Jump to content
กระดานทองคำ

Leaderboard


Popular Content

Showing content with the highest reputation on 09/21/12 in all areas

  1. 1 point
    กลุ่มมิจฉาชีพสมัยนี้มีมากมายหลายแบบครับ สำหรับอีกกลุ่มหนึ่งที่พบบ่อย คือ... ขบวนการต้มตุ๋น แจ้งว่ามีทองคำนวนมากๆ(เป็นตัน) ต้องการจะขายในราคาถูกกว่าท้องตลาด ให้ช่วยหาลูกค้าให้ โดยจะได้ค่านายหน้าเป็นการตอบแทน ข้อสังเกตุคือ ... 1.กันออกห่างจากตัว กลุ่มนี้มักจะอ้างว่าเป็นทองที่ไม่สามารถเปิดเผยแหล่งที่มาได้ เพราะเจ้าของทองเป็นคนระดับสูง(มากๆๆ) หรือ อาจกังวลเรื่องความปลอดภัย หรือ แกล้งทำเป็นรำคาญเวลาถามถึงแหล่งที่มาและอ้างว่าถ้าไม่ซื้อจริงก็ไม่ควรรู้เพราะเค้าถูกหลอกถามมาเยอะแล้ว 2.สถานที่เก็บทอง จะไม่ยอมบอกว่าทองถูกเก็บไว้ที่ไหน อย่างไร(ทำทีเป็นต้องระมัดระวังความปลอดภัย หรือกลัวถูกปล้น) 3.แสดงบัญชี/ล็อกเงิน จะต้องทำเป็นสัญญาจะซื้อจะขาย แล้วให้ผู้ซื้อแสดงบัญชีว่ามีเงินจริง จากนั้นจะให้ทำเรื่องล็อกเงินจำนวนดังกล่าวเพื่อการซื้อขายครั้งนี้ 4.ราคา จะถูกกว่าทองตลาดมากเช่น ในขณะที่ราคาทองในตลาดโลกราคาเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 1,700,000 บาท แต่เค้าจะขายเพียง 1,300,000 บาท เท่านั้น โดยอ้างว่าเป็นการซื้อล๊อตใหญ่จึงสามารถลดได้ หรือข้ออ้างอื่นๆ อีกมากมาย 5.จำนวน จะแจ้งว่ามีจำนวนทองมาก และจะต้องขายเป็นแพ็ค เช่น แพ็คละ 50ตัน (50ตัน เท่ากับ 50,000กิโลกรัม ---> หรือคิดเป็นนำหนักบาท 3,280,000บาททองคำ ---> หรือคิดเป็นมูลค่า 84,788,000,000 ล้านบาท ---> เป็นไปได้หรือ???) ทั้งที่ในประเทศไทยมีนำเข้าทองคำ ตลอดทั้งปี รวมแล้วเพียง 150 - 290 ตัน เท่านั้น แต่พวกนั้นอ้างว่ามีทองมากถึง 1,000 - 5,000ตัน ที่ต้องการจะขาย (ลองพิจารณาถึงความเป็นไปได้) 6.ลักษณะขบวนการ จะอ้างว่าเจ้าของเป็นผู้ใหญ่(มากๆๆ) ไม่สามารถมาติดต่อได้ด้วยตนเอง แต่จะหาผู้แทนที่เป็นนายหน้า(อาจถูกหลอกมาอีกต่อหนึ่ง) เป็นผู้มีชื่อเสียง หรือมีฐานะทางสังคมดี เช่น ทหารระดับนายพล ข้าราชการระดับสูง นักการเมือง หรือแม้กระทั่งอ้างว่าเป็นตัวแทนของแพทย์ส่วนพระองค์ (ตำแหน่งอ้างบ้าง จริงบ้าง) เพื่อมาหานายหน้าต่ออีกทอดหนึ่ง ทำให้ดูว่ามีความน่าเชื่อถือมากขึ้น 7.สรุป ที่ผ่านมาไม่เคยมีการติดต่อครั้งไหนสำเร็จแม้แต่รายเดียว ซึ่งสมาคมฯ ขอเรียนว่ากลุ่มนี้คือ18มงกุฎ เพราะในความเป็นจริง ทองคำสามารถขายที่ร้านทองได้อยู่แล้ว และได้ราคาตามท้องตลาดอีกด้วย ไม่จำเป็นต้องลดราคาถึงกิโลกรัมละ 3-4 แสนบาท อย่างที่กล่าวอ้าง เพราะหากลดราคาลง 3-4 แสนบาท ต่อ1กิโลกรัม ใน1แพ็ค(50ตัน) เค้าจะขาดทุนกำไรไปถึง 20,000 - 40,000 ล้านบาทเลยทีเดียว ในความเป็นจริงแล้วใครจะยอม??? หากใครมีข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาส่งต่อให้ทางสมาคมฯด้วย เพื่อดำเนินการติดตามมิจฉาชีพกลุ่มนี้มาดำเนินคดีต่อไป
  2. 1 point
    ไม่ทราบควรทำอะไรก่อนดีอ่ะคะ ถ้าเราจะลงทุนทองให้มีเงินเข้า ไม่ต้องมากแต่เข้าตลอดดดดด ^^
  3. 1 point
    รายการ Gold Insight วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำและซิลเวอร์ วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2555 โดย ฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.classicgold.co.th http://www.chiabsengheng.co.th http://www.facebook....lassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgfg http://www.twitter.com/ilovecgf http://classicgoldfutures.blogspot.com http://itunes.apple....d464234361?mt=8 https://plus.google.com/?gpcaz=d6206a6b#114919553661509313835/posts https://market.android.com/details?id=com.codemobiles.classicgold http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
  4. 1 point
    บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 21 กันยายน 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) แกว่งตัวในกรอบรอการดีดตัว ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,770 USDต่อออนซ์ แกว่งตัวระหว่าง 1,765 – 1,776 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบๆ และเริ่มดีดกลับได้ในช่วงบ่าย เมื่อมีข่าว การเจรจาระหว่างกรีซกับทรอยก้ามีความคืบหน้า แต่ยังไม่กับตกลงกันได้ในขั้นสุดท้าย ในขณะที่สเปนกำลังพิจารณาปฏิรูประบบบำนาญ ตัดลดการใช้จ่ายลง เพื่อปูทางในการรับเงินช่วยเหลือ ค่าเงินยูโรเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้น ในสัปดาห์หน้า ประเด็นในเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้ของยุโรป การเจรจาระหว่างกรีซกับทรอยก้า และการที่สเปนอาจขอรับความช่วยเหลือจะเป็นประเด็นที่ต้องจับตา คาดว่าวันนี้ราคาทองคำจะแกว่งตัวในกรอบ โดยมีแนวรับสำคัญแรกที่บริเวณ 1,767/1,757 และแนวต้านบริเวณ 1,780/1,790 การเจรจากรีซ-ทรอยกาคืบหน้า แต่ยังไม่สามารถตกลงขั้นสุดท้าย คณะผู้เจรจาต่อรองเรื่องมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับกรีซใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงกันในการหารือในช่วงคืนวานนี้ แต่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายได้ในเรื่องมาตรการปรับลดงบใช้จ่าย 1.15 หมื่นล้านยูโร (1.49 หมื่นล้านดอลลาร์) ตามที่กลุ่มเจ้าหนี้ต่างชาติเรียกร้องมา ทีมงาน "ทรอยกา" หรือคณะผู้ตรวจการณ์ของสหภาพยุโรป (อียู), กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้ปฏิเสธข้อเสนอบางข้อจากรัฐบาลกรีซ และส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายได้ โดยการบรรลุข้อตกลงดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้กรีซได้รับเงินช่วยเหลืองวดใหม่ภายใต้มาตรการช่วยเหลือขนาด 3.15 หมื่นล้านยูโร สเปนเล็งปฏิรูประบบเงินบำนาญเพื่อขอเงินช่วยเหลือจากตปท. สเปนกำลังพิจารณาเรื่องการตรึงเงินบำนาญ และอาจเร่งรัดการปรับเพิ่มอายุสำหรับการเกษียณ ในขณะที่สเปนพยายามจะปรับลดงบใช้จ่ายลงในช่วงนี้ เพื่อที่สเปนจะได้สามารถบรรลุเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศ ถ้าหากสเปนขอความช่วยเหลือดังกล่าวในอนาคต มาตรการชุดนี้จะช่วยออมเงินให้สเปนได้อย่างน้อย 4 พันล้านยูโรต่อปี รัฐบาลอิตาลีคาดศก.ถดถอยรุนแรงขึ้น ขณะปรับเพิ่มยอดขาดดุล,หนี้ รัฐบาลอิตาลีภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติระบุเมื่อวานนี้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยของอิตาลีในปีนี้จะมีความรุนแรงมากกว่าที่เคยคาดการณ์กันไว้โดยรัฐบาลได้ปรับตัวเลขคาดการณ์ยอดขาดดุลงบประมาณและระดับหนี้สินให้สูงขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมาก ถึงแม้รัฐบาลดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดอย่างยากลำบากไปแล้วก็ตามรัฐบาลอิตาลีคาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) อาจหดตัวลง 2.4% ในปีนี้ ซึ่งสูงเป็นสองเท่าของระดับ 1.2% ที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย.และได้ปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ยอดขาดดุลงบประมาณประจำปี 2012 ขึ้นสู่ 2.6% ของจีดีพี จากเดิมที่ 1.7% และปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ประจำปี 2013 สู่ 1.8% จากเดิมที่ 0.5% หรือเท่ากับปรับขึ้นกว่า 3 เท่าจากตัวเลขคาดการณ์เดิม ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม วันนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐประกาศ ทองคำ สำหรับภาพทางเทคนิคในราย 4 ชั่วโมง ราคากำลังดีดตัวขึ้น แต่คาดว่าจะมีแรงขายบริเวณแนวต้าน 1,780/1,790 ส่วนแนวรับมีที่บริเวณ 1,760/1,755 แนะนำ นักลงทุน Trading ในกรอบ 1,750 – 1,790 โดยถ้าราคาปรับตัวสูงขึ้นเข้าใกล้แนวต้าน แนะนำ ให้ปิดทำกำไรบางส่วน และ Let profit run บางส่วน แต่ถ้าราคาอ่อนตัวลงมาบริเวณแนวรับให้เปิด Long เพิ่ม สัญญาณทางเทคนิคเป็นแนวโน้มขาขึ้น เมื่อเส้น MA 50 วันตัดเส้น MA 200 วันขึ้นมาได้ โลหะเงิน แนวต้านบริเวณ 35.0/35.2 มีแนวรับบริเวณ 34.2/33.7 แนะนำนักลงทุน Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.classicgold.co.th http://www.chiabsengheng.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf http://classicgoldfutures.blogspot.com http://itunes.apple....d464234361?mt=8 https://plus.google.com/?gpcaz=d6206a6b#114919553661509313835/posts https://market.android.com/details?id=com.codemobiles.classicgold http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
  5. 1 point
    รายการ Morning Talk วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำและซิลเวอร์ วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2555 โดย ฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.classicgold.co.th http://www.chiabsengheng.co.th http://www.facebook....lassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgfg http://www.twitter.com/ilovecgf http://classicgoldfutures.blogspot.com http://itunes.apple....d464234361?mt=8 https://plus.google.com/?gpcaz=d6206a6b#114919553661509313835/posts https://market.android.com/details?id=com.codemobiles.classicgold http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
  6. 1 point
    บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 21 กันยายน 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ 1,770.20 USDต่อออนซ์ ลดลง 1.50 USDต่ออออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,757.70 – 1,774.90 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำแกว่งตัวระหว่างวันแต่ปิดลดลงเล็กน้อย โดยราคาลงไปทำ low ระหว่างวันจากการประกาศดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของจีนเท่ากับ 47.8 ซึ่งอยู่ในระดับต่ำ ราคาดีดกลับได้เมื่อการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแย่กว่าคาด ทำให้มีความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ราคาทองคำและค่าเงิน USD ปรับตัวสูงขึ้น ราคาน้ำมันในช่วงเช้าวันนี้ปรับขึ้นมาที่ระดับ 93 USDต่อบาร์เรล จากราคาปิดที่ 91.87 USD ค่าเงินยูโรร่วงลงแม้ว่าสเปนจะประมูลขายพันธบัตรอายุ 10 ปีได้ 4.8 พันล้านยูโรมาเกินคาด ในขณะที่อัตราผลตอบแทนลดลงมาที่ระดับ 5.666% ต่ำสุดในรอบปี อย่างไรก็ตาม มีการคาดว่าผลการทำ Stress test ของธนาคารพาณิชย์สเปนจะมีความต้องการเงินทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 50 – 60 พันล้านยูโร ซึ่งผลการทำ Stress test จะออกมาในวันที่ 28 ก.ย. ส่วนประเด็นบวก คือ ปธน.ของจีนยืนยันจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลของยุโรปหรือกองทุน EFSF และพร้อมช่วยเหลือให้ยุโรปกลับมาฟื้นตัว SPDR ซื้อทองคำเพิ่มขึ้นอีก 3.01 ตัน ในช่วงเช้าวันนี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวบริเวณ 1,772 แนะนำ นักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 1,750 – 1,790 โดยเข้าซื้อเพิ่มเมื่อราคาอ่อนตัว และปิดทำกำไรบางส่วนเมื่อถึงแนวต้าน และ Let profit run บางส่วน ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น ( - ) ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น ( + ) ECB ประกาศจะเข้าซื้อพันธบัตรรอบใหม่ไม่จำกัดจำนวน แต่มีเงื่อนไขให้ประเทศที่ประสบปัญหาหนี้มีวินัยทางการคลัง ( + ) เฟดออกมาตรการ QE3 ตามคาด ( + ) BOJ ประกาศซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติม ( + ) ปธน.จีนยืนยันจะช่วยซื้อพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซน ( + ) เศรษฐกิจโลกอ่อนแอลง ( - ) ประเด็นที่ต้องติดตาม การประชุมระหว่างผู้นำ กรีซ อิตาลี สเปน วันที่ 28 ก.ย. ก่อนที่จะประชุมผู้นำยูโรโซนวันที่ 18 – 19 ต.ค. การที่สเปนจะขอความช่วยเหลือทางการเงินหรือไม่ ผลการทำ Stress test ของธนาคารพาณิชย์สเปนจะออกมาในวันที่ 28 ก.ย.อาจต้องการเงินทุนอีก 50 – 60 พันล้านยูโร การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของ ไม่มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ SPDR ซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 3.01 ตัน ถือทองคำจำนวน 1,308.41 ตัน ราคาโลหะเงินปิดที่ 34.68 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 34.12 – 34.80 USDต่อออนซ์ ราคาโลหะเงินแกว่งตัว side way ในกรอบระหว่าง 34.1 – 35.1 โดยมีแรงขายทำกำไรบริเวณ 35 USD ต่อออนซ์ และยังไม่สามารถผ่านไปได้ คาดว่าราคาจะแกว่งตัว side way สร้างฐานก่อน คาดว่าวันนี้มีแนวต้านบริเวณ 35.0/35.2 มีแนวรับบริเวณ 34.1/33.7 แนะนำนักลงทุน Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน ishares silver trust ซื้อโลหะเงิน 57.26 ตัน รวมถือโลหะเงินจำนวน 9,940.66 ตัน แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,675 – 1,760 แนะนำ นักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ แนวรับ แนวต้าน แนวโน้มระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,640 – 1,850 แนะนำ ทยอยเปิด Long ตามแนวรับ 1,750/1,720 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,640 – 1,900 รอราคาอ่อนตัว เพื่อสะสม Long เพิ่ม อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.classicgold.co.th http://www.chiabsengheng.co.th http://www.facebook....lassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf http://classicgoldfutures.blogspot.com http://itunes.apple....d464234361?mt=8 https://plus.google.com/?gpcaz=d6206a6b#114919553661509313835/posts https://market.android.com/details?id=com.codemobiles.classicgold http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
  7. 1 point
    เผยโฉม 10 ประเทศที่ถือครองทองคำมากสุดในโลก ท่ามกลางราคาที่ปรับตัวขึ้น หลังสหรัฐประกาศนโยบายคิวอี 3 แบบไร้ขีดจำกัด ราคาทองคำได้แรงผลักจากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนมองหา ท่ามกลางความวิตกว่าอาจก่อภาวะเงินเฟ้อ และทำให้มูลค่าของเงินลดลง นอกจากนี้ ธนาคารกลางของแต่ละประเทศยังสะสมทองคำในคลังเพิ่มขึ้นด้วย จากข้อมูลของสภาทองคำโลก ประจำเดือนกันยายน ระบุว่า ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ซื้อทองคำมากถึง 157.5 ตัน ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ เพิ่มขึ้น 63% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 137.9% เมื่อเทียบจากปีก่อน เมื่อพิจารณาข้อมูลการถือครองทองคำจากที่แต่ละประเทศรายงานต่อสภาทองคำโลก และคำนวณสัดส่วนการถือครองทองคำที่อยู่ในทุนสำรองระหว่างประเทศ พบว่า ประเทศที่ร่ำรวยทองคำในท้องพระคลังมากสุด คือ “สหรัฐ” โดยตัวเลขถือครองทองคำอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 8,133.5 ตัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 75.4% ของทุนสำรอง สหรัฐเคยครอบครองทองคำมากสุดในโลกถึง 20,663 ตัน ในปี 2495 ก่อนลดระดับลงต่ำกว่าหลักหมื่นตันตั้งแต่ปี 2511 รองแชมป์ที่ถือครองทองคำมากสุด คือ “เยอรมนี” สะสมทองคำไว้ 3,395.5 ตัน คิดเป็นสัดส่วน 72.3% ในทุนสำรองระหว่างประเทศ ก่อนหน้านี้ เยอรมนีเคยขายทองคำภายใต้ข้อตกลงระหว่างธนาคารกลาง (ซีบีจีเอ) ฉบับที่ 1 และ 2 โดยข้อตกลงแต่ละฉบับมีอายุ 5 ปี ขณะที่ข้อตกลงฉบับปัจจุบัน ซึ่งเป็นฉบับที่ 3 (27 กันยายน 2552-26 กันยายน 2557) กำหนดข้อตกลงในการขายทองคำไม่เกิน 400 ตันต่อปี หรือไม่เกิน 2,000 ตัน ตลอดเวลา 5 ปี แต่ธนาคารกลางเยอรมนี หรือที่เรียกว่า บุนเดสแบงก์ ขายทองคำออกมา 6 ตัน ในปี 2552 และขายไปราว 4.7 ตัน นับจากวันที่ 7 กันยายน 2554 อันดับ 3 “อิตาลี” แดนมะกะโรนีถือครองทองคำอย่างเป็นทางการ 2,451.8 ตัน หรือมีทองคำคิดเป็น 71.2%ในทุนสำรองระหว่างประเทศ ก่อนหน้านี้ แบงก์ชาติอิตาลีไม่ได้ประกาศขายทองคำภายใต้ข้อตกลงซีบีจีเอ ฉบับ 1 และ 2 รวมถึงไม่มีแผนขายทองคำในข้อตกลงฉบับปัจจุบัน ขณะที่เมื่อปีที่แล้ว ธนาคารในอิตาลีต่างเชียร์ให้ธนาคารกลางอิตาลีซื้อทองคำ และหนุนบัญชีงบดุลของธนาคารต่างๆ ก่อนการทดสอบภาวะวิกฤติ (stress test) อันดับ 4 “ฝรั่งเศส” สะสมทองคำไว้ราว 2,435.4 ตัน มีสัดส่วนทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศ 71.7% แดนน้ำหอมเคยขายทองคำ 572 ตัน ภายใต้ข้อตกลงซีบีจีเอ ฉบับ 2 อีกทั้งใช้ทองคำ 17 ตัน เพื่อซื้อหุ้นในธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (บีไอเอส) ในปลายปี 2547 แต่ไม่มีแผนจะขายทองคำภายใต้ข้อตกลงฉบับล่าสุด อันดับ 5 “จีน” ถือครองทองคำประมาณ 1,054.1 ตัน ขณะที่สัดส่วนทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ระดับ 1.7% ซึ่งยังค่อนข้างน้อยมาก เมื่อเทียบจากทุนสำรองระหว่างประเทศที่จีนมีสูงถึง 3.2 ล้านล้านดอลลาร์ การสะสมทองคำเพิ่มเติมในทุนสำรองถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับจีนที่จะผลักดันค่าเงินหยวนสู่สากล อันดับ 6 “สวิตเซอร์แลนด์” ตุนทองคำไว้ 1,040.1 ตัน มีสัดส่วนทุนสำรองที่อยู่ในรูปทองคำคิดเป็น 12.1% ก่อนหน้านี้ ทางการสวิสประกาศขายทองคำ 1,300 ตัน ที่ประเมินว่าเกินกว่าความจำเป็นในการดำเนินนโยบายการเงิน โดยทยอยขาย 1,170 ตัน ภายใต้ข้อตกลงซีบีจีเอฉบับแรก และขายอีก 130 ตัน ภายใต้ข้อตกลงฉบับที่ 2 แต่ยังไม่มีแผนขายทองคำในข้อตกลงฉบับปัจจุบัน อันดับ 7 ได้แก่ “รัสเซีย” ที่มีทองคำ 936.6 ตันในคลังหลวง หรือคิดเป็น 9.6% ในทุนสำรองระหว่างประเทศทั้งหมด โดยรัสเซียเริ่มสะสมทองคำตั้งแต่ปี 2549 เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับในตะกร้าทุนสำรอง อันดับ 8 “ญี่ปุ่น” ถือครองทองคำอยู่ราว 765.2 ตัน คิดเป็นสัดส่วนในทุนสำรอง 3.1% ทางการญี่ปุ่นมีทองคำในมือแค่ราว 6 ตัน ในยุค 1950 ธนาคารกลางญี่ปุ่นเริ่มจริงจังกับการตุนทองเมื่อปี 2502 อยู่ที่ 169 ตัน แต่ในปีที่แล้ว แบงก์ชาติญี่ปุ่นต้องขายทองคำออกมา เพื่อปั๊มเงิน 20 ล้านล้านเยน สู่ระบบเศรษฐกิจ หลังเกิดเหตุสึนามิพัดถล่มและวิกฤติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ อันดับ 9 “เนเธอร์แลนด์” สะสมทองคำไว้ 612.5 ตัน คิดเป็นสัดส่วน 60.7% ของทุนสำรอง เนเธอร์แลนด์ขายทองคำ 235 ตัน ภายใต้ข้อตกลงซีบีจีเอฉบับแรก และ 165 ตัน ในฉบับที่ 2 แต่ไม่มีแผนขายทองคำในข้อตกลงฉบับปัจจุบัน อันดับ 10 “อินเดีย” ถือครองทองคำ 557.7 ตัน คิดเป็น 9.9% ของทุนสำรองระหว่างประเทศ เป็นที่ทราบกันดีว่า ธนาคารกลางอินเดียให้ความสำคัญกับทองคำในฐานะการลงทุนที่ปลอดภัย อีกทั้งเป็นผู้ซื้อทองคำรายสำคัญจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) แต่รัฐบาลมักไม่เปิดเผยแผนการซื้อทองคำต่อสาธารณะ ส่วน “ไทย” สะสมทองคำมากเป็นอันดับ 25 มีอยู่ 152.4 ตัน หรือคิดเป็น 4.5% ของทุนสำรองระหว่างประเทศ ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com
  8. 1 point
    ผมอยากได้แบบฟอร์มใการจำนำทองครับผม ช่วยส่งให้หน่อย mark-rx@hotmail.com ขอบคุณมากๆเลยครับ
×
×
  • Create New...