวานนี้ จากการทำกำไรระยะสั้นของนักลงทุน คาดว่าหากราคายังคงรักษาฐานแนวรับ หรือกลับไปยืนเหนือ $ 1,360 Us/Oz ได้อย่างแข็งแกร่ง ก็จะทำให้ราคาทีการดีดกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านใหม่ได้อีกครั้ง

 

 

Share this post


Link to post
Share on other sites

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 24/9/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,304 1,295 1,277

แนวต้าน (Resistance) 1,330 1,336 1,345

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง หลังจากเฟดประกาศว่าจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดอาจจะลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือ QE ลงประมาณ 1-1.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน

 

 

สัญญาทองคำร่วงลงหลังจากซิตี้กรุ๊ปได้แสดงความคิดเห็นในรายงานล่าสุด ว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการ QE นั้น จะช่วยหนุนตลาดทองคำแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น และสัญญาทองคำยังคงมีแนวโน้มขาลง พร้อมกับคาดการณ์ว่าราคาทองอาจร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1,250 ดอลลาร์/ออนซ์ก่อนสิ้นปีนี้ เนื่องจากคาดว่าข้อมูลเศรษฐกิจจะส่งสัญญาณแข็งแกร่งขึ้น ขณะที่มอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่าราคาทองคำจะอยู่ที่ 1,200 -1,350 ดอลลาร์ในปีหน้า ก่อนที่จะมีแนวโน้มปรับตัวลง และโกลด์แมน แซคส์ คาดว่าสัญญาทองคำจะร่วงลงไปอยู่ต่ำกว่าระดับ 1,000 ดอลลาร์ในปีหน้า

 

แนะแนวทางการลงทุน

หากราคายังไม่สามารถผ่าน $ 1,336 Us/Oz ให้ระวังแรงเทขายลงมา ดังนั้น สถานะมีกำไรแนะขายทำกำไรออกไปก่อน

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นปานกลางเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อ

เก็งก ำไร หลังจากที่ดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนักผ่านมา หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป

 

 

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ยังคงผันผวนไป ตามการคาดการณ์เกี่ยวกับทิศทางการปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของสหรัฐ ส่วนปัจจัยเกี่ยวกับ พ.ร.บ.กู้เงิน 2ล้านล้านบาท เพื่อลงทุน

ด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศนั้น ในช่วงสั้นตลาดฯรับรู้ไปหมดแล้ว คงต้องรอดูในช่วง 6 เดือนถึง 1 ปี ข้างหน้าว่าบริษัทจดทะเบียนรายใดจะได้รับ

ประโยชน์จากโครงการลงทุนต่างๆ อย่างชัดเจน ซึ่งนักลงทุนต้องมีความระมัดระวังในการลงทุนในช่วงจากนี้ไป

 

 

สำหรับการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาระบุถึงเรื่องการป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาทในตลาดทองคำนั้น นายจรัมพรกล่าวว่า จะไม่เกิด

เหตุการณ์ดังกล่าวในตลาดหุ้น เพราะนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น เพราะต้องการผลตอบแทนจากราคาหุ้นมากกว่าการเข้ามาเก็งกำไรส่วนต่างค่าเงินบาท

 

Share this post


Link to post
Share on other sites

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

Guest
Reply to this topic...

×   Pasted as rich text.   Paste as plain text instead

  Only 75 emoji are allowed.

×   Your link has been automatically embedded.   Display as a link instead

×   Your previous content has been restored.   Clear editor

×   You cannot paste images directly. Upload or insert images from URL.

Loading...
Sign in to follow this  

×
×
  • Create New...