รู้สึกค้างคาใจเกี่ยวกับการกำหนดราคาซื้อขายทองกรอบพระ
ในกรณีที่เรานำพระไปใส่กรอบทองคำ
ในวันที่ซื้อ ทางร้านคำนวณราคาตามน้ำหนักโดยอ้างอิงราคาทองรูปพรรณขายออก ณ วันนั้น
แล้วบวกค่าแรงช่างลงไปอีกประมาณ พันกว่าบาท
แล้วเมื่อเวลาผ่านไป / อยากจะเปลี่ยนกรอบใหม่
ให้ทางร้าน (ร้านเดิมที่ซื้อมา) นำกรอบพระเดิมตีราคาเพื่อเปลี่ยนเป็นกรอบพระใหม่
ทางร้านกลับอ้างว่าทองกรอบพระเป็นทอง 70% ไม่สามารถรับซื้อได้ตามราคาทองที่ประกาศ ณ วันนั้น ๆ ได้
ในฐานะผู้ซื้อเลยรู้สึกค้างคาใจเป็นอย่างมาก
เพราะตอนที่เราซื้อ ถึงจะรู้ว่าเปอร์เซ็นต์ทองคำที่ทำกรอบพระ
จะต่ำกว่าทองรูปพรรณปกติที่กำหนดซื้อขายการ
แต่เมื่อในวันขาย ทางร้านยังอ้างอิงราคาซื้อขายเท่ากับราคาทองคำที่ประกาศ ณ วันนั้น
แล้วยังเพิ่มค่าแรงอีกแพงโขเอาการ
แต่ตอนรับซื้อกลับอ้างอีกแบบ
อยากให้ทางสมาคมแสดงความชัดเจนในกรณีเช่นนี้ให้ด้วยครับ
ป.ล. --- ผมขอยกตัวอย่างง่าย ๆ นะครับ
เมื่อหลายปีก่อนผมนำพระไปเลี่ยมกรอบทองกับร้านทองแห่งหนึ่ง
น้ำหนักทองประมาณ 3 กรัม ราคาทอง ณ ช่วงเวลานั้นประมาณบาทละ 14000 บาท
ราคากรอบพระ ณ เวลานั้น ประมาณ 2700 บวกค่าแรงอีกประมาณ 1300 รวมแล้วราคา 4000
แล้วมาเมื่อสัปดาห์ก่อนผมได้นำกรอบพระนี้ไปแกะออกขายเพื่อทำกรอบใหม่
ราคาทองอ้างอิง ณ วันที่นำไปขาย ทองรูปพรรณรับซื้อคืน 23100
ซึ่งหากคำนวณตามน้ำหนักแล้วควรจะขายคืนได้ประมาณ 4500 แต่ทางร้านกลับตีราคารับซื้อเพียง 3000
ในขณะที่กรอบพระใหม่ที่เลือกน้ำหนัก 3.67 กรัม คำนวณราคาทองตามประกาศ ณ วันนั้นที่บาทละ 23800
คิดเป็นราคาทอง 5700 บวกค่าแรงไปอีก 1300 รวมเป็นเงิน 7000 บาท
โดยที่ทางร้านอ้างว่าเปอร์เซ็นต์ของทองกรอบพระน้อยกว่าเปอร์เซ็นทองรูปพรรณ แต่การขายออกกลับขายตามราคาประกาศ
ทั้ง ๆ ที่ทางสมาคมได้กำหนดส่วนต่างของราคาซื้อขายทองรูปพรรณ เอาไว้ค่อนข้างสูง
สำหรับกรณีดังเกล่า ผมมองว่าถูกเอาเปรียบจากร้านขายทอง
เพราะตอนขายออกร้านก็ขายตามราคาประกาศของสมาคม ณ วันนั้น
แต่พอตอนรับซื้อคืน กลับเป็นว่าบ่ายเบี่ยงที่จะรับซื้อตามราคาประกาศของสมาคม